องครักษ์พิทักษ์อสูร บทที่ 1 อากีระ

กระทู้สนทนา
บทแรก
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=17-05-2013&group=26&gblog=1
องครักษ์พิทักษ์อสูร

นิโนมิยะ ยู นักล่าผู้มีหน้าที่พิฆาตเหล่าปิศาจ เขาปฏิบัติหน้าที่อย่างดุดันจนกระทั่งพบกับ
ทาจิบานะ อากีระ อสูรหนุ่มผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีพลังร้ายกาจมากที่สุด แม้จะได้รับคำสั่งให้กำจัด
แต่พอสัมผัสถึงความอ่อนโยนของหัวใจของบุตรเทพอสูรแล้วความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป
จากนักลู้ปราศจากความปรานี เป็นองครักษ์ที่ยินดีทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง
แม้การกระทำนั้นจะต้องเป็นศัตรูกับเทพทั้งสวรรค์หรือปิศาจทุกตนก็ตาม

บทที่ 1

อากีระ

เสียงชกต่อยของคนหลายคนดังออกมาจากซอยแคบๆแห่งหนึ่งห่างจากโรงเรียนมัธยมไม่ไกลเท่าใดนัก เด็กวัยรุ่นอายุราวสิบห้าปีสามคนกำลังรุมเตะเด็กซึ่งมีรูปร่างผอมบางกว่า หนึ่งในกลุ่มนั้นกระชากคอเสื้อของเขาให้ลุกขึ้นและฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าก่อนจะผลักเขาไปกระแทกกำแพงอย่างแรง เด็กคนนั้นไหลรูดลงไปนอนกองกับพื้นโดยมีรองเท้าผ้าใบของเด็กอีกคนหนึ่งเหยียบไว้บนอก

“อย่าสะเออะมายุ่งกับพวกฉันอีก” เขาพูดเสียงดัง “ไม่อย่างนั้นจะเจ็บตัวยิ่งกว่านี้”

เขากระชากเสียงขู่ก่อนหันไปทางเพื่อนอีกสองคนซึ่งยืนคอยอยู่พร้อมกับพูดสั้นๆ

“ไปกันได้แล้วพวกเรา!” เขาหันหน้ากลับมาทางเด็กที่นอนกองอยู่แล้วถ่มน้ำลายใส่

“อย่างแกเป็นแค่นักเรียนดีเด่นก็พอแล้ว อย่ามาทำเสนอหน้าสู่รู้สั่งสอนพวกเราเป็นอันขาด”

ทั้งสามคนเดินจากไปพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ เด็กหนุ่มยันตัวลุกขึ้นยืนและเช็ดใบหน้าเปื้อนมอมแมมของตน เด็กสาวในชุดนักเรียนรีบวิ่งตรงเข้ามา สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ

“อากีระ!”

“คิยูกิ” เด็กชายลดมือลงขณะที่เด็กสาวชื่อคิยูกิใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอเช็ดไปบนใบหน้าของเขา

“โดนพวกอิวาซากิทำร้ายอีกแล้วเหรอ”

“ฮื่อ...พวกเขาแค่เข้าใจอะไรผิดนิดหน่อยเท่านั้นน่ะ” อากีระตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉยราวกับไม่สนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ คิยูกิทำหน้าบึ้งทันที

“นิดหน่อยอะไรกัน” เธอป้ายเลือดที่เปรอะมุมปากของเด็กหนุ่มแล้วยื่นไปตรงหน้าเขา “ถึงกับเลือดตกยางออกเนี่ยนะ ไม่ได้!ฉันจะไปพูดกับพวกอาจารย์ให้จัดการลงโทษกับเจ้าพวกนั้น เจ้าหมอนั่นจะได้เลิกตอแยกับเธอเสียที”

“อย่า!” อากีระร้องเสียงดังจนอีกฝ่ายหน้าเสีย เขาก้มหน้าลง “ถ้าเธอไปฟ้องอาจารย์ พวกนั้นก็จะหันไปเล่นงานเธอด้วย” เขาขบกรามตัวเอง “ฉันไม่เป็นอะไร จริงๆ”

คิยูกิมองชายหนุ่มแล้วส่ายหน้าพร้อมกับยัดผ้าเช็ดหน้าของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงนักเรียน

“จริงๆเลยนะคนอย่างเธอนี่” เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เย็นชาเกินไปแล้ว”

“เย็นชา” อากีระทวนคำอย่างงงๆ อีกฝ่ายพยักหน้าพร้อมกับจิ้มนิ้วไปบนอกของเขา

“ก็เธอน่ะชอบทำเป็นไม่สนใจอะไร ไม่รู้สึกอะไร ไม่โกรธแค้น หัวเราะหรือร้องไห้ ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมเธอถึงต้องทำตัวแบบนี้ด้วย ทั้งที่ตอนเด็กๆเธอออกจะเป็นคนใจดีเสียด้วยซ้ำ”

อากีระนิ่งเงียบ เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหนัก คิยูกิรีบพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“นี่”

“หือ” เขาลดสายตาลงมามองเด็กสาวที่ยืนตรงหน้า และยิ้ม “ฉันแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อยเท่านั้น ไม่มีอะไร” เด็กหนุ่มก้มลงเก็บกระเป๋านักเรียนที่ถูกอันธพาลสามคนเหวี่ยงทิ้งลงถังขยะมาปัดสองสามครั้งก่อนยื่นมือไปดึงกระเป๋าของเด็กสาวมาถือ เธอรั้งกลับ

“ฉันถือเองได้”

“เถอะน่า” อากีระดึงกระเป๋าออกมาจากมือของเธอ ก่อนทั้งคู่จะเดินไปด้วยกัน

“นี่อากีระ” คิยูกิพูดขึ้น เด็กชายเลิกคิ้วเรียวของเขาราวขานรับ เด็กสาวถอนหายใจและพูดต่อ

“เมื่อก่อนเธอเป็นคนที่ร่าเริง ยิ้มง่ายและใจดีมากๆ แล้วทำไมอยู่ๆถึงเปลี่ยนไปเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึกแบบนี้ล่ะ”

“ฉันโตขึ้นมั้ง” เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย เสียงพ่นลมหายใจที่ดังออกมาจากอีกฝ่ายทำให้เด็กหนุ่มรู้ว่าคู่สนทนาของตนอยู่ในอารมณ์ไม่พอใจ “อย่าคิดมากน่า”

“ก็ได้ถ้าเธอสัญญาว่าพรุ่งนี้จะไม่ไปตอแยกับพวกอิวาซากิอีก”

อากีระมองหน้าเพื่อนสาวของเขาและยิ้ม

“ก็ได้” เขาส่งกระเป๋าคืนให้เธอเมื่อทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีป้ายชื่อ
“ชิมามูระ” เด็กสาวเปิดประตูรั้วและหันมาส่งยิ้มให้กับเขา

“ถ้าอย่างงั้น เจอกันพรุ่งนี้นะ” เธอโบกมือให้ก่อนจะเดินหายเข้าไปในบ้าน อากีระยืนอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินจากมา


“ทำไมจู่ๆเธอถึงกลายเป็นคนเย็นชา ไร้ความรู้สึกแบบนี้ล่ะ”

    คำถามของคิยูกิยังคงวิ่งวนเวียนอยู่ในหัว อากีระกัดปากตนเองแน่นและสูดลมหายใจเข้า

“เธอไม่มีวันเข้าใจหรอก คิยูกิ” เด็กหนุ่มพึมพำกับตนเอง ภาพของเด็กชายตัวน้อยอุ้มซากไร้วิญญาณของแมวสีขาวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจและเจ็บปวดรวดร้าวปรากฏขึ้นมาในห้วงสำนึก อากีระหลับตาลง

“ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก ไม่มีวัน”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่