มีข้อข้องใจสงสัย อยากขอคำปรึกษาแนะนำจากท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ด้วยค่ะ คือดิฉันเพิ่งสนใจอ่านและฟังธรรมะได้นาน และเพิ่งจะมีโอกาสได้ไปฝึกปฏิบัติกรรมฐาน ๒ ครั้ง ช่วงที่เข้าฝึกครั้งแรกนั้นรู้สึกเครียดกับวิธีการที่ต้องท่านั้น ท่านี้ ต้องเท่านั้น เท่านี้ รู้สึกไม่ชอบ จึงไม่ค่อยได้ใส่ใจปฏิบัติตามแบบพระอาจารย์ แต่อาศัยดูใจของตัวเองเป็นหลัก ..อยู่ปฏิบัติครั้งแรก ๕ วัน หลังจากนั้นอีก ๒ อาทิตย์ก็ขอทางบ้านไปอีก ๓ วัน ด้วยครั้งก่อนปฏิบัติแบบมีอคติ จึงรู้สึกผิดเหมือนเราไม่ให้ความเคารพพระอาจารย์ ก็เลยอยากไปแก้ตัวด้วยการฝึกปฏิบัติตามแนวทางที่ท่านสอนอย่างเคร่งครัด เพื่อแสดงความเคารพที่มีต่อท่าน..
# ตอนไปปฏิบัติครั้งแรก ตอนเข้านอนในคืนที่สอง ด้วยความอ่อนเพลีย ดิฉันจึงนอนดูลมหายใจและดูร่างกายของตัวเอง แล้วก็หลับมารู้สึกตัวราวๆ ตีสอง ก็เห็นมันตื่นขึ้นจากกลางอก จากนั้นเหมือนมีพลังงานวิ่งไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไปแขน ขา หลังจากนั้นร่างกายแขนขาของเราก็ขยับได้ จริงๆ เคยเห็นอย่างนี้มาบ้างแล้วแต่ไม่ชัดถึงขนาดเห็นว่าเกิดจากไหน
..ด้วยพฤติกรรมเดิมที่ชอบทำช่วงพักเบรคกลางวัน ในวันที่รู้สึกเหนื่อยมากๆ คือ ชอบนอนดูตัวเองหายใจ และดูร่างกายตัวเองนอน โดยเลือกนอนราบบนพรมหรือไม่ก็ที่นอนบางๆ เพราะรู้สึกเห็นร่างกายและการหายใจได้ชัด และหากช่วงไหนเครียดก็มักจะดูตัวเองคิดไปด้วย (ทั้งหมดที่ทำเพราะรู้สึกช่วยผ่อนคลายร่างกายและความเครียดได้ดี ก็ทำไปยังงั้น เพราะตอนนั้นยังมองธรรมะ ศาสนา เป็นเรื่องของพวกผิดหวัง อกหัก เบื่อโลก ไม่น่าเข้าใกล้) ....และบางครั้งถึงขนาดเห็นว่าส่วนที่คิดไม่ใช่เรา แต่ด้วยความไม่รู้ ทุกครั้งจึงดูไป โกรธไป เลยเถิดไปจนสงสัยว่าตัวเองเพี้ยน บ่อยครั้งที่เผลอหลับแล้วเมื่อรู้สึกตัวตื่น เหมือนมีพลังงานวิ่งไปตามแขน ขา ก่อนที่จะขยับตัวได้ ..ซึ่งดิฉันเข้าใจว่าเกิดจากการชาเพราะนอนท่าเดิมนานๆ (แม้จริงๆ จะแค่ไม่ถึงสิบนาที ) พอขยับการไหลเวียนก็ดีขึ้น ก็เลยรู้สึกเช่นนั้น เลยเน้นหาวิตามินมากิน แต่สังเกตเห็นว่าจะเกิดก็เฉพาะตอนงีบกลางวันแบบนี้เท่านั้น
- การนอนดูลมหายใจตัวเองแบบนี้ เข้าข่ายเป็นการทำสมาธิหรือเปล่าคะ?
- และถ้าใช่อาการที่เกิดเป็นผลของสมาธิหรือเปล่าคะ? เรียกว่าอะไร?
# หลังจากกลับจากการปฏิบัติในครั้งแรกนั้น วันแรกที่เข้านอนดิฉันก็นอนดูร่างกายหายใจ จนหลับไป และมารู้สึกตัวตอนสามีเอามือเข้ามากอด รู้สึกร่างกายเป็นอะไรก็ไม่รู้ เป็นท่อนๆ แข็งๆ ไม่ใช่ตัวเรา เห็นการกอดเป็นการกระทบกันของวัตถุ ก็รู้สึกตกใจเลยลองขยับตัวโดยการกอดตอบ ก็ยังรู้สึกแข็งๆ เป็นท่อนๆ อยู่ จนสักพักเหมือนมันค่อยๆ ผสานขึ้นมาเป็นเรา
- จึงไม่ทราบว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร ใช่ผลจากการปฏิบัติหรือเปล่าคะ? และถ้าใช่..การเห็นแบบนี้ไวไปหรือเปล่าคะ?
- และถ้าปฏิบัติไปเรื่อยๆ แล้วเราจะยังมีความรู้สึกกับครอบครัวเหมือนเดิมหรือเปล่าคะ ? เพราะตอนนี้ทางครอบครัวเริ่มเป็นกังวลกันมาก
- การเข้าปฏิบัติครั้งที่สอง โดยเน้นปฏิบัติตามพระอาจารย์อย่างเคร่งครัด ดิฉันเริ่มเห็นท้องพองยุบในตอนนั่งได้แล้ว (เมื่อก่อนมันจะไหลมาดูลม ไม่ดูท้อง) ดิฉันอดทนได้มากขึ้น แต่ไม่เห็นและไม่มีอาการอะไร ไม่ทราบเป็นเพราะเรายังไม่คุ้นหรือเปล่า หรือว่าเป็นเรื่องปกติ ?
- โดยปกติต้องไปปฏิบัติที่วัดหรือที่สถานปฏิบัติบ่อยแค่ไหนคะ? ปัจจุบันก็พยายามตื่นตีสี่ เพื่อสวดมนต์ไหว้พระ และทำสมาธิทุกวัน แต่เดินจงกลมไม่ค่อยจะได้ รู้สึกพลังมันน้อยกว่าตอนปฏิบัติที่วัด นั่งสมาธิก็มีแต่ง่วง ขอคำแนะนำวิธีสู้กับความง่วงด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมมาขอคำปรึกษาค่ะ
# ตอนไปปฏิบัติครั้งแรก ตอนเข้านอนในคืนที่สอง ด้วยความอ่อนเพลีย ดิฉันจึงนอนดูลมหายใจและดูร่างกายของตัวเอง แล้วก็หลับมารู้สึกตัวราวๆ ตีสอง ก็เห็นมันตื่นขึ้นจากกลางอก จากนั้นเหมือนมีพลังงานวิ่งไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไปแขน ขา หลังจากนั้นร่างกายแขนขาของเราก็ขยับได้ จริงๆ เคยเห็นอย่างนี้มาบ้างแล้วแต่ไม่ชัดถึงขนาดเห็นว่าเกิดจากไหน
..ด้วยพฤติกรรมเดิมที่ชอบทำช่วงพักเบรคกลางวัน ในวันที่รู้สึกเหนื่อยมากๆ คือ ชอบนอนดูตัวเองหายใจ และดูร่างกายตัวเองนอน โดยเลือกนอนราบบนพรมหรือไม่ก็ที่นอนบางๆ เพราะรู้สึกเห็นร่างกายและการหายใจได้ชัด และหากช่วงไหนเครียดก็มักจะดูตัวเองคิดไปด้วย (ทั้งหมดที่ทำเพราะรู้สึกช่วยผ่อนคลายร่างกายและความเครียดได้ดี ก็ทำไปยังงั้น เพราะตอนนั้นยังมองธรรมะ ศาสนา เป็นเรื่องของพวกผิดหวัง อกหัก เบื่อโลก ไม่น่าเข้าใกล้) ....และบางครั้งถึงขนาดเห็นว่าส่วนที่คิดไม่ใช่เรา แต่ด้วยความไม่รู้ ทุกครั้งจึงดูไป โกรธไป เลยเถิดไปจนสงสัยว่าตัวเองเพี้ยน บ่อยครั้งที่เผลอหลับแล้วเมื่อรู้สึกตัวตื่น เหมือนมีพลังงานวิ่งไปตามแขน ขา ก่อนที่จะขยับตัวได้ ..ซึ่งดิฉันเข้าใจว่าเกิดจากการชาเพราะนอนท่าเดิมนานๆ (แม้จริงๆ จะแค่ไม่ถึงสิบนาที ) พอขยับการไหลเวียนก็ดีขึ้น ก็เลยรู้สึกเช่นนั้น เลยเน้นหาวิตามินมากิน แต่สังเกตเห็นว่าจะเกิดก็เฉพาะตอนงีบกลางวันแบบนี้เท่านั้น
- การนอนดูลมหายใจตัวเองแบบนี้ เข้าข่ายเป็นการทำสมาธิหรือเปล่าคะ?
- และถ้าใช่อาการที่เกิดเป็นผลของสมาธิหรือเปล่าคะ? เรียกว่าอะไร?
# หลังจากกลับจากการปฏิบัติในครั้งแรกนั้น วันแรกที่เข้านอนดิฉันก็นอนดูร่างกายหายใจ จนหลับไป และมารู้สึกตัวตอนสามีเอามือเข้ามากอด รู้สึกร่างกายเป็นอะไรก็ไม่รู้ เป็นท่อนๆ แข็งๆ ไม่ใช่ตัวเรา เห็นการกอดเป็นการกระทบกันของวัตถุ ก็รู้สึกตกใจเลยลองขยับตัวโดยการกอดตอบ ก็ยังรู้สึกแข็งๆ เป็นท่อนๆ อยู่ จนสักพักเหมือนมันค่อยๆ ผสานขึ้นมาเป็นเรา
- จึงไม่ทราบว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร ใช่ผลจากการปฏิบัติหรือเปล่าคะ? และถ้าใช่..การเห็นแบบนี้ไวไปหรือเปล่าคะ?
- และถ้าปฏิบัติไปเรื่อยๆ แล้วเราจะยังมีความรู้สึกกับครอบครัวเหมือนเดิมหรือเปล่าคะ ? เพราะตอนนี้ทางครอบครัวเริ่มเป็นกังวลกันมาก
- การเข้าปฏิบัติครั้งที่สอง โดยเน้นปฏิบัติตามพระอาจารย์อย่างเคร่งครัด ดิฉันเริ่มเห็นท้องพองยุบในตอนนั่งได้แล้ว (เมื่อก่อนมันจะไหลมาดูลม ไม่ดูท้อง) ดิฉันอดทนได้มากขึ้น แต่ไม่เห็นและไม่มีอาการอะไร ไม่ทราบเป็นเพราะเรายังไม่คุ้นหรือเปล่า หรือว่าเป็นเรื่องปกติ ?
- โดยปกติต้องไปปฏิบัติที่วัดหรือที่สถานปฏิบัติบ่อยแค่ไหนคะ? ปัจจุบันก็พยายามตื่นตีสี่ เพื่อสวดมนต์ไหว้พระ และทำสมาธิทุกวัน แต่เดินจงกลมไม่ค่อยจะได้ รู้สึกพลังมันน้อยกว่าตอนปฏิบัติที่วัด นั่งสมาธิก็มีแต่ง่วง ขอคำแนะนำวิธีสู้กับความง่วงด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ