ศาลไต่สวน 6 ศพวัดปทุม พบกระสุนยิงจากรางบีทีเอส

ศาลไต่สวน 6 ศพวัดปทุม จนท.กองพิสูจน์หลักฐาน ชี้ พบรอยกระสุนปืนเพียบถูกยิงมุมกดจากรางรถไฟฟ้า-บีทีเอสสยาม ตรงกับภาพถ่ายทหาร

ที่ห้องพิจารณา 402 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุงเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พ.ค. ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรการเสียชีวิตคดีหมายเลขดำที่ ช.5/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตของนายสุวัน ศรีรักษา อายุ 30 ปี เกษตรกร ผู้เสียชีวิตที่ 1 นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้เสียชีวิตที่ 2 นายมงคล  เข็มทอง อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ผู้เสียชีวิตที่ 3 นายรพ สุขสถิต อายุ 66 ปี พนักงานขับรถรับจ้างในสนามบิน ผู้เสียชีวิตที่ 4 น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี พยาบาลอาสา ผู้เสียชีวิตที่ 5 และนายอัครเดช ขันแก้ว อาชีพรับจ้าง ผู้เสียชีวิตที่ 6 ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม ใกล้แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ช่วงสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

พ.ต.ท.สุรนาท วงศ์พรหมชัย เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจอาวุธปืนและวิถีกระสุน เข้าเบิกความสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.53 ได้เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุภายในวันปทุมวนารามโดยรอบ พบภายในวัดมีร่องรอยกระสุนปืนประมาณ 22-23 แห่ง นอกจากนี้ยังได้ไปตรวจที่เกิดเหตุบริเวณภายนอกวัดอีก 2 ครั้ง และบริเวณสกายวอร์ครถไฟฟ้าบีทีเอสพบว่าวิถีกระสุนถูกยิงมาจาก บีทีเอสสถานีสยาม

จากนั้น พ.ต.ท.ธีระนันท์ นคินทร์พงศ์ เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจอาวุธปืนและวิถีกระสุน เข้าเบิกความในฐานะที่ที่ทำการตรวจวิถีกระสุนภายในวัดปทุมวนาราม สรุปว่า ที่บริเวณหน้าวัดปทุมฯ พบร่องรอยกระสุน 11-12 รอย จากการตรวจสอบยืนยันว่าวิถีกระสุนถูกยิงมาจากที่สูงลงต่ำในลักษณะมุมกดยิง  โดยวิถีกระสุนมาจากรางรถไฟฟ้า และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามชั้น 1 สอดคล้องกับภาพถ่ายในที่เกิดที่ปรากฏภาพทหารยืนอยู่ โดยไม่มีกระสุนถูกยิงออกจากวัดปทุมยิงไปนอกวัดแต่อย่างใด

ต่อมา พ.ต.อ.พิภพ ไกรวัฒนะพงศ์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ผู้เชี่ยวชาญอาวุธปืน เบิกความสรุปว่า จากการตรวจสอบเศษกระสุนและหัวกระสุนที่พบภายในศพนายสุวัน นายอัฐชัย นายมงคล นายรพ และ น.ส.กมนเกด ผู้เสียชีวิตที่ 1 -5 พบว่าเป็นกระสุนปืนชนิด .223 ที่ใช้กับอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนทาโว่ ส่วนศพนายอัครเดช ไม่พบหัวกระสุนเพราะถูกยิงทะลุ แต่จากการตรวจสอบอาวุธปืนเอ็ม16 จำนวน 8 กระบอกของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่พนักงานสอบสวนส่งมาเพื่อเปรียบเทียบกับหัวกระสุนไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนลำกล้องไปแล้ว

ภายหลังพยานเบิกความเสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 16 พ.ค. เวลา 09.00 น.

http://www.dailynews.co.th/crime/203425

                                              ???????????????????????????????????????????



"......ศาลไต่สวน 6 ศพวัดปทุม จนท.กองพิสูจน์หลักฐาน ชี้ พบรอยกระสุนปืนเพียบถูกยิงมุมกดจากรางรถไฟฟ้า-บีทีเอสสยาม ตรงกับภาพถ่ายทหาร....."

".....ภายในวัดมีร่องรอยกระสุนปืนประมาณ 22-23 แห่ง .......พบว่าวิถีกระสุนถูกยิงมาจาก บีทีเอสสถานีสยาม....."

".......ยืนยันว่าวิถีกระสุนถูกยิงมาจากที่สูงลงต่ำในลักษณะมุมกดยิง  โดยวิถีกระสุนมาจากรางรถไฟฟ้า และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามชั้น 1 ....... โดยไม่มีกระสุนถูกยิงออกจากวัดปทุมยิงไปนอกวัดแต่อย่างใด......"

".....พบว่าเป็นกระสุนปืนชนิด .223 ที่ใช้กับอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนทาโว่ ....."



หมด....
หมดกันเลยกับความพยายามของนักบิดเบือนข้อมูลทั้งหลาย
แล้วจะเอาหน้าไปไว้ไหนกันละคราวนี้  ยิ่งงามหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่ด้วย

เพราะจินตนาการอันหลุดโลก  ที่ตั้งธงไว้ก่อนแล้วหาเหตุมาค้านเป็นวรรคเป็นเวร
ประดิษฐ์ประดอยท่าถูกยิงไว้เป็นตุ๊กตาเพียงท่าเดียว(เท่านั้น)  แล้วจินตนาการเหตุผลมาค้านวิถีกระสุนทั้งหมด

จินตนาการกับการพิสูจน์หลักฐานด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์มันต่างกันเช่นนี้เอง

สลิ่ม - แมงสาบพอจะเข้าใจบ้างหรือไม่หนอ...?????

เข้าใจหรือไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจหรือเข้าใจ...???????