วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 21:05 น. ข่าวสดออนไลน์
ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวน3ศพสวนลุมฯ-ชี้ไร้อาวุธ
วันที่ 11 ก.ย. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายปิยะพงษ์ กิติวงศ์ ผู้ตายที่ 1 นายประจวบ ศิลาพันธ์ ผู้ตายที่ 2 และนายสมศักดิ์ ศิลารัตน์ ผู้ตายที่ 3 ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณสวนลุมพินี ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553 โดยพนักงานอัยการนำพยานเข้าเบิกความจำนวน 5 ปาก
นายธงชัย เฮงหลียน เบิกความว่า พยานประกอบอาชีพค้าขายปลาทู ขณะออกไปซื้อปลาทูพบผู้ชุมนุมเลยเข้าไปดูและจอดรถที่สน.ลุมพินี สักพักเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งแถวพร้อมถืออาวุธปืนอยู่บริเวณถนนวิทยุ ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เลยวิ่งข้ามฝั่งไปนั่งอยู่บนฟุตปาธสวนลุมพินี พร้อมนักข่าว 1 คน สักพักนักข่าวคนดังกล่าวถูกยิง พยานกำลังลุกไปช่วยก็ถูกยิง ระหว่างที่ลุกนั้นพยานหันหลังให้เจ้าหน้าที่
ด้านนายปรีชา ณุวงษ์ศรี เบิกความว่า พยานรับราชการอยู่ที่วชิรพยาบาล วันเกิดเหตุรับมอบหมายให้ไปประจำอยู่ที่ถนนวิทยุ ก่อนรับแจ้งเจ้าหน้าที่ปะทะกับผู้ชุมนุมในสวนลุมพินีและมีผู้บาดเจ็บ จึงเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อไปถึงเห็นผู้เสียชีวิตอยู่ขอบสระน้ำ เลยเข้าไปนำศพออกมาทราบชื่อนายปิยะพงษ์ โดยสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่อยู่บนเนินภายในสวนลุมพินีหลายสิบนาย แต่ละนายหมอบกับพื้นและประทับปืนลักษณะเล็งยิง ต่อมารับแจ้งมีศพอีกราย จึงรุดตรวจสอบพบศพนายประจวบ โดยจุดที่พบศพทั้ง 2 รายจะมองเห็นเจ้าหน้าที่ในแนวเดียวกัน และเก็บศพไม่พบผู้ตายมีอาวุธ
นางจีน พวบขุนทด มารดาของนายสมศักดิ์ เบิกความว่า วันเกิดเหตุลูกชายออกจากบ้านที่พระประแดงไปร่วมชุมนุมกับเพื่อน ก่อนเพื่อนลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่านายสมศักดิ์ถูกยิงตายแล้ว อีกวันเลยเดินทางไปรับศพที่ร.พ.ตำรวจ
ขณะที่นายแสงเพชร รื่นรมย์ รปภ.สวนลุมพินี เบิกความว่า วันเกิดเหตุเข้าเวรและเห็นเจ้าหน้าที่วางกำลังบริเวณถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ โดยทุกนายมีอาวุธปืน ต่อมามีรถจักรยานยนต์ 5 คันวิ่งไปในสวนลุมพินีและถูกยิงมาจากถนนพระราม 4 ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพออกมาพบใน 2 ศพอยู่ในกลุ่มที่ขี่รถเข้าไป ซึ่งไม่พบอาวุธ
นายเทอดศักดิ์ ดวงพระเพ็ง รปภ.สวนลุมพินี เบิกความว่า วันเกิดเหตุเข้าเวรและช่วงบ่ายเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งแนวตรงถนนวิทยุ สักพักเจ้าหน้าที่ปะทะกับผู้ชุมนุม โดยได้ยินเสียงปืนดังจากถนนวิทยุ และรับแจ้งมีรถจักรยานยนต์เข้าไปในสวนลุมพินี โดยมีผู้บาดเจ็บ และจากที่เคยเป็นพลทหารและฝึกใช้อาวุธคาดว่าเสียงปืนน่าเป็นกระสุนจริงและไม่พบบุคคลใดถืออาวุธยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 8 ต.ค. เวลา 09.00 น.
พยาน ต่างให้การเป็นไปในทางเดียวกันว่า ศพที่พบนั้น ไม่มีใครมีอาวุธติดตัวเมื่อขณะพบศพนั้น ๆ และ พยานบางคน
บอกว่า มีทหารถือปืนเล็งยิงมาทางผู้ชุมนุม
หลายศพแล้ว ที่ ศาลชี้ว่า การตายเกิดจากเจ้าหน้าที่ แต่บางศพ ศาลไม่ชี้ (แต่ สลิ่ม แมงสาป เผือกชี้ว่า ตายเพราะ
เสื้อแดงฆ่ากันเอง)
พี่มาร์คขาาาาาาาาาาาาา ไม่นาน พี่มาร์ค กับ พี่เตป จะได้นอนคุกแน่นอน
unfortunately, some people die, WTF you are talking about. it is you who did that, it is not god
and it is not luck.
ศาลสั่งคดีมาหลายศพแล้ว วันนี้ มาดูการให้การของพยาน กรณี 3 ศพ ในสวนลุมพินี
ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวน3ศพสวนลุมฯ-ชี้ไร้อาวุธ
วันที่ 11 ก.ย. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายปิยะพงษ์ กิติวงศ์ ผู้ตายที่ 1 นายประจวบ ศิลาพันธ์ ผู้ตายที่ 2 และนายสมศักดิ์ ศิลารัตน์ ผู้ตายที่ 3 ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณสวนลุมพินี ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553 โดยพนักงานอัยการนำพยานเข้าเบิกความจำนวน 5 ปาก
นายธงชัย เฮงหลียน เบิกความว่า พยานประกอบอาชีพค้าขายปลาทู ขณะออกไปซื้อปลาทูพบผู้ชุมนุมเลยเข้าไปดูและจอดรถที่สน.ลุมพินี สักพักเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งแถวพร้อมถืออาวุธปืนอยู่บริเวณถนนวิทยุ ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เลยวิ่งข้ามฝั่งไปนั่งอยู่บนฟุตปาธสวนลุมพินี พร้อมนักข่าว 1 คน สักพักนักข่าวคนดังกล่าวถูกยิง พยานกำลังลุกไปช่วยก็ถูกยิง ระหว่างที่ลุกนั้นพยานหันหลังให้เจ้าหน้าที่
ด้านนายปรีชา ณุวงษ์ศรี เบิกความว่า พยานรับราชการอยู่ที่วชิรพยาบาล วันเกิดเหตุรับมอบหมายให้ไปประจำอยู่ที่ถนนวิทยุ ก่อนรับแจ้งเจ้าหน้าที่ปะทะกับผู้ชุมนุมในสวนลุมพินีและมีผู้บาดเจ็บ จึงเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อไปถึงเห็นผู้เสียชีวิตอยู่ขอบสระน้ำ เลยเข้าไปนำศพออกมาทราบชื่อนายปิยะพงษ์ โดยสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่อยู่บนเนินภายในสวนลุมพินีหลายสิบนาย แต่ละนายหมอบกับพื้นและประทับปืนลักษณะเล็งยิง ต่อมารับแจ้งมีศพอีกราย จึงรุดตรวจสอบพบศพนายประจวบ โดยจุดที่พบศพทั้ง 2 รายจะมองเห็นเจ้าหน้าที่ในแนวเดียวกัน และเก็บศพไม่พบผู้ตายมีอาวุธ
นางจีน พวบขุนทด มารดาของนายสมศักดิ์ เบิกความว่า วันเกิดเหตุลูกชายออกจากบ้านที่พระประแดงไปร่วมชุมนุมกับเพื่อน ก่อนเพื่อนลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่านายสมศักดิ์ถูกยิงตายแล้ว อีกวันเลยเดินทางไปรับศพที่ร.พ.ตำรวจ
ขณะที่นายแสงเพชร รื่นรมย์ รปภ.สวนลุมพินี เบิกความว่า วันเกิดเหตุเข้าเวรและเห็นเจ้าหน้าที่วางกำลังบริเวณถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ โดยทุกนายมีอาวุธปืน ต่อมามีรถจักรยานยนต์ 5 คันวิ่งไปในสวนลุมพินีและถูกยิงมาจากถนนพระราม 4 ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพออกมาพบใน 2 ศพอยู่ในกลุ่มที่ขี่รถเข้าไป ซึ่งไม่พบอาวุธ
นายเทอดศักดิ์ ดวงพระเพ็ง รปภ.สวนลุมพินี เบิกความว่า วันเกิดเหตุเข้าเวรและช่วงบ่ายเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งแนวตรงถนนวิทยุ สักพักเจ้าหน้าที่ปะทะกับผู้ชุมนุม โดยได้ยินเสียงปืนดังจากถนนวิทยุ และรับแจ้งมีรถจักรยานยนต์เข้าไปในสวนลุมพินี โดยมีผู้บาดเจ็บ และจากที่เคยเป็นพลทหารและฝึกใช้อาวุธคาดว่าเสียงปืนน่าเป็นกระสุนจริงและไม่พบบุคคลใดถืออาวุธยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 8 ต.ค. เวลา 09.00 น.
พยาน ต่างให้การเป็นไปในทางเดียวกันว่า ศพที่พบนั้น ไม่มีใครมีอาวุธติดตัวเมื่อขณะพบศพนั้น ๆ และ พยานบางคน
บอกว่า มีทหารถือปืนเล็งยิงมาทางผู้ชุมนุม
หลายศพแล้ว ที่ ศาลชี้ว่า การตายเกิดจากเจ้าหน้าที่ แต่บางศพ ศาลไม่ชี้ (แต่ สลิ่ม แมงสาป เผือกชี้ว่า ตายเพราะ
เสื้อแดงฆ่ากันเอง)
พี่มาร์คขาาาาาาาาาาาาา ไม่นาน พี่มาร์ค กับ พี่เตป จะได้นอนคุกแน่นอน
unfortunately, some people die, WTF you are talking about. it is you who did that, it is not god
and it is not luck.