วันนี้ผมจะมาบอกความรู้สึกของตนเองให้ทุกคนได้รับทราบครับ
ใครที่เป็นผู้ปกครองมีลูกทำงานไกลบ้าน หรือไม่ไกลก็ตาม อ่านแล้ว อยากด่าก็ด่าผมได้ตามสบายเลยครับ
หรือใครจะแนะนำก็ได้ครับ
คือว่าผมทำงานราชการไกลบ้านมากประมาณ ๑๕๐๐ กม.
ผมตั้งใจเลือกที่นี่ครับ คือผมเป็นคนที่แปลกไปจากชาวบ้านทั่วไปมาก
ใครๆก็อยากทำงานใกล้บ้าน เรียนใกล้บ้าน อะไรๆก็ใกล้บ้านไว้ก่อน
แต่ผมกลับตรงกันข้าม
ผมมีความรู้สึกไม่อยากกลับบ้านเลย เบื่อบ้าน เบื่ออะไรก็ตามที่แถวบ้านผม
ไม่ค่อยอยากพบปะผู้คนแถวบ้าน กลับบ้านปีละครั้ง
แถมกลับไปแต่ละครั้งก็อยู่ไม่เคยเกิน ๕วัน บางทีแค่วันเดียวก็มี
ผมไม่มีความรู้สึกอยากอยู่บ้านเลยแม้แต่นิด
ล่าสุดผมกลับไปทำธุระ นอนบ้านแค่คืนเดียวเอง และก็ไม่ได้ทานข้าวกับพ่อแม่เลย
ไม่ใช่รังเกียจพ่อแม่ตนเองนะ คือผม ไม่หิว ไม่อยากกินอะไรเลย
วันนั้นทั้งวันกินแต่นม ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างอะไรก็ที่ทำงานผม
เมื่อก่อนผมอยู่บ้านก็เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว กลับบ้านไปพูดกับพ่อแม่ก็ไม่กี่คำเอง
คือ ผมจะบอกว่า ไม่ใช่ไม่คิดถึงบ้านนะ ตลอดเวลาที่ผมทำงานไกลบ้านผมก็คิดถึงบ้าน
คิดถึงและรัก พ่อแม่ เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยโทรหาท่านเท่าไหร่ ส่วนมากท่านจะโทรหาผมมากกว่า
ล่าสุดนี้ก่อนผมจะมา แม่ก็พยามพูดกล่อมให้ผมนอนบ้านอีกสักคืน
แต่ผมมีความรู้สึกว่าไม่ได้อยากนอนที่บ้านเลย ไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนั้นเท่าไหร่
ผมก็เลยไม่นอน และผมก็ออกเดินทางมาที่ทำงานผม ตอนนี้มาถึงแล้ว
แต่ แม่ผมโทรไปหาน้องสาวที่ทำงานอยู่อีกจังหวัดนึง ร้องไห้และพูดว่า
ผมกลับไปครั้งนี้เปลี่ยนไปมาก ไม่ค่อยคุยกับทางบ้าน ไม่กินข้าวกับพ่อแม่
ชวนกินข้าวก็ไม่กิน ชวนดื่มเหล้ากินข้าวกับเพื่อนบ้าน แต่ผมไม่
แม่ผมยังบอกอีกว่า ผมไปทำงานที่อื่นนานจนลืมบ้านหมดแล้ว ไม่รักแม่แล้ว
เปลี่ยนไปมากๆ ดูหน้าตาก็เปลี่ยนไป เหมือนจะผอมเหลือง (น้องสาวโทรมาเล่าให้ผมฟัง)
แต่ที่จริงไม่ผอมเหลืองนะ น้ำหนัก ๕๙ มาสิบปีแล้วครับ ไม่เคยเปลี่ยน
หน้าตาก็เหมือนเดิมไม่เคยไปทำอะไรมา หรือว่าแม่ไม่ค่อยเห็นหน้าผม
เลยดูเหมือนผมหน้าเปลี่ยนรึเปล่า
ผมกลับไปบ้านเก็บตัวอยู่ในห้องอย่างเดียว รอทำธุระเสร็จ แล้วจะรีบมาที่ทำงานเลย
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เดี๋ยวนี้ผมไม่มีความผูกพันธ์กับที่บ้านเท่าเมื่อก่อนเลย
บางทีคิดเหมือนไม่ใช่บ้านซะด้วยซ้ำ ที่จริงผมไม่ได้เพิ่งเป็นนะครับ
แต่ผมเป็นแบบนี้นานมากแล้ว เป็นตั้งแต่ สมัยเรียนม.ปลายแล้ว
ผมเรียนไกลบ้านตลอด ทำงานไกลบ้านมาตลอด แต่เวลาพ่อไม่สบาย
หรือปู่ไม่สบายผมก็กลับไปเยี่ยมครับ แต่ถึงเทศกาลสำคัญผมก็ไม่อยากกลับ
เพื่อนๆกลับบ้านหมด เหลือผมนอนอยู่ห้องคนเดียว หรือไม่ก้ไปเที่ยวที่อื่นบ้าง
เงินก็นานๆส่งทางบ้านที เพราะเงินเดือนผมน้อยเหลือเกิน พยามประหยัดอยู่ครับ
อีกอย่างคือว่าผมรู้สึกว่าตนเองเหมือนมี ๒ บุคลิค คืออยู่บ้านจะเป็นคนไม่พูด
ไม่มีเพื่อน ไม่ออกไปไหน ไม่เข้าสังคม ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม วางตัวไม่ถูก โลกส่วนตัวสูงมาก
แต่ผมมาอยู่ที่ทำงานอีกสังคมหนึ่ง ผมกลายเป็นอีกคนนึง(รวมถึงที่มหาลัยด้วย)
เช่น ดื่มเก่ง เที่ยวบ้าง พูดมากกกกกกกก เข้าสังคม เข้ากับผู้ใหญ่ได้ ไม่ว่าเจ้านาย หรือคนอื่นๆ
มีเพื่อนมาหาผมบ่อยๆ มักเอาของฝากอะไรติดไม้ติดมือมาตลอด
เพราะผมเป็นคนมีน้ำใจ และชอบช่วยเหลือผู้อื่น ผมเชื่อว่า เพื่อนหลายคนรู้ดี
แต่บางครั้งผมก็รู้สึกผิด ที่ไม่ค่อยโทรหาพ่อแม่เลย ไม่ค่อยกลับบ้านด้วย
อย่างที่ผมได้อธิบายข้างบนนั้นครับ
ผมรู้สึกผิดแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่จะให้ผมแก้ ก็ไม่รู้จะแก้ตรงไหน
เพราะว่า มันตรงกันข้ามกับความรู้สึกผมทั้งหมดเลย
ทำไมเหมือนยิ่งนานผมก็ยิ่งเปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้น
สับสนงุนงงไปหมดครับ คุณมองว่าผมเป็นอย่างไรครับ เลวแค่ไหน
หรือ ตรงไหนที่ผมแย่มาก ด่าได้นะ ผมไม่ว่า หรือถามเพิ่มเติมได้
แต่ผมไม่แน่ใจว่าผมจะตอบกลับได้วันละกี่ครั้ง
เพราะรู้สึกเหมือน ตั้งกระทู้ได้วันละ ๑ ครั้ง ส่วนตอบนั้นไม่รู้เหมือนกัน
เอาเป็นว่า วันนี้ถ้าผมเข้ามาตอบไม่ได้ วันถัดไปจะเข้ามาพูดคุยต่อนะครับ
ปล. ผมโสด ครับ เพื่อนผมก็โสดหลายคนครับ เพราะว่าเราต่างก็ตั้งตัวยังไม่ได้
ขอบคุณครับ
ผมกลับบ้านปีละครั้ง แบบนี้ถือว่าทำตัวแย่มากไหมครับ
ใครที่เป็นผู้ปกครองมีลูกทำงานไกลบ้าน หรือไม่ไกลก็ตาม อ่านแล้ว อยากด่าก็ด่าผมได้ตามสบายเลยครับ
หรือใครจะแนะนำก็ได้ครับ
คือว่าผมทำงานราชการไกลบ้านมากประมาณ ๑๕๐๐ กม.
ผมตั้งใจเลือกที่นี่ครับ คือผมเป็นคนที่แปลกไปจากชาวบ้านทั่วไปมาก
ใครๆก็อยากทำงานใกล้บ้าน เรียนใกล้บ้าน อะไรๆก็ใกล้บ้านไว้ก่อน
แต่ผมกลับตรงกันข้าม
ผมมีความรู้สึกไม่อยากกลับบ้านเลย เบื่อบ้าน เบื่ออะไรก็ตามที่แถวบ้านผม
ไม่ค่อยอยากพบปะผู้คนแถวบ้าน กลับบ้านปีละครั้ง
แถมกลับไปแต่ละครั้งก็อยู่ไม่เคยเกิน ๕วัน บางทีแค่วันเดียวก็มี
ผมไม่มีความรู้สึกอยากอยู่บ้านเลยแม้แต่นิด
ล่าสุดผมกลับไปทำธุระ นอนบ้านแค่คืนเดียวเอง และก็ไม่ได้ทานข้าวกับพ่อแม่เลย
ไม่ใช่รังเกียจพ่อแม่ตนเองนะ คือผม ไม่หิว ไม่อยากกินอะไรเลย
วันนั้นทั้งวันกินแต่นม ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างอะไรก็ที่ทำงานผม
เมื่อก่อนผมอยู่บ้านก็เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว กลับบ้านไปพูดกับพ่อแม่ก็ไม่กี่คำเอง
คือ ผมจะบอกว่า ไม่ใช่ไม่คิดถึงบ้านนะ ตลอดเวลาที่ผมทำงานไกลบ้านผมก็คิดถึงบ้าน
คิดถึงและรัก พ่อแม่ เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยโทรหาท่านเท่าไหร่ ส่วนมากท่านจะโทรหาผมมากกว่า
ล่าสุดนี้ก่อนผมจะมา แม่ก็พยามพูดกล่อมให้ผมนอนบ้านอีกสักคืน
แต่ผมมีความรู้สึกว่าไม่ได้อยากนอนที่บ้านเลย ไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนั้นเท่าไหร่
ผมก็เลยไม่นอน และผมก็ออกเดินทางมาที่ทำงานผม ตอนนี้มาถึงแล้ว
แต่ แม่ผมโทรไปหาน้องสาวที่ทำงานอยู่อีกจังหวัดนึง ร้องไห้และพูดว่า
ผมกลับไปครั้งนี้เปลี่ยนไปมาก ไม่ค่อยคุยกับทางบ้าน ไม่กินข้าวกับพ่อแม่
ชวนกินข้าวก็ไม่กิน ชวนดื่มเหล้ากินข้าวกับเพื่อนบ้าน แต่ผมไม่
แม่ผมยังบอกอีกว่า ผมไปทำงานที่อื่นนานจนลืมบ้านหมดแล้ว ไม่รักแม่แล้ว
เปลี่ยนไปมากๆ ดูหน้าตาก็เปลี่ยนไป เหมือนจะผอมเหลือง (น้องสาวโทรมาเล่าให้ผมฟัง)
แต่ที่จริงไม่ผอมเหลืองนะ น้ำหนัก ๕๙ มาสิบปีแล้วครับ ไม่เคยเปลี่ยน
หน้าตาก็เหมือนเดิมไม่เคยไปทำอะไรมา หรือว่าแม่ไม่ค่อยเห็นหน้าผม
เลยดูเหมือนผมหน้าเปลี่ยนรึเปล่า
ผมกลับไปบ้านเก็บตัวอยู่ในห้องอย่างเดียว รอทำธุระเสร็จ แล้วจะรีบมาที่ทำงานเลย
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เดี๋ยวนี้ผมไม่มีความผูกพันธ์กับที่บ้านเท่าเมื่อก่อนเลย
บางทีคิดเหมือนไม่ใช่บ้านซะด้วยซ้ำ ที่จริงผมไม่ได้เพิ่งเป็นนะครับ
แต่ผมเป็นแบบนี้นานมากแล้ว เป็นตั้งแต่ สมัยเรียนม.ปลายแล้ว
ผมเรียนไกลบ้านตลอด ทำงานไกลบ้านมาตลอด แต่เวลาพ่อไม่สบาย
หรือปู่ไม่สบายผมก็กลับไปเยี่ยมครับ แต่ถึงเทศกาลสำคัญผมก็ไม่อยากกลับ
เพื่อนๆกลับบ้านหมด เหลือผมนอนอยู่ห้องคนเดียว หรือไม่ก้ไปเที่ยวที่อื่นบ้าง
เงินก็นานๆส่งทางบ้านที เพราะเงินเดือนผมน้อยเหลือเกิน พยามประหยัดอยู่ครับ
อีกอย่างคือว่าผมรู้สึกว่าตนเองเหมือนมี ๒ บุคลิค คืออยู่บ้านจะเป็นคนไม่พูด
ไม่มีเพื่อน ไม่ออกไปไหน ไม่เข้าสังคม ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม วางตัวไม่ถูก โลกส่วนตัวสูงมาก
แต่ผมมาอยู่ที่ทำงานอีกสังคมหนึ่ง ผมกลายเป็นอีกคนนึง(รวมถึงที่มหาลัยด้วย)
เช่น ดื่มเก่ง เที่ยวบ้าง พูดมากกกกกกกก เข้าสังคม เข้ากับผู้ใหญ่ได้ ไม่ว่าเจ้านาย หรือคนอื่นๆ
มีเพื่อนมาหาผมบ่อยๆ มักเอาของฝากอะไรติดไม้ติดมือมาตลอด
เพราะผมเป็นคนมีน้ำใจ และชอบช่วยเหลือผู้อื่น ผมเชื่อว่า เพื่อนหลายคนรู้ดี
แต่บางครั้งผมก็รู้สึกผิด ที่ไม่ค่อยโทรหาพ่อแม่เลย ไม่ค่อยกลับบ้านด้วย
อย่างที่ผมได้อธิบายข้างบนนั้นครับ
ผมรู้สึกผิดแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่จะให้ผมแก้ ก็ไม่รู้จะแก้ตรงไหน
เพราะว่า มันตรงกันข้ามกับความรู้สึกผมทั้งหมดเลย
ทำไมเหมือนยิ่งนานผมก็ยิ่งเปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้น
สับสนงุนงงไปหมดครับ คุณมองว่าผมเป็นอย่างไรครับ เลวแค่ไหน
หรือ ตรงไหนที่ผมแย่มาก ด่าได้นะ ผมไม่ว่า หรือถามเพิ่มเติมได้
แต่ผมไม่แน่ใจว่าผมจะตอบกลับได้วันละกี่ครั้ง
เพราะรู้สึกเหมือน ตั้งกระทู้ได้วันละ ๑ ครั้ง ส่วนตอบนั้นไม่รู้เหมือนกัน
เอาเป็นว่า วันนี้ถ้าผมเข้ามาตอบไม่ได้ วันถัดไปจะเข้ามาพูดคุยต่อนะครับ
ปล. ผมโสด ครับ เพื่อนผมก็โสดหลายคนครับ เพราะว่าเราต่างก็ตั้งตัวยังไม่ได้
ขอบคุณครับ