ขอเตือนนะคะสำหรับคนที่จะทำฌาปนกิจผู้กู้ ของธนาคารสีเขียว เพื่อการเกษตร
เนื่องจากว่าแม่ขอดิฉันได้ทำฌาปนกิจผู้กู้ ซึ่งเมื่อเสียชีวิตจะได้เงินประกัน ประมาณ 2 แสน(ไม่แน่ใจ )
ซึ่งตรงนี้เรายอมรับที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บของธนาคารในแต่ละปี
แต่เมื่อเดือนที่แล้ว มีหนังสือจากธนาคารว่าได้หักเงินค่าฌาปนกิจออมทรัพย์ เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท
ซึ่งแม่ของดิฉันงงมากว่าไปทำตอนไหน
ไปถามธนาคาร ธนาคารก็บอกว่ามันต้องทำคู่กัน เป็นนโยบาย เราก็เลยถามว่าขอดูเอกสารที่เราเซ็นต์ไปได้มั้ย
พนักงานตอบว่าไปติดต่อขอดูได้เลยค่ะ ถ้าลูกค้าไม่เซ็นต์ธนาคารจะกล้าหักได้ยังไงคะ
ซึ่งตรงนี้แม่ดิฉันงงมาก เราไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำฌาปนกิจออมทรัพย์ตรงนี้ไป ตอนไปทำก็ไปทำพร้อมกันกับบรรดาเพื่อนบ้าน ก็ไม่มีใครได้ฌาปนกิจออมทรัพย์เลยซักคน
สุดท้ายก็เลยคุยกับพนักงานธนาคาร เค้าก็บอกว่าเป็นนโยบายของธนาคาร (ซึ่งในหมู่บ้านมีคนได้แบบนี้ประมาณ 4 - 5 คน)
เท่าที่เราฟัง สรุปได้ใจความคือ เป็นนโยบายของธนาคาร แล้วแต่ว่าใครจะไปทำช่วงแจ็คพ็อต
บางคนพนักงานก็อธิบายว่ามีฌาปนกิจออมทรัพย์เพิ่มนะ ซึ่งตรงนั้นเป็นสิทธิ์ของเราที่จะทำหรือไม่ทำ ไม่ใช้บังคับกันแบบนี้
สรุปเราต้องเสียเงิน 3 พัน แล้วรอจนครบปี ไม่ต้องให้มีเงินในบัญชี หักไม่ได้ ก็จะถือว่าได้ลาออกจากการเป็นสมาชิก (ซึ่งในจดหมายที่ส่งมานั้น
มีการชี้แจงด้วยว่า มีสมาชิกใหม่กี่คน สมาชิกที่ลาออกกี่คน) สงสารตาสีตาสาทั้งหลายที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่
ครั้งนี้ครอบครัวเราถือว่าเสียค่าโง่ เอาเอกสารมาให้เซ็นต์ก็ไม่ได้อ่านก่อนเนื่องจากไปทำกันหลายคน คิวยาว (เราถือว่าเราพลาดเอง)
แต่อยากจะขอบอกว่า ถ้าคุณทำกับลูกค้าแบบนี้ 1 คน = 3,000 บาท
100 คน = 300,000 บาท
หายอดง่ายดีนะคะ
ธนาคารสีเขียว เพื่อการเกษตร ทำไมทำกับตาสีตาสา เช่นนี้คะ
เนื่องจากว่าแม่ขอดิฉันได้ทำฌาปนกิจผู้กู้ ซึ่งเมื่อเสียชีวิตจะได้เงินประกัน ประมาณ 2 แสน(ไม่แน่ใจ )
ซึ่งตรงนี้เรายอมรับที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บของธนาคารในแต่ละปี
แต่เมื่อเดือนที่แล้ว มีหนังสือจากธนาคารว่าได้หักเงินค่าฌาปนกิจออมทรัพย์ เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท
ซึ่งแม่ของดิฉันงงมากว่าไปทำตอนไหน
ไปถามธนาคาร ธนาคารก็บอกว่ามันต้องทำคู่กัน เป็นนโยบาย เราก็เลยถามว่าขอดูเอกสารที่เราเซ็นต์ไปได้มั้ย
พนักงานตอบว่าไปติดต่อขอดูได้เลยค่ะ ถ้าลูกค้าไม่เซ็นต์ธนาคารจะกล้าหักได้ยังไงคะ
ซึ่งตรงนี้แม่ดิฉันงงมาก เราไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำฌาปนกิจออมทรัพย์ตรงนี้ไป ตอนไปทำก็ไปทำพร้อมกันกับบรรดาเพื่อนบ้าน ก็ไม่มีใครได้ฌาปนกิจออมทรัพย์เลยซักคน
สุดท้ายก็เลยคุยกับพนักงานธนาคาร เค้าก็บอกว่าเป็นนโยบายของธนาคาร (ซึ่งในหมู่บ้านมีคนได้แบบนี้ประมาณ 4 - 5 คน)
เท่าที่เราฟัง สรุปได้ใจความคือ เป็นนโยบายของธนาคาร แล้วแต่ว่าใครจะไปทำช่วงแจ็คพ็อต
บางคนพนักงานก็อธิบายว่ามีฌาปนกิจออมทรัพย์เพิ่มนะ ซึ่งตรงนั้นเป็นสิทธิ์ของเราที่จะทำหรือไม่ทำ ไม่ใช้บังคับกันแบบนี้
สรุปเราต้องเสียเงิน 3 พัน แล้วรอจนครบปี ไม่ต้องให้มีเงินในบัญชี หักไม่ได้ ก็จะถือว่าได้ลาออกจากการเป็นสมาชิก (ซึ่งในจดหมายที่ส่งมานั้น
มีการชี้แจงด้วยว่า มีสมาชิกใหม่กี่คน สมาชิกที่ลาออกกี่คน) สงสารตาสีตาสาทั้งหลายที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่
ครั้งนี้ครอบครัวเราถือว่าเสียค่าโง่ เอาเอกสารมาให้เซ็นต์ก็ไม่ได้อ่านก่อนเนื่องจากไปทำกันหลายคน คิวยาว (เราถือว่าเราพลาดเอง)
แต่อยากจะขอบอกว่า ถ้าคุณทำกับลูกค้าแบบนี้ 1 คน = 3,000 บาท
100 คน = 300,000 บาท
หายอดง่ายดีนะคะ