หึ่ง!ปลดบิ๊กBSEC
ประจำวันที่: 20 มี.ค. 52
ไอพีโอ“ไทยโพลีคอนส์”พ่นพิษ สรุปผลสอบถึงมือ“วิษณุ เครืองาม”
ประธานบอร์ดบี ฟิท ประชุมด่วนวันนี้ ปลดผู้บริหาร เอ็มดีวาณิชธนกิจไม่รอด พ่วงซีอีโอ แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท (BSEC) วันนี้ เวลา 13.30 น. จะมีการสรุปผลสอบและตัดสินความผิดกรณีหุ้นบริษัท ไทยโพลีคอนส์ (TPOLY) ที่ขายไม่หมด ทำให้ BSEC เสียหาย
วิษณุ
นอกจากนี้ คาดว่าการประชุมบอร์ดวันนี้จะสั่งปลดผู้บริหาร BSEC ด้วยอย่างน้อย 1-2 คน คาดว่าจะเป็นนายธนกฤต เอื้อสงวนกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ และนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อรับผิดชอบต่อความผิดที่เกิดขึ้น
“ข่าวลือระบุว่า จะปลดผู้บริหารบีฟิทรวดเดียว 4 คน ทั้งความผิดกรณีไทยโพลีคอนส์ และการควบรวมที่ล้มเหลว สร้างความเสียหายให้ผู้ถือหุ้น” แหล่งข่าวเปิดเผย
สำหรับผู้บริหาร BSEC ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายเดชา คำแปง นายธนกฤต เอื้อสงวนกุล และนางพรรณี เกลิงเกียรติ
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร BSEC กล่าวว่า ไม่ทราบข่าวลือเรื่องปลดผู้บริหาร แต่ยอมรับว่าจะมีการประชุมบอร์ดในวันนี้จริง และหากจะมีการปลด ก็ต้องดูว่ามีเหตุผลหรือไม่ ซึ่งต้องขอความเป็นธรรมว่าทำผิดเพราะอะไร
แหล่งข่าวใกล้ชิดผู้บริหาร เปิดเผยว่า ไม่ว่าผลสอบจะสรุปอย่างไร เชื่อว่าในที่สุดแล้วนายประสิทธิ์จะเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ เพราะไม่สามารถร่วมทำงานกับนายสาคร สุขศรีวงศ์ กรรมการได้ ซึ่งขณะนี้ได้รับข้อเสนอจากโบรกเกอร์ 2 แห่ง
สำหรับสาเหตุที่นายประสิทธิ์จะถูกปลดนั้น คาดว่ามาจาก 2 เรื่อง คือ กรณีไทยโพลีคอนส์ และกรณี ไม่ให้ความร่วมมือดีลควบรวมกับบล.ยูโอบี เคย์เฮียน
แหล่งข่าวจากผู้ถือหุ้นใหญ่ เปิดเผยว่า ผลการตัดสินขึ้นอยู่กับนายวิษณุ เครืองาม ประธานบอร์ด BSEC ซึ่งคณะตรวจสอบที่ตั้งขึ้นมาได้สรุปผลสอบแล้ว
“ความเหมาะสมทุกอย่างอยู่ที่คุณวิษณุ และไม่มีเหตุผลที่นายเดชา และคุณพรรณีจะลาออก ซึ่งทั้ง 3 คน ไม่มีความผิดเรื่องควบรวม ความผิดจริงอยู่ที่ธนกฤต ที่หลอกบอร์ดว่าขายหุ้นไทยโพลีคอนส์หมด” แหล่งข่าวเปิดเผย
นายจงรัก ระรวยทรง ผู้อำนวยการสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การย้ายงานของผู้บริหารไม่ขัดข้อตกลงของสมาชิก แต่เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เก็ตติง) ที่ติดตามไป ขึ้นอยู่กับต้นสังกัด ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ก็ไม่มีปัญหา
มันคล้ายกับกรณีของ CGS หรือเปล่า ลองพิจารณาดูครับ
BSEC เมื่อปี 2552
ประจำวันที่: 20 มี.ค. 52
ไอพีโอ“ไทยโพลีคอนส์”พ่นพิษ สรุปผลสอบถึงมือ“วิษณุ เครืองาม”
ประธานบอร์ดบี ฟิท ประชุมด่วนวันนี้ ปลดผู้บริหาร เอ็มดีวาณิชธนกิจไม่รอด พ่วงซีอีโอ แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท (BSEC) วันนี้ เวลา 13.30 น. จะมีการสรุปผลสอบและตัดสินความผิดกรณีหุ้นบริษัท ไทยโพลีคอนส์ (TPOLY) ที่ขายไม่หมด ทำให้ BSEC เสียหาย
วิษณุ
นอกจากนี้ คาดว่าการประชุมบอร์ดวันนี้จะสั่งปลดผู้บริหาร BSEC ด้วยอย่างน้อย 1-2 คน คาดว่าจะเป็นนายธนกฤต เอื้อสงวนกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ และนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อรับผิดชอบต่อความผิดที่เกิดขึ้น
“ข่าวลือระบุว่า จะปลดผู้บริหารบีฟิทรวดเดียว 4 คน ทั้งความผิดกรณีไทยโพลีคอนส์ และการควบรวมที่ล้มเหลว สร้างความเสียหายให้ผู้ถือหุ้น” แหล่งข่าวเปิดเผย
สำหรับผู้บริหาร BSEC ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายเดชา คำแปง นายธนกฤต เอื้อสงวนกุล และนางพรรณี เกลิงเกียรติ
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร BSEC กล่าวว่า ไม่ทราบข่าวลือเรื่องปลดผู้บริหาร แต่ยอมรับว่าจะมีการประชุมบอร์ดในวันนี้จริง และหากจะมีการปลด ก็ต้องดูว่ามีเหตุผลหรือไม่ ซึ่งต้องขอความเป็นธรรมว่าทำผิดเพราะอะไร
แหล่งข่าวใกล้ชิดผู้บริหาร เปิดเผยว่า ไม่ว่าผลสอบจะสรุปอย่างไร เชื่อว่าในที่สุดแล้วนายประสิทธิ์จะเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ เพราะไม่สามารถร่วมทำงานกับนายสาคร สุขศรีวงศ์ กรรมการได้ ซึ่งขณะนี้ได้รับข้อเสนอจากโบรกเกอร์ 2 แห่ง
สำหรับสาเหตุที่นายประสิทธิ์จะถูกปลดนั้น คาดว่ามาจาก 2 เรื่อง คือ กรณีไทยโพลีคอนส์ และกรณี ไม่ให้ความร่วมมือดีลควบรวมกับบล.ยูโอบี เคย์เฮียน
แหล่งข่าวจากผู้ถือหุ้นใหญ่ เปิดเผยว่า ผลการตัดสินขึ้นอยู่กับนายวิษณุ เครืองาม ประธานบอร์ด BSEC ซึ่งคณะตรวจสอบที่ตั้งขึ้นมาได้สรุปผลสอบแล้ว
“ความเหมาะสมทุกอย่างอยู่ที่คุณวิษณุ และไม่มีเหตุผลที่นายเดชา และคุณพรรณีจะลาออก ซึ่งทั้ง 3 คน ไม่มีความผิดเรื่องควบรวม ความผิดจริงอยู่ที่ธนกฤต ที่หลอกบอร์ดว่าขายหุ้นไทยโพลีคอนส์หมด” แหล่งข่าวเปิดเผย
นายจงรัก ระรวยทรง ผู้อำนวยการสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การย้ายงานของผู้บริหารไม่ขัดข้อตกลงของสมาชิก แต่เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เก็ตติง) ที่ติดตามไป ขึ้นอยู่กับต้นสังกัด ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ก็ไม่มีปัญหา
มันคล้ายกับกรณีของ CGS หรือเปล่า ลองพิจารณาดูครับ