อาจจะบ่นยาวหน่อยนะคะ แหะๆ
เกริ่นก่อนว่า ปกติเราไม่ค่อยแต่งหน้า ลิปสติกแทบไม่ใช้ มีอยู่สองสามแท่ง ใช้ผสมๆสีกันนานๆทีเวลาต้องไปงาน
แต่สองสามครั้งหลังมานี้ จู่ๆเราก็แพ้ แล้วไม่รู้ว่าแพ้แท่งไหน (อย่างที่บอกว่าใช้สองสามสีผสมกัน)
ใช้แล้วมุมปากแห้งเป็นคราบ พอคราบลอกออก ก็กลายเป็นสีดำน่ากลัวมาก ดำอยู่เป็นเดือนเลย
เราก็เลยโละทั้งหมดที่มีทิ้ง แล้วตั้งใจจะหาซื้อใหม่
วันนี้ไปเดิน terminal ตั้งใจจะหาทั้งชุดสำหรับไปงานแต่งงาน แล้วก็หาลิปสติกเพราะมันต้องแต่งหน้าด้วย
เดินผ่านเคาน์เตอร์ LM เลยคิดว่าแวะดูลิปสติกเค้าซะหน่อย
ก็เห็นว่าเค้ามีแจก tester รองพื้นกันอยู่มีคนมุงๆประมาณนึง เราเพิ่งรู้ว่าเค้ามีแจก เห็นมีป้ายบอกว่า ลองเครื่องสำอางรับ tester ฟรี
เราก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ก็เดินๆเลี่ยงไปตรงมุมที่เค้าวางลิป ดูผ่านๆ แล้วก็เดินเลี่ยงออกมา
เพราะคิดว่าจะหาชุดให้ได้ก่อน แล้วค่อยกลับมาเลือกลิป จะได้เลือกสีให้เข้ากับชุด
ไม่รู้ว่ารอบแรกนี้ BA เค้าเห็นเราแล้วจำได้รึเปล่า หรือยังไงนะ
เราก็ไปเดินที่อื่นก่อน ผ่านไปชั่วโมงนึง เราก็วนกลับมาที่เคาน์เตอร์ LM อีกรอบ คราวนี้ก็เลยตรงดิ่งไปตรงที่วางลิปเลย
คนโล่ง มีลูกค้าหญิงชายอยู่คู่เดียว กำลังคุยกับ BA สาวประเภทสองอยู่
พอเราเดินเข้าไป อ้าปากถามได้คำเดียวว่า "ลิป...."
BA คนนั้นก็ยกมือเบรกเรา บอกว่า เขียนก่อนเลยค่ะ เราก็งงๆ เขียนไรฟะ
เค้าก็เอากระดาษลงชื่อ เบอร์โทร อีเมล์มาให้เรากรอก แล้วเอา tester ที่แจกๆกันยัดใส่มือเรา
ตอนนั้นเรายังไม่คิดอะไร รับมาแล้วก็กรอกๆไป คือให้ของฟรีก็รับมา ไม่ได้คิดมาก
กรอกไป ปากก็ถามต่อ "สนใจลิปสติกน่ะค่ะ คือ....."
BA นางนั้นก็เบรกต่อ "ลิปไว้ก่อนค่ะ เขียนนี่ให้เสร็จก่อน"
เราก็เริ่มเหวอๆละ แต่ยังมึนอยู่ เขียนก็เขียน
แต่แล้วขณะที่เขียนอยู่ BA คนเดิม ก็หันไปพยักเพยิดกับลูกค้าคู่เดิมที่อยู่ตรงนั้น แล้วพูดว่า....
"แจกๆไปค่ะจะได้ไม่เสียเวลา ลูกค้าชอบมาอ้อมค้อมอยู่นั่นว่าอยากดูนั่นดูนี่
สุดท้ายก็ค่อยบอกว่า ได้ข่าวว่าแจกเทสเตอร์ ..... พี่เลยตัดไปเลย ไม่ต้องเสียเวลา "
ตอนนั้นเริ่มปรี๊ดขึ้นมาละ โอ้โห เหมาว่าชั้นมาขอของฟรีไม่พอ ยังกล้าเม้าท์ชั้นกับลูกค้าอีกคนต่อหน้าต่อตาเลยนะยะ
ไอ้ประโยคที่เค้าพูดกับลูกค้าอีกคนนั่น ถ้าเค้าพูดกับเราเอง เราจะไม่ว่านะ
จะถือว่าเป็นความเข้าใจผิด เค้าอาจจะหวังดี(แต่ไร้สติ) อยากแจกให้เราโดยเราไม่ต้องอ้อมค้อม
แต่การที่เค้าเอาไปพูดกับลูกค้าอีกคน โดยไม่มองเราเลย ไม่สนใจแม้แต่นิด มันคือการดูถูกด้วย เหมือนจงใจพูดให้เราได้อายเลยทีเดียว
แต่ก็ยังอุตส่าห์ไม่ว่าอะไร ปกติไม่ใช่คนชอบโวยวายไม่ค่อยถือสาใคร (ตอนนี้ยังสงสัยอยู่ว่าใจเย็นเข้าไปได้ไง)
เราก็ยังถามต่อ อธิบายไปว่า อยากได้ลิปแต่เพิ่งแพ้อีกแบรนด์มา อยากรู้ว่าของ LM มีตัวที่ทดสอบการแพ้มาแล้วรึเปล่า
BA นางนั้นก็ทำหน้าบูด ถามว่าอยากได้สีแบบไหน
เราก็บอกเอาสีที่พอปิดสีปากได้ เพราะปากสีคล้ำ (คงเพราะแพ้โน่นแพ้นี้บ่อย)
นางก็คว้าลิปขึ้นมาสีนึงหมับ ไม่ถงไม่ถามซักคำว่าชอบมั้ย จัดการป้ายลงปากเราฉับๆๆๆ
(แล้วสีที่เลือกมา แบบว่า แก่มาก แถมโดดออกมาจากหน้าเราเห็นแต่ปากลอยออกมาเลย ซึ่งเราไม่ชอบแนวนี้)
แล้วบอกว่า "มันต้องลองถึงจะรู้ว่าแพ้รึเปล่า ยังไม่ต้องซื้อค่ะ ลองทาไว้"....ถึงตรงนี้ฟังดูดีใช่มั้ยคะ
แต่ประโยคถัดมานี่สิ...... "เดี๋ยวแพ้ขึ้นมาเอามาคืนจะยุ่งเรื่องมันเยอะ"
แล้วก็ย้ำอีกสองสามครั้งว่า "ถ้าเอามาคืนเรื่องมันเยอะๆๆๆ ยังไม่ต้องซื้อ"
(เอ่อ เราไม่ได้พูดซักคำว่าจะเอามาคืน ไม่มีความคิดจะคืนด้วย เพราะเข้าใจอยู่ว่าเรื่องแพ้เป็นเรื่องเฉพาะคน)
คำพูดเหมือนจะหวังดี แต่น้ำเสียงและอาการมันแปลได้ว่า ยังไงหล่อนก็แค่ทำเป็นถาม ไม่ซื้อหรอก ไม่ต้องมาทำให้ชั้นเสียเวลา
จากนั้นนางก็เดินฉับไปเม้าท์กับลูกค้าคนเดิม เรื่องลูกค้ามาทำเป็นลองสินค้าแล้วค่อยขอเทสเตอร์ต่อ!!!
ณ จุดนั้นเรามึนมาก BA เธอเป็นอะไรของเธอ วันๆเธอขายของได้บ้างมั้ยน่ะ
แต่ในเมื่อเธอไม่สนใจเรา เราก็เลยคว้าลิปทุกอันที่วางให้เทสต์ตรงนั้นมาละเลงที่มือเล่นไปเรื่อยๆ
จนเพื่อน BA อีกคนทนไม่ได้มั้ง ก็เลยเดินมาถามเราว่าสนใจอะไรมั้ย
เราเลยตอบว่า สนใจลิปค่ะ แต่เพื่อนคุณน้องเค้าไม่ให้พี่เลือกสีเลย ไม่สนใจอะไรเลย เอาลิปมาป้ายพี่แล้วไปเลย
เค้าคงคิดว่าพี่แค่อยากได้ของฟรีแล้วมาทำเค้าเสียเวลามั้งคะ
เสร็จแล้วก็ขอกระดาษมาเช็ดปาก แล้วก็เดินออกจากเคาน์เตอร์มา
(ไม่มีการซื้อประชดค่ะ เรามีคติว่า บริการแย่ก็ไม่ควรได้เงินเราไป)
*******************************
เราไม่เข้าใจว่า BA เค้าเอาอะไรมาตัดสิน ว่าใครตั้งใจจะมาซื้อ ใครตั้งใจจะมาขออย่างเดียว โดยที่ลูกค้ายังไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรเลย
อย่างเรา อย่างที่บอกว่าปกติไม่ค่อยแต่งหน้า ไม่ค่อยซื้อเครื่องสำอาง จะซื้อต่อเมื่อต้องใช้
เราก็เลยไม่ใช่ประเภทที่จะไปแวะลองเครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์เล่น
คือ ถ้าเราเดินเข้าช็อปไหน แปลว่าช็อปนั้นได้เงินเราแน่นอน อย่างวันนี้ ถ้าเค้าไม่ทำกับเราแบบนี้ เค้าได้เงินเราไปแล้วแน่ๆ
แล้วต่อให้เราแค่อยากได้ของฟรี แต่เค้าบริการเราดี ลองโน่นนี้ แนะนำเราดีๆ ไม่แน่เราก็อาจจะเปลี่ยนใจซื้อ
ลูกค้าเดินเข้ามาขอของฟรีแล้วลองโน่นลองนี่กันซัก 100 คน
ถ้าคุณบริการเค้าดีๆ มันต้องมีคนอดใจไม่ไหวซื้อของคุณจนได้อย่างน้อยซัก 20 คนแหละ
ซึ่งจริงๆมันก็คือวัตถุประสงค์ของแบรนด์ที่เค้าลงทุนแจกของเพื่อดึงคนเข้าร้านเพื่อจะได้ขายของอย่างอื่นไม่ใช่เหรอ
นี่คุณ BA คนนี้จับของแจกยัดใส่มือลูกค้าแล้วทำท่าเหมือนบอกว่า รับของฟรีไปแล้วก็ไปๆซะ
ทำให้แบรนด์เสียของแจกไปโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย
ปล. สุดท้ายเราได้ลิป body shop มาค่ะ พนักงานบริการดี สีลิปสวยถูกใจ ได้ลิปบำรุงสำหรับปากที่มีอาการแพ้มาอีก 1
ขอบ่น BA laura mercier สาขา terminal 21 หน่อยนะคะ
เกริ่นก่อนว่า ปกติเราไม่ค่อยแต่งหน้า ลิปสติกแทบไม่ใช้ มีอยู่สองสามแท่ง ใช้ผสมๆสีกันนานๆทีเวลาต้องไปงาน
แต่สองสามครั้งหลังมานี้ จู่ๆเราก็แพ้ แล้วไม่รู้ว่าแพ้แท่งไหน (อย่างที่บอกว่าใช้สองสามสีผสมกัน)
ใช้แล้วมุมปากแห้งเป็นคราบ พอคราบลอกออก ก็กลายเป็นสีดำน่ากลัวมาก ดำอยู่เป็นเดือนเลย
เราก็เลยโละทั้งหมดที่มีทิ้ง แล้วตั้งใจจะหาซื้อใหม่
วันนี้ไปเดิน terminal ตั้งใจจะหาทั้งชุดสำหรับไปงานแต่งงาน แล้วก็หาลิปสติกเพราะมันต้องแต่งหน้าด้วย
เดินผ่านเคาน์เตอร์ LM เลยคิดว่าแวะดูลิปสติกเค้าซะหน่อย
ก็เห็นว่าเค้ามีแจก tester รองพื้นกันอยู่มีคนมุงๆประมาณนึง เราเพิ่งรู้ว่าเค้ามีแจก เห็นมีป้ายบอกว่า ลองเครื่องสำอางรับ tester ฟรี
เราก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ก็เดินๆเลี่ยงไปตรงมุมที่เค้าวางลิป ดูผ่านๆ แล้วก็เดินเลี่ยงออกมา
เพราะคิดว่าจะหาชุดให้ได้ก่อน แล้วค่อยกลับมาเลือกลิป จะได้เลือกสีให้เข้ากับชุด
ไม่รู้ว่ารอบแรกนี้ BA เค้าเห็นเราแล้วจำได้รึเปล่า หรือยังไงนะ
เราก็ไปเดินที่อื่นก่อน ผ่านไปชั่วโมงนึง เราก็วนกลับมาที่เคาน์เตอร์ LM อีกรอบ คราวนี้ก็เลยตรงดิ่งไปตรงที่วางลิปเลย
คนโล่ง มีลูกค้าหญิงชายอยู่คู่เดียว กำลังคุยกับ BA สาวประเภทสองอยู่
พอเราเดินเข้าไป อ้าปากถามได้คำเดียวว่า "ลิป...."
BA คนนั้นก็ยกมือเบรกเรา บอกว่า เขียนก่อนเลยค่ะ เราก็งงๆ เขียนไรฟะ
เค้าก็เอากระดาษลงชื่อ เบอร์โทร อีเมล์มาให้เรากรอก แล้วเอา tester ที่แจกๆกันยัดใส่มือเรา
ตอนนั้นเรายังไม่คิดอะไร รับมาแล้วก็กรอกๆไป คือให้ของฟรีก็รับมา ไม่ได้คิดมาก
กรอกไป ปากก็ถามต่อ "สนใจลิปสติกน่ะค่ะ คือ....."
BA นางนั้นก็เบรกต่อ "ลิปไว้ก่อนค่ะ เขียนนี่ให้เสร็จก่อน"
เราก็เริ่มเหวอๆละ แต่ยังมึนอยู่ เขียนก็เขียน
แต่แล้วขณะที่เขียนอยู่ BA คนเดิม ก็หันไปพยักเพยิดกับลูกค้าคู่เดิมที่อยู่ตรงนั้น แล้วพูดว่า....
"แจกๆไปค่ะจะได้ไม่เสียเวลา ลูกค้าชอบมาอ้อมค้อมอยู่นั่นว่าอยากดูนั่นดูนี่
สุดท้ายก็ค่อยบอกว่า ได้ข่าวว่าแจกเทสเตอร์ ..... พี่เลยตัดไปเลย ไม่ต้องเสียเวลา "
ตอนนั้นเริ่มปรี๊ดขึ้นมาละ โอ้โห เหมาว่าชั้นมาขอของฟรีไม่พอ ยังกล้าเม้าท์ชั้นกับลูกค้าอีกคนต่อหน้าต่อตาเลยนะยะ
ไอ้ประโยคที่เค้าพูดกับลูกค้าอีกคนนั่น ถ้าเค้าพูดกับเราเอง เราจะไม่ว่านะ
จะถือว่าเป็นความเข้าใจผิด เค้าอาจจะหวังดี(แต่ไร้สติ) อยากแจกให้เราโดยเราไม่ต้องอ้อมค้อม
แต่การที่เค้าเอาไปพูดกับลูกค้าอีกคน โดยไม่มองเราเลย ไม่สนใจแม้แต่นิด มันคือการดูถูกด้วย เหมือนจงใจพูดให้เราได้อายเลยทีเดียว
แต่ก็ยังอุตส่าห์ไม่ว่าอะไร ปกติไม่ใช่คนชอบโวยวายไม่ค่อยถือสาใคร (ตอนนี้ยังสงสัยอยู่ว่าใจเย็นเข้าไปได้ไง)
เราก็ยังถามต่อ อธิบายไปว่า อยากได้ลิปแต่เพิ่งแพ้อีกแบรนด์มา อยากรู้ว่าของ LM มีตัวที่ทดสอบการแพ้มาแล้วรึเปล่า
BA นางนั้นก็ทำหน้าบูด ถามว่าอยากได้สีแบบไหน
เราก็บอกเอาสีที่พอปิดสีปากได้ เพราะปากสีคล้ำ (คงเพราะแพ้โน่นแพ้นี้บ่อย)
นางก็คว้าลิปขึ้นมาสีนึงหมับ ไม่ถงไม่ถามซักคำว่าชอบมั้ย จัดการป้ายลงปากเราฉับๆๆๆ
(แล้วสีที่เลือกมา แบบว่า แก่มาก แถมโดดออกมาจากหน้าเราเห็นแต่ปากลอยออกมาเลย ซึ่งเราไม่ชอบแนวนี้)
แล้วบอกว่า "มันต้องลองถึงจะรู้ว่าแพ้รึเปล่า ยังไม่ต้องซื้อค่ะ ลองทาไว้"....ถึงตรงนี้ฟังดูดีใช่มั้ยคะ
แต่ประโยคถัดมานี่สิ...... "เดี๋ยวแพ้ขึ้นมาเอามาคืนจะยุ่งเรื่องมันเยอะ"
แล้วก็ย้ำอีกสองสามครั้งว่า "ถ้าเอามาคืนเรื่องมันเยอะๆๆๆ ยังไม่ต้องซื้อ"
(เอ่อ เราไม่ได้พูดซักคำว่าจะเอามาคืน ไม่มีความคิดจะคืนด้วย เพราะเข้าใจอยู่ว่าเรื่องแพ้เป็นเรื่องเฉพาะคน)
คำพูดเหมือนจะหวังดี แต่น้ำเสียงและอาการมันแปลได้ว่า ยังไงหล่อนก็แค่ทำเป็นถาม ไม่ซื้อหรอก ไม่ต้องมาทำให้ชั้นเสียเวลา
จากนั้นนางก็เดินฉับไปเม้าท์กับลูกค้าคนเดิม เรื่องลูกค้ามาทำเป็นลองสินค้าแล้วค่อยขอเทสเตอร์ต่อ!!!
ณ จุดนั้นเรามึนมาก BA เธอเป็นอะไรของเธอ วันๆเธอขายของได้บ้างมั้ยน่ะ
แต่ในเมื่อเธอไม่สนใจเรา เราก็เลยคว้าลิปทุกอันที่วางให้เทสต์ตรงนั้นมาละเลงที่มือเล่นไปเรื่อยๆ
จนเพื่อน BA อีกคนทนไม่ได้มั้ง ก็เลยเดินมาถามเราว่าสนใจอะไรมั้ย
เราเลยตอบว่า สนใจลิปค่ะ แต่เพื่อนคุณน้องเค้าไม่ให้พี่เลือกสีเลย ไม่สนใจอะไรเลย เอาลิปมาป้ายพี่แล้วไปเลย
เค้าคงคิดว่าพี่แค่อยากได้ของฟรีแล้วมาทำเค้าเสียเวลามั้งคะ
เสร็จแล้วก็ขอกระดาษมาเช็ดปาก แล้วก็เดินออกจากเคาน์เตอร์มา
(ไม่มีการซื้อประชดค่ะ เรามีคติว่า บริการแย่ก็ไม่ควรได้เงินเราไป)
*******************************
เราไม่เข้าใจว่า BA เค้าเอาอะไรมาตัดสิน ว่าใครตั้งใจจะมาซื้อ ใครตั้งใจจะมาขออย่างเดียว โดยที่ลูกค้ายังไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรเลย
อย่างเรา อย่างที่บอกว่าปกติไม่ค่อยแต่งหน้า ไม่ค่อยซื้อเครื่องสำอาง จะซื้อต่อเมื่อต้องใช้
เราก็เลยไม่ใช่ประเภทที่จะไปแวะลองเครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์เล่น
คือ ถ้าเราเดินเข้าช็อปไหน แปลว่าช็อปนั้นได้เงินเราแน่นอน อย่างวันนี้ ถ้าเค้าไม่ทำกับเราแบบนี้ เค้าได้เงินเราไปแล้วแน่ๆ
แล้วต่อให้เราแค่อยากได้ของฟรี แต่เค้าบริการเราดี ลองโน่นนี้ แนะนำเราดีๆ ไม่แน่เราก็อาจจะเปลี่ยนใจซื้อ
ลูกค้าเดินเข้ามาขอของฟรีแล้วลองโน่นลองนี่กันซัก 100 คน
ถ้าคุณบริการเค้าดีๆ มันต้องมีคนอดใจไม่ไหวซื้อของคุณจนได้อย่างน้อยซัก 20 คนแหละ
ซึ่งจริงๆมันก็คือวัตถุประสงค์ของแบรนด์ที่เค้าลงทุนแจกของเพื่อดึงคนเข้าร้านเพื่อจะได้ขายของอย่างอื่นไม่ใช่เหรอ
นี่คุณ BA คนนี้จับของแจกยัดใส่มือลูกค้าแล้วทำท่าเหมือนบอกว่า รับของฟรีไปแล้วก็ไปๆซะ
ทำให้แบรนด์เสียของแจกไปโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย
ปล. สุดท้ายเราได้ลิป body shop มาค่ะ พนักงานบริการดี สีลิปสวยถูกใจ ได้ลิปบำรุงสำหรับปากที่มีอาการแพ้มาอีก 1