เรื่องบางเรื่องสำหรับคนบางคนมันก็เกินไปจริงๆ PART4 [ประสบการณ์ครั้งแรกที่เชิญคนออกจากงาน]

ผมเป็นวิศวกรของโครงการหนึ่งครับ เนื่องจากโครงการไม่ใหญ่มาก จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้างานที่นี่

มีลูกน้องหลักๆ ธุรการ 2คน โฟร์แมน 6 คน ลูกจ้างโครงการอีก 15 คน

ผมจ่ายงานโฟร์แมนผมชัดเจนครับว่าทำงานให้เครดิตกัน งานพี่พี่คุมไป ผมไม่ยุ่ง เบิกงวดพี่อยากให้เท่าไรพี่บอกผม
งาน 80 พี่อยากให้ 80 ผมให้ได้
งาน 80 พี่อยากให้ 100 ผมให้ได้ เคลียร์กับผมให้ชัดเจน มีปัญหารับผิดชอบร่วมกัน
แต่ถ้างาน 80 พี่อยากให้ 100 พี่ไม่เคลียร์กับผม ผมให้ได้ แต่ถ้าผมรู้เองที่หลังว่ามัน 80 ถือว่าเราหมดความไว้ใจกัน

ปัญหาคนงานในโครงการก่อสร้างหลักๆเลยก็คือเรื่องขโมยสายไฟครับ
โฟร์แมนผมกับยามจับได้ประจำ คนที่ขโมยก็ไม่ใช่ใครหรอกครับ หลักๆก็คนงานของานไฟฟ้าทั้งนั้น
สายไฟหลักๆก็สายตามห้องครับ บางคนทิ้งปลายไว้ประมาณ 20 ซม. ซึ่งใช้จริงๆแค่ 10 ซม.
พอถึงเวลาติดบล็อกไฟ รีบแห่มาตัดๆๆๆกันใหญ่ และเก็บเศษไป มาก่อนได้ก่อน ผมก็แอบขำ
ถ้าวัดใจกันหน่อยก็สายล่อฟ้าที่เป็นสายเปลือยครับ  ถือว่าใจถึงมาก รอยตัดก็เนียนกริ๊บ ไม่รู้จะโทษใครดี
ถ้าฮาหน่อยก็ขโมยสายทีวีชั่งกิโลขายไม่ได้ราคา ไม่คุ้มค่าความเสี่ยงเลย ยกเว้นที่บ้านจะรับติดเสาอากาศแหละครับถึงคุ้ม

ซึ่งนโยบายของทีมโฟร์แมนผมชัดเจนครับ เลี้ยงได้คนได้ทุกคนยกเว้นคนที่เป็นขโมย ถ้าใครคนหนึ่งในชุดนั้นถูกจับได้ว่าขโมยทางเดียวคือให้ออกยกชุด ที่ผ่านๆมาก็ไปแล้ว 6 ชุด ซึ่งมีแต่งานระบบทั้งนั้น

ปัญหาต่อมาก็คือปัญหาผู้รับเหมามาขอส่งงวดก่อน
ผมบอกกับผู้รับเหมาทุกเจ้าตลอดว่าผมจ่ายงานให้โฟร์แมนผมแล้ว มีอะไรไปคุยกับเขาเพราะผมจ่ายงานไปแล้ว
แต่มีผู้รับเหมาเจ้าใหญ่เจ้าหนึ่งคือเจ้างานระบบ เจ้าของบริษัทเป็นลูกน้องเก่าของเจ้านายผม

โครงการอื่นๆมีปัญหางานระบบปิดงานล่าช้า หลักๆเลยก็คือว่าส่งงวดงานให้ก่อนงานเสร็จ แล้วมันเป็นดิพอกหางหมู
และที่นี่งานระบบค่อนข้างมาก เจ้านายเลยส่งผมมาคุมโครงการเพราะเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ทำงานได้ไม่นาน พอถึงงวดที่ 3 จากทั้งหมด 10 งวด
วิดวะไฟฟ้าก็เริ่มมาคุยกับผมแล้วว่างวดนี้จะขอส่งก่อน ผมก็บอกว่าให้โฟร์แมนพี่ไปคุยกับโฟร์แมนผมก่อนเลย
ตรวจงานกันให้เสร็จก่อน เราค่อยมาคุยกันก็ได้
แต่งานก็ตรวจไม่ผ่าน ปริมาณไม่ครบ มีแค่ 60-70 แต่จะขอเบิก 100

ผมก็บอกเลย ผมให้ไม่ได้ แล้ววิดวะเขาก็ชวนผมครับ อยากไปเที่ยวไหนมั้ย อยากกินอะไรมั้ย อยากได้อะไรเป็นพิเศษมั้ย
ผมก็ตอบปฏิเสธไป ขอให้เนื้องานตามจริงดีกว่าเพราะคนที่จะได้ประโยชน์ก็คือบริษัทฯพี่เองนะ
ต่อมาเหมือนโฟร์แมนเขาจะมาโวยผมครับ ขอส่งงวดก็ไม่ให้ จะเอาอะไรก็ไม่บอก จะให้เค้าทำยังไง
จนเขาพูดว่า “ถ้าโยนให้แต่โฟร์แมนดูแล้วคิดแทนไว้ไม่ได้ จะมีคุณไว้ทำไม”
เลยวิเคราะห์ได้ว่าบริษัทนี้คงไล่ติดสินบนจนเคยตัว และน่าจะเป็นปัญหาของโครงการอื่นๆด้วย

ไม่นานเจ้าของบริษัทลงมาคุยกับผมเอง ผมก็เชิญท่านไปดูหน้างานว่าปัญหาจริงๆคือคนของท่านทำงานไม่เสร็จ
เจ้าของเขาก็คุยกับผมตรงๆว่าพี่ขอ อยากได้อะไรขอให้บอก
ผมก็บอกว่าไม่เป็นอะไรจริงๆครับขอให้ลูกน้องพี่ทำงานให้เสร็จแล้วกัน ถ้าเกิดผมให้ไปโดยไม่เป็นไปตามนั้น
ผมรับผิดชอบไม่ไหวจริงๆ คุยกันนานมากครับ 2-3 ชั่วโมงได้ บอกเหตุผลเรื่องเงินติดที่นู่นที่นี่หลายโครงการ
ผมก็ได้แต่ยิ้มๆและปฏิเสธไปจนเขายอมกลับและเหมือนจะไม่ปลื้มผมเอามากๆ

ในใจก็คิดครับ อยากจะบอกว่า

“พี่เอาเด็กของพี่มาคุยกับผมก็พอครับ อย่าลงมาเล่นเองเลย เดี๋ยวมันจะเสียมวยกัน”

แต่ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวเรื่องยาว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
พอรวบรวมข้อมูลที่คิดว่าพอเป็นประโยชน์ได้ครบ ตอนเช้าก็เรียกน้องสโตร์มาคุย

ผมก็บอกน้องเค้าว่า “ผมอิจฉาพวกคุณนะ คิดง่ายๆและตั้งใจทำให้ดีที่สุด อยากขายไก่ปิ้งก็ขาย อยากเปิดร้านก็เปิด
คุณอาจจะดูว่าผมรายได้ดีมีความมั่นคง แต่จริงๆแล้วผมก็แค่เด็กกอดปริญญาคนนึงและเกาะความมั่นคงของคนอื่นอีกทีเท่านั้นเอง
ผมเคยคิดตั้งแต่สมัยเด็กแล้วว่าอยากเพาะเห็ดฟางขาย ผมก็รู้นะว่าทดลองเพาะเห็ดฟางมันไม่นานหรอก
แค่ 2-3 เดือนก็รู้แล้วว่าจะรอดมั้ย แต่ผมพูดตรงๆ ผมใจไม่ถึงพอเหมือนพวกคุณ
ถ้าคุณคิดว่ามีอะไรเล็กๆน้อยที่อยากทำ และอยากได้เงินตั้งหลักนิดหน่อยก็บอกผมได้นะผมก็จะให้เงินเดือนเดือนนี้เดือนนึง และผมตั้งใจไว้แล้วว่าจบงาน ผมจะให้ทุกคน คนละ 4 เดือน เราทำนี่ได้เกินครึ่งแล้ว ผมก็จะให้อีก 2 เดือน เรื่องปัญหาของเรา ผู้ใหญ่ก็รับรู้ แต่ไม่อยากให้เราออก ทางฝั่งนู้นก็จะพยายามกดดันขึ้นเรื่อยๆ และงาน ฝุ่นงานเชื่อมเหล็กมันจะเยอะขึ้น ผมห่วงเรากับเด็กในท้องมากกว่ามันน่าจะไม่ดีกับเด็กในท้อง”

น้องเค้าก็ตอบกลับมาว่า “หนูก็คิดอยู่เหมือนกัน แม่หนูบอกว่าอยากให้กลับไปที่บ้าน  แม่จะช่วยดูแล แม่กับหนูอยากไปขายหมูปิ้งที่ตลาด หนูก็ห่วงเรื่องเงินแต่ถ้าพี่ให้หนูได้ หนูก็อยากกลับบ้านนะ”

พอน้องพูดจบผมแทบอยากจะกราบน้องเค้า ผมจบปัญหาได้ซักที

ต่อมาผมก็ไปคุยกับวิดวะไฟฟ้าของทางนั้นว่า “ผมพิจารณาให้น้องเค้าออกจากงานแล้วนะ
และผมสัญญากับทุกคนแล้วว่าปิดงานผมจะให้ 4 เดือน น้องเค้าทำมาแล้วครึ่งหนึ่งผมก็ให้ 2 เดือนเป็นการพิจารณาโบนัทเพิ่มเติมไป
อยากให้เข้าใจด้วยว่าผมให้เพราะเป็นคำมั่นสัญญาในช่วงเวลาที่เขาทำดีตลอดมา และเป็นนโยบายของบริษัทประกอบด้วย หวังว่าคงจะเข้าใจ”

ซึ่งทางวิดวะไฟฟ้าเค้าเองก็เข้าใจและสีหน้าเค้าไม่ค่อยดีนักหรอกครับ พอรู้ว่าผมจบเรื่องได้ และเป็นฝ่ายเดินมาหาเองด้วย

และผมบอกเพิ่มว่า “เรื่องที่ผ่านๆมาอาจทำให้เราเริ่มต้นด้วนกันไม่ดีนัก ผมอาจจะดูไม่ให้ความสำคัญจนดูเหมือนจะไม่ให้เกียรติกันก็ต้องขอโทษด้วย ต่อจากนี้ขอให้เราเริ่มต้นกันใหม่ด้วยดีแล้วกัน” พูดจบผมก็ยกมือไหว้ขอโทษเค้าทีนึง

ที่ผมบอกไปผมก็บอกเป็นนัยๆแหละครับว่าตลอดมารู้นะว่าทำอะไร แต่ไม่คิดจะเอาคืน
และการยกมือไหว้ ผมมองว่าเป็นการแสดงออกว่าผมถอย และผมคิดแค่ว่านาทีนี้ขอให้งานจบก่อนแล้วกัน ขอให้อยู่อย่างสบายใจ
และผมอายุน้อยกว่าทำให้การไหว้มันก็ง่ายกว่าด้วย อย่างน้อยก็ให้เรื่องมันจบๆไป

ต่อมาผมก็ไปคุยกับเจ้านายเรื่องโบนัทครับ ใช้มุขเดียวกับพี่สาวเลย “ผมอยากให้พี่พิจารณาโบนัทให้ซัก 4 เดือนครับ มันอาจจะดูเยอะไปหน่อย แต่ถ้าคิดกลับกันว่าเงินมันพิมออกมาทุกวัน และมากขึ้นๆทุกวัน แต่ลูกน้องดีๆไม่ได้พิมออกมาทุกวัน  งานหน้าเขาก็สามารถทำกำไรให้พี่อีก ลองพิจารณาดูแล้วกันครับ” ซึ่งเจ้านายก็โอเคครับ พิจารณาให้

ถึงตอนนี้หลายๆคนคงเดาออกแล้วครับว่าตอนจบจะเป็นยังไง
วันนี้ก็รู้สึกดีไปอีกแบบครับ ไปคุยกับเจ้านายว่า

“ผมจะขอออกจากงาน อยากจะไปเก็บตกอะไรเล็กๆน้อยๆที่ชีวิตวัยรุ่นผมไม่เคยทำ ผมดีใจที่ได้เจอเจ้านายดีๆแบบนี้
และผมเชื่อว่าเจ้านายจะไม่เจอคนดีๆอย่างผมแน่นอน” เจ้านายยิ้มเลยครับ แกก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากทำอะไรก็ทำเลย

ส่วนเรื่องทีมงาน เป็นอะไรที่ผมภูมิใจที่สุดแล้ว
ผมเคยบอกใครๆการประสบความสำเร็จของคือการเป็นผู้รับเหมางานใหญ่ๆอยากเป็นนู่นนี่นั่น

แต่สิ่งที่ผมจะรู้สึกภูมิใจที่สุดก็คือการสร้างทีมเล็กๆขึ้นมาทีมนึง กระจายหน้าที่และความรับผิดชอบทุกอย่าง
ให้คนนั้นทำนั้น คนนี้ทำนี้ ใครทำแทนได้ เมื่อเวลาที่ผมไม่อยู่ หายไป สองวัน สามวัน หรือ หนึ่งสัปดาห์
ทุกคนก็สามารถช่วยกันทำงานแทนกันได้ ถึงเวลานั้นผมคงจะหมดธุระกับที่นี่

ผมเพิ่งสังเกตได้ว่า ระยะ 1-2 เดือนให้หลัง ที่ผมไปดูหลายๆโครงการด้วยนั้น ผมได้ดูเอกสารประจำโครงการนี้น้อยลงไปมาก
พอไปเปิดเอกสารย้อนหลังก็จะมีคนแต่ละคนดูแลแทนผม ไม่ว่าจะเรื่องสั่งของ จ่ายค่าแรง คุมงานแทน หรือแม้แต่การเบิกงวดงานก็ตาม
ซึ่งผมรู้สึกว่า ผมดีใจนะที่ทีมงานผมทำให้ผมได้รู้สึกแบบนี้ก็เป็นจังหวะที่ดีกับอะไรหลายๆอย่าง

สุดท้ายครับเหมือนเดิม หวังว่าเรื่องของผมจะเป็นประโยชน์สำหรับใครอีกหลายๆคนนะครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่