คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ก่อนจะเข้าสู่ประเด็นตอบ ผมขออธิบายเป็นพื้นก่อนดังนี้
นักวิ่งมาราธอน โดยเฉพาะนักวิ่งที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งๆๆๆมือใหม่
ยังกะประมาณการณ์กำลังงานไม่ถูก
ความเป็นจริง คือต้องวิ่งช้าตอนต้น และทำให้ยังมีแรงวิ่งตอนท้าย
ถ้าคุณไปเร็วตอนต้น ท้ายก็เอวัง
แต่มือใหม่หลายคนก็ว่าจะไปช้าอยู่แล้ว แต่ก็หมดแรงจนได้ แปลว่าไปเร็วกว่าพื้นฐานตัวเองโดยไม่รู้ตัว
เพราะความยังไม่ชำนาญนั่นเอง
เข้ามาที่ตัวคำถามว่าว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะวิ่ง(ช้า)ตลอด ตอบว่าเป็นไปได้ครับ
แต่ผู้ร่างสูตร และเขียนคำแนะนำนี้ เห็นว่า แม้คุณจะวิ่งช้าเท่าที่ตัวเองคิดว่าช้าแล้วนั้น
ก็ยังช้าไม่พอ หลายรายก็หมดแรงและชนกำแพงจนได้ มือใหม่คาดกำลังตัวเองผิดโดยง่าย
ตราบใดที่การเดิน ไม่ได้เป็นกฎห้ามทำ และการเดินในมาราธอนแล้วไม่ฟาวล์
และการเดินถ้ามันช่วยได้ ก็น่าจะใช้การเดินให้เป็นประโยชน์
เปรียบเสมือน ปืนสไนเปอร์ ถ้าเล็งด้วยตัวเองแม่นยำแล้ว ลำกล้องส่องดูเหยื่อเป้าหมายก็ไม่มีความจำเป็น
ก็ถามว่า แล้ว จขกท. แม่นแล้วเหรอ คุณว่าคุณยิงปืนสไนเปอร์แม่นด้วยการใช้หรี่ตาก็พอเพียงแล้วใช่ไหม
กล้องจึงไม่ใช้ก็ได้
ตราบใดที่พลาดแล้วแก้ตัวล้างตาได้บ่อยๆ ก็ทำ ผิดเป้า ก็ขึ้นไก ยิงใหม่ ยิงจนกว่าจะถูก
แต่ชีวิตจริงสนามมาราธอนราคาไม่ถูกเลย ไม่เพียงแต่ราคาเม็ดเงินที่จ่ายกับค่าสมัครเท่านั้น
แต่ค่าเดินทาง , ค่าโรงแรม , ค่าฯลฯลฯล รวมไปถึงค่าคาใจไปอีก 1 ปี ปีหน้าลงใหม่ มันจะแพงมากเลย
ในเมื่อโลกมีการเดินให้เป็นเครื่องมือไว้ใช้ แต่คุณก็ไม่ใช้ คุณก็ต้องเสี่ยงกับภาวะเกลี่ยกำลังงานตัวเองไม่แม่นยำ
เตือนว่า...อะไรก็ตาม ครั้งแรกอะไรก็ไม่ได้เรื่องเสมอ
จึงตอบว่าในทางทฤษฎี วิ่งต่อเนื่องได้ แต่เสี่ยงผิดพลาดครับ
ผมวิจารณ์ว่าผู้วิ่ง จขกท. มีวิธีคิดเอาเองว่าเป็นความน่าละอายที่มาเดินในสนามวิ่ง
จึงปฏิเสธการเดิน ผมแนะนำว่ากลับไปทำใจใหม่ และรับวิธีการที่เป็นประโยชน์ต่อหน้าใหม่
ยืนยันว่าไม่ฟาวล์ ยืนยันว่าการเดินสลับมันเอื้อให้ผู้วิ่งสงวนกลัยโคเจนได้มากแน่นอน
ดีกว่าวิ่งต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสนามครั้งแรกครับ
อย่าใช้สูตรคิดเอาเองครับ
นักวิ่งมาราธอน โดยเฉพาะนักวิ่งที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งๆๆๆมือใหม่
ยังกะประมาณการณ์กำลังงานไม่ถูก
ความเป็นจริง คือต้องวิ่งช้าตอนต้น และทำให้ยังมีแรงวิ่งตอนท้าย
ถ้าคุณไปเร็วตอนต้น ท้ายก็เอวัง
แต่มือใหม่หลายคนก็ว่าจะไปช้าอยู่แล้ว แต่ก็หมดแรงจนได้ แปลว่าไปเร็วกว่าพื้นฐานตัวเองโดยไม่รู้ตัว
เพราะความยังไม่ชำนาญนั่นเอง
เข้ามาที่ตัวคำถามว่าว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะวิ่ง(ช้า)ตลอด ตอบว่าเป็นไปได้ครับ
แต่ผู้ร่างสูตร และเขียนคำแนะนำนี้ เห็นว่า แม้คุณจะวิ่งช้าเท่าที่ตัวเองคิดว่าช้าแล้วนั้น
ก็ยังช้าไม่พอ หลายรายก็หมดแรงและชนกำแพงจนได้ มือใหม่คาดกำลังตัวเองผิดโดยง่าย
ตราบใดที่การเดิน ไม่ได้เป็นกฎห้ามทำ และการเดินในมาราธอนแล้วไม่ฟาวล์
และการเดินถ้ามันช่วยได้ ก็น่าจะใช้การเดินให้เป็นประโยชน์
เปรียบเสมือน ปืนสไนเปอร์ ถ้าเล็งด้วยตัวเองแม่นยำแล้ว ลำกล้องส่องดูเหยื่อเป้าหมายก็ไม่มีความจำเป็น
ก็ถามว่า แล้ว จขกท. แม่นแล้วเหรอ คุณว่าคุณยิงปืนสไนเปอร์แม่นด้วยการใช้หรี่ตาก็พอเพียงแล้วใช่ไหม
กล้องจึงไม่ใช้ก็ได้
ตราบใดที่พลาดแล้วแก้ตัวล้างตาได้บ่อยๆ ก็ทำ ผิดเป้า ก็ขึ้นไก ยิงใหม่ ยิงจนกว่าจะถูก
แต่ชีวิตจริงสนามมาราธอนราคาไม่ถูกเลย ไม่เพียงแต่ราคาเม็ดเงินที่จ่ายกับค่าสมัครเท่านั้น
แต่ค่าเดินทาง , ค่าโรงแรม , ค่าฯลฯลฯล รวมไปถึงค่าคาใจไปอีก 1 ปี ปีหน้าลงใหม่ มันจะแพงมากเลย
ในเมื่อโลกมีการเดินให้เป็นเครื่องมือไว้ใช้ แต่คุณก็ไม่ใช้ คุณก็ต้องเสี่ยงกับภาวะเกลี่ยกำลังงานตัวเองไม่แม่นยำ
เตือนว่า...อะไรก็ตาม ครั้งแรกอะไรก็ไม่ได้เรื่องเสมอ
จึงตอบว่าในทางทฤษฎี วิ่งต่อเนื่องได้ แต่เสี่ยงผิดพลาดครับ
ผมวิจารณ์ว่าผู้วิ่ง จขกท. มีวิธีคิดเอาเองว่าเป็นความน่าละอายที่มาเดินในสนามวิ่ง
จึงปฏิเสธการเดิน ผมแนะนำว่ากลับไปทำใจใหม่ และรับวิธีการที่เป็นประโยชน์ต่อหน้าใหม่
ยืนยันว่าไม่ฟาวล์ ยืนยันว่าการเดินสลับมันเอื้อให้ผู้วิ่งสงวนกลัยโคเจนได้มากแน่นอน
ดีกว่าวิ่งต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสนามครั้งแรกครับ
อย่าใช้สูตรคิดเอาเองครับ
แสดงความคิดเห็น
ถามเกี่ยวกับการวิ่ง ฟูลมาราธอน ครั้งแรก
http://www.bkkmarathon.com/thai/tips_racing.php
ทั้งสามสูตรนั้น จะเหมือนกันอยู่อย่างคือ ข้อแนะนำเกี่ยวกับ ยุทธศาสตร์ในวันวิ่งจริง ที่บอกว่า
"ให้คุณวิ่งอย่างช้าๆ เท่ากับความเร็วคุณในวันซ้อม ห้ามเร็วกว่าที่เคยซ้อมเด็ดขาด
ด้วยการเดิน 1 นาที สลับวิ่งช้า 2 ก.ม. ตั้งแต่ต้นจนจบ"
คำถามของผมคือ เป็นไปได้ไหมครับ สำหรับการวิ่งฟูลมาราธอนครั้งแรก
ที่จะวิ่ง (ช้าๆ) ตลอดระยะทาง โดยไม่ต้องสลับด้วยการเดิน
แล้วจะมีผลเสียหรือไม่ อย่างเช่น เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ, หมดแรง ฯลฯ
(เป็นเป้าหมายส่วนตัวครับ ที่อยาก "วิ่ง" ให้ได้ตลอดระยะทาง)
ปล. ผมอายุ 35 ปี ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพหรือน้ำหนักตัว
เริ่มวิ่งได้ประมาณครึ่งปี เคยลงมินิฯ กับฮาล์ฟฯ มาแล้วครับ