พ.ค.53 ปะทะเดือดกลาง ถ.พระรามที่ 4

รายงานพิเศษ '๓ ปี ๑๙ พฤษภา ๕๓' ทุ่งสังหารราชประสงค์ ตอนที่ 2

วันนี้ (14 พฤษภาคม) เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มาตรการกระชับวงล้อมและขอคืนพื้นที่ชุมนุมตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะถนนพระรามที่ 4 เนื่องจากเป็นเส้นทางหนึ่งที่ผู้ชุมนุมใช้เข้า-ออกเวทีราชประสงค์ จนเกิดการปะทะกันอย่างหนัก และมีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต

มาตรการกระชับวงล้อมและขอคืนพื้นที่การชุมนุมกลุ่ม นปช. ของ ศอฉ. เริ่มเด่นชัดมากขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 ทั้งการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่การชุมนุมและบริเวณใกล้เคียง โดยห้ามยานพาหนะสัญจรเข้าออก และประชาชนที่พักอาศัยในพื้นที่ จะต้องถือเอกสารแสดงตัวทุกครั้ง ณ จุดตรวจ จุดสกัดของเจ้าหน้าที่ ซึ่งวางกำลังอยู่รอบเส้นทางเข้า-ออกเวทีราชประสงค์

จุดที่มีการปะทะหนักคือ ถนนพระรามที่ 4 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตั้งแนวรั้วขวางบนถนนเพื่อปิดการจราจร ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจ จึงขว้างปาสิ่งของ ประทัดยักษ์ หนังสติ๊ก ตะไล และยิงอาวุธปืนใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมรื้อแนวรั้วออก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมออกไปจากบริเวณสะพานไทย-เบลเยี่ยม โดยใช้อาวุธปืนทั้งที่ยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ และยิงสกัดกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม

ผลจากเหตุปะทะบนถนนพระรามที่ 4 ทำให้มีผู้บาดเจ็บจากการถูกยิงหลายราย หนึ่งในนั้นคือนายบุญมี เริ่มสุข วัย 70ปี ถูกกระสุนปืนยิงบาดเจ็บสาหัส ขณะยืนดูเหตุปะทะบริเวณ ปั้ม ปตท.บ่อนไก่ เวลาประมาณ 15.00น. และเสียชีวิตในอีก 3 เดือนต่อมา

ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งชันสูตรพลิกศพว่า นายบุญมี เสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ร่วมกับประวัติการถูกยิงด้วยกระสุนปืน .223 หรือ 5.56 มม. เข้าที่ช่องท้อง ทำให้ลำไส้ทะลุหลายจุด โดยยังไม่ทราบว่าฝ่ายใดเป็นผู้กระทำ เพราะกระสุนชนิดนี้ มีใช้ทั้งในฝั่งเจ้าหน้าที่ และกองกำลังติดอาวุธ

นายฐานุทัศน์ ถูกยิงเมื่อเวลาประมาณ 12.00น. ขณะยืนรอรถประจำทาง กระสุนปืนเข้าที่ไขสันหลัง ผ่านปอดขวา และฝังที่สะบักขวา ผู้เห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล  แพทย์ระบุว่า กระสุนปืนถูกจุดสำคัญ ทำให้ประสาทไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ เป็นผลให้ขาทั้งสองข้างเป็นอัมพาต ก่อนที่จะเสียชีวิตในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2555

โดยนายฐานุทัศน์เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบ ระบบไหลเวียนโลหิต และการหายใจล้มเหลวจากโรคมะเร็งระยะลุกลาม ซึ่งเขา ตรวจพบโรคมะเร็งก่อนเกิดเหตุถูกยิง ส่งผลให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งชันสูตรพลิกศพระบุว่า นายฐานุทัศน์ ไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกยิงโดยตรง

นอกจาก เหตุปะทะบนถนนพระรามที่ 4 แล้ว อีกจุดหนึ่งที่เกิดเหตุวุ่นวายคือ ถนนราชปรารภ ซึ่ง ศอฉ. ประกาศให้เป็นพื้นที่งดสัญจร โดยเฉพาะในช่วงค่ำคืนวันที่ 14 พฤษภาคม  ซึ่งช่วงเวลานั้น  นายบุญทิ้ง ปานศิลา วัย 25ปี เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์กู้ชีพวชิรพยาบาล ถูกยิงเสียชีวิตขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ บริเวณปั๊มเชลล์ ถนนราชปรารภ โดยถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูงเข้าที่คอด้านซ้าย ตัดเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เสียเลือดมาก

นี่จึงถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า แม้แต่เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ยังไม่รอดพ้นคมกระสุนปืนในเหตุปะทะ และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถสืบสวนหาผู้ก่อเหตุในความสูญเสียครั้งนี้ได้
by Weeranan

ที่มา
http://news.voicetv.co.th/thailand/69892.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่