บัฟเฟตต์’ฮุบตลาดไทยอัดคอมม์สูง-เบี้ยต่ำดูดลูกค้าประกัน
ค่ายรับประกันภัยต่อใหญ่ยักษ์ของโลกจากสหรัฐฯ “เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์: Berkshire Hathaway” ของมหาเศรษฐีชื่อดัง “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ยังคงบุกหนักตลาดไทยต่อเนื่องจากปีก่อนที่ฉวยจังหวะน้ำท่วมใหญ่ ผู้รับประกันต่อ (รีอินชัวเรอส์) รายใหญ่ขาดทุนหนักจนต้องถอนตัวและอีกหลายค่าย เจ็บตัวหนักพากันลดการรับประกันภัยลงหรือรับก็คิดเบี้ยประกันแพงมาก บริษัทประกันไทยจ่ายไม่ไหว เบิร์กเชียร์เข้ามาเสนอวงเงินประกันต่อให้ด้วยอัตราเบี้ยที่ต่ำกว่า กวาดส่วนแบ่งตลาดไทยไปได้กว่า 20% กลายเป็นผู้เล่นสำคัญไปทันที
- เบิร์กเชียร์ฯ กุมตลาดไทยเกินครึ่งอัดคอมม์สูงดึงค่ายประกันแห่ซบ
กระทั่งการต่อสัญญารอบใหม่คุ้มครองปี 2556 ที่กำลังทำกันอยู่กำหนดเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ “สยามธุรกิจ” พบว่าเบิร์กเชียร์ยังคงได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมาก โดยแหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัยขนาดใหญ่แห่งหนึ่งกล่าวว่า บริษัทประกันภัยเกิน ครึ่งของอุตสาหกรรมส่งประกันต่อให้กับเบิร์กเชียร์ เนื่องจากเสนอเงื่อนไขดีกว่าผู้รับประกันต่อรายอื่น โดยเฉพาะการให้ค่าคอมมิสชั่นในอัตราที่สูงกับบริษัท ประกันภัยที่ส่งงานให้ ทำให้บริษัทส่วนใหญ่เลือกส่งงานกับเบิร์กเชียร์ทำให้เบิร์กเชียร์มีส่วนแบ่งในตลาด ประกันภัยต่อประเทศไทยเกิน 50% สูงกว่า “ซีซีอาร์” จากฝรั่งที่เคยเป็นเจ้าตลาดที่ถอนตัวออกไป
“เมื่อเบิร์กเชียร์ให้คอมมิสชั่นสูง ทำให้บริษัท ประกันมีส่วนต่างที่จะไปแข่งขันโค้ดราคาเบี้ยประกัน ได้มากขึ้นเพื่อให้ได้งาน ทำให้ราคาเบี้ยประกันเริ่มปรับ ตัวลดลงเป็นผลดีกับผู้บริโภคได้ทั้งราคาและเงื่อน ไขดีขึ้นเพราะนอกจากค่าคอมมิสชั่นแล้ว เขาให้วงเงินรับประกันต่อเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่บริษัทประกัน เจอริสก์ชาร์จเงินกองทุนน้อยลงเพราะเรตติ้งของเบิร์กเชียร์ดีมาก”
- เรตติ้งAAA-เงินสดเพียบหมดห่วงไม่มีเงินจ่ายเคลม
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปีนี้เบิร์กเชียร์แอ็กชั่นมากเทียบกับปีก่อนที่เริ่มเข้ามารับประกันต่อเฉพาะสัญญา ประกันต่อความเสียหายส่วนเกิน (excess of loss) แต่ปีนี้ขยายมายังสัญญาประกันต่อทั่วไป (treaty) แม้ จะมีผู้รับประกันต่อหน้าใหม่ๆ เข้ามาเยอะแต่ไม่มีใครสู้ได้ การแอ็กชั่นของเบิร์กเชียร์และผู้รับประกัน ต่อรายใหม่ๆ ที่เข้ามาทำให้เบี้ยประกันที่ต่อสัญญาปีนี้เริ่มลดลงอย่างเบี้ยประกันตรงที่บริษัทประกันจะขายให้กับลูกค้าน่าจะลดลง 10-20%
อย่างไรก็ดี แม้เบิร์กเชียร์จะครองส่วนแบ่งตลาดประกันภัยต่อของไทยเกินครึ่งแต่ไม่มีความเสี่ยงหากเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกสามารถจ่ายสินไหมทดแทน ได้อยู่แล้วเพราะฐานะการเงินแข็งแกร่งมาก มีเงิน สดมากถึง 4 หมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท อันดับความน่าเชื่อถือระดับ AAA จุดที่น่าห่วงมีเพียงเรื่องเดียวคือนโยบายของเบิร์กเชียร์ หากผลตอบแทนประกันต่อไม่น่าพอใจ ราคาเบี้ยประกัน ลดลงจะถอนตัวออกไป บริษัทประกันต้องบริหารความเสี่ยงให้ดีเผื่อรับกรณีนี้ด้วย
- “ชัย” ชี้เบิร์กเชียร์เข้าถูกจังหวะเงื่อนไขดี-เบี้ยต่ำเอื้อลูกค้าซื้อของถูก
ด้าน “ชัย โสภณพนิช” ประธานกรรมการและ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) มองว่า เบิร์กเชียร์เข้ามาแอ็กชั่นในตลาดไทยหลังเกิดน้ำท่วมขณะที่ผู้รับประกันต่อรายใหญ่ๆ ของโลกเสนอราคาเบี้ยประกันแพงมาก เบิร์กเชียร์กลับยอมคิดเบี้ยประกันถูกกว่าทำให้ได้งานจากเมืองไทยไปมาก ซึ่งปีนี้ก็เช่นเดียวกันในการ ต่อสัญญารอบใหม่เบิร์กเชียร์ยังให้เงื่อนไขดีราคาเบี้ยประกันต่ำต่อไปเชื่อว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเบิร์ก เชียร์ยังใช้กลยุทธ์ด้านราคาอยู่
“ในอดีตเบิร์กเชียร์มีงานในไทยน้อยมาก ขณะที่เขามีทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นสูงมากเป็นรีอินชัวเรอส์ รายใหญ่สุดของโลก สามารถรับประกันตลาดเมืองไทยได้ทั้งหมดก็ได้ก็เข้ามาเสนอค่าเบี้ยถูกลงกว่าเจ้าอื่นดึงราคาในตลาดลงมาทำให้ตอนสิ้นปีก่อนเบี้ย ขยับขึ้นแค่ 70-80% จากเดิมจะขยับสูงกว่านี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายบริษัทประกันในการซื้อประกันต่อ ส่วนลูกค้าซื้อของถูกลง แม้เขาจะรับงานในไทยเยอะก็ไม่น่าห่วง ฐานะการเงินเขาแข็ง เรตติ้ง AAA”
- “กรุงเทพ-ทิพย” ยกเป็นคู่สัญญาหลักต่อสัญญาสิ้นปีลดเบี้ยน้ำท่วมอีก 20%
สำหรับกรุงเทพประกันภัย “ชัย” กล่าวว่า ส่งงาน บางส่วนให้กับเบิร์กเชียร์ไม่ให้ทั้งหมดเพราะไม่อยาก พึ่งพาบริษัทใดบริษัทหนึ่งมากเกินไป กระจายงานให้กับรีอินชัวเรอส์รายอื่นอีก 4-5 บริษัท แต่เบิร์ก เชียร์เป็นลีดเดอร์สัญญาประกันต่อประกันอัคคีภัยและประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด (IAR) ของ บริษัทโดยมีมาร์เก็ตแชร์ 30% ขณะที่บางบริษัทส่งงานให้กับเบิร์กเชียร์ทั้ง 100%
“ชัย” กล่าวว่า แนวโน้มเบี้ยประกันภัยต่อภัยธรรมชาติและภัยพิบัติจะค่อยๆ ลดลงอย่างที่กำลังต่อสัญญากันอยู่เพื่อคุ้มครองปี 2556 จะลดลงประมาณ 20% เพราะสถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย ปีนี้ไม่มีน้ำท่วมหนักและปีหน้าเชื่อว่าไม่ มีน้ำท่วมเช่นกัน ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วมมีการสร้างเขื่อนขึ้นมาป้องกันน้ำท่วม
ด้าน “สมพร สืบถวิลกุล” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มองว่า เบิร์กเชียร์เข้ามา ในตลาดประกันภัยไทยครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่าน โดยทิพยฯ ดึงเขาเข้ามา ขณะนี้เขาเป็นผู้รับประกันภัยต่อหลักของทิพยฯขณะเดียวกัน ก็เป็นผู้รับประกันภัยต่อรายใหญ่ ของธุรกิจประกันวินาศภัยไทยด้วย ปีนี้บริษัทประกันภัยวินาศภัยกว่าครึ่งหนึ่งใช้บริการของเบิร์กเชียร์
ถ้าในเชิงวิชาการทำให้ความเสี่ยงของไทยกระจุกตัวในที่เดียวแต่ถ้าในเชิงความแข็งแกร่งทาง ด้านฐานะการเงิน เบิร์กเชียร์แข็งแกร่งมากมีเงินมหาศาลไม่มีปัญหา โดยเบิร์กเชียร์เข้ามาทดแทน ตลาดประกันภัยต่อของไทยแทนบริษัท ซีซีอาร์ ของฝรั่งเศส ซึ่งเดิมเป็น ผู้รับประกันภัย ต่อหลักก่อนจะถอนตัว ออกไปหลังน้ำท่วม
“เขามาถูกเวลา ปีที่แล้วขณะที่ผู้ รับประกันต่อรายอื่นเรียกเบี้ยสูง แต่เขาเรียกเบี้ยถูกกว่าจึงได้งานไปเยอะ การเข้ามาของเบิร์กเชียร์ทำให้สถานการณ์ประกันภัยต่อของไทยดีขึ้น บริษัทต่างๆ มีทางเลือกมากขึ้นทำให้แนวโน้ม เบี้ยประกันต่อลดลงได้ 10-20%”
บริษัทประกันภัยที่ส่งงานส่วนใหญ่ ให้เบิร์กเชียร์ อาทิ บริษัท ไทยเศรษฐกิจ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
'เบิร์กไชร์'เข้าพบคปภ. จ้องฮุบประกันไทย
เบิร์กไชร์ บริษัทโฮลดิ้งของ"วอร์แรน บัฟเฟตต์" เข้าพบ คปภ.หารือเทคโอเวอร์ ประกันวินาศภัยของไทย เพื่อขยายตลาด ขณะที่ คปภ.หวังลงทุนระยะยาวนายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริหารของ บริษัท เบิร์กไชร์ แฮธะเวย์ บริษัทโฮลดิ้งเพื่อการลงทุนยักษ์ใหญ่ ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีโลก ได้เข้ามาพบ และสอบถามกับ คปภ.ในหลายๆ เรื่อง รวมถึงเรื่อง การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 และการเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นบริษัทประกันของไทย ซึ่งได้มีการอธิบายไปว่า ภาคธุรกิจประกันของไทย ในภูมิภาคนี้เป็นรองแค่สิงคโปร์เท่านั้น ประเทศไทยถือว่า เป็น 1 ใน 11 ประเทศ ที่มีศักยภาพ เพราะเป็นประเทศที่มีภูมิศาสตร์ที่ดีอยู่ในพื้นที่เหมาะสม และเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี เอื้อต่อการขยายฐานไปยังประเทศในกลุ่มเออีซี
"ขณะนี้ยังมั่นใจว่า เบิร์กไชร์ จะเข้ามาลงทุนระยะยาว เพื่อทำการยกระดับธุรกิจของไทย ตอนที่พูดคุยกัน เขาสนใจที่จะเข้ามาซื้อบริษัทประกันวินาศภัยด้วย ซึ่ง คปภ.พร้อมเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาซื้อกิจการอยู่แล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ประกันวินาศภัยของไทยมีความเข้มแข็ง ดีต่อผู้บริโภค และการที่บริษัทขนาดใหญ่เข้ามาก็จะส่งผลดีต่อบริษัททั่วไปเพราะจะได้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น หน้าที่ของ คปภ.ต้องทำการสกรีนทุกคนที่เข้ามาลงทุน ไม่ว่าใครเข้ามาก็ต้องปฏิบัติตามกฎ กติกา ของ คปภ.ที่วางเอาไว้"
นายสุรชัย ศิริวัลลภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ (ไทยรี) กล่าวว่า บริษัทเบิร์กไชร์ ได้สนใจเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยโดยเข้ามารับประกันภัยต่อในประเทศไทยด้วย ซึ่งเขาเห็นว่าจริงๆ แล้ว เบิร์กไชร์ เป็นนักลงทุนที่ต้องการได้เบี้ยประกันจากการเข้ามารับประกันจากกลไกตลาดที่ไม่มีใครกล้าเข้ามารับประกันภัยต่อ แล้วนำเงินที่ได้ไปลงทุนซื้อสินทรัพย์อย่างอื่น การกระทำของ เบิร์กไชร์ ครั้งนี้ทำให้บริษัทประกันภัย มีกำลังในการรับประกันภัยน้ำท่วมต่อไปได้ แม้ว่าจะต้องยอมจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยต่อที่สูงก็ตาม
การลงทุนของเบิร์กไชร์นั้น จะมุ่งสู่ตลาดที่ไม่มีศักยภาพในการเข้ามารับความเสี่ยงภัย และในช่วงที่บริษัทประกันภัยของไทย ยังไม่มีศักยภาพพอในการรับประกันภัย เบิร์กไชร์ ก็ได้อาศัยจังหวะดังกล่าวเข้ามารับประกันภัยต่อ และทำให้เขาได้ลูกค้า เบี้ยที่เขาคิดจากบริษัทประกันภัยของไทยจึงถูกชาร์จในอัตราที่สูง บางบริษัท โดนชาร์จค่าเบี้ยประกันภัยต่อถึง 15% ก็มี บางราย 8% ก็มี
"เขาเข้ามาถูกจังหวะ ในช่วงที่ตลาดในบ้านเราต้องการ หากต้นทุนสูงเขาก็ไม่เอา เขาเซตเงื่อนไขของเขาเอาไว้ว่าต้องการมีกำไร 20% และต้องไม่มี Cost จึงทำให้เขาร่ำรวยที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าไปมองว่าเขาเป็นรีอินชัวเรอร์ แต่เขาอาศัยกลไกของตลาดประกันมาระดมทุน เพื่อนำเงินจากค่าเบี้ยประกันภัยต่อที่เก็บได้จากบริษัทประกันภัย ไปลงทุนต่ออีกทีหนึ่ง ซึ่งต่างจากสวิสรี และ มิวนิครี ที่อาชีพของ 2 บริษัทนี้คือรับประกันภัยต่อเพียงอย่างเดียว"
Tags : ประเวช องอาจสิทธิกุล • คปภ. • วอร์เรน บัฟเฟตต์ • เบิร์กไชร์ แฮธะเวย์
ข่าวเก่าน่าสนใจ บัฟเฟตต์’ฮุบตลาดไทยอัดคอมม์สูง-เบี้ยต่ำดูดลูกค้าประกัน
บัฟเฟตต์’ฮุบตลาดไทยอัดคอมม์สูง-เบี้ยต่ำดูดลูกค้าประกัน
ค่ายรับประกันภัยต่อใหญ่ยักษ์ของโลกจากสหรัฐฯ “เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์: Berkshire Hathaway” ของมหาเศรษฐีชื่อดัง “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ยังคงบุกหนักตลาดไทยต่อเนื่องจากปีก่อนที่ฉวยจังหวะน้ำท่วมใหญ่ ผู้รับประกันต่อ (รีอินชัวเรอส์) รายใหญ่ขาดทุนหนักจนต้องถอนตัวและอีกหลายค่าย เจ็บตัวหนักพากันลดการรับประกันภัยลงหรือรับก็คิดเบี้ยประกันแพงมาก บริษัทประกันไทยจ่ายไม่ไหว เบิร์กเชียร์เข้ามาเสนอวงเงินประกันต่อให้ด้วยอัตราเบี้ยที่ต่ำกว่า กวาดส่วนแบ่งตลาดไทยไปได้กว่า 20% กลายเป็นผู้เล่นสำคัญไปทันที
- เบิร์กเชียร์ฯ กุมตลาดไทยเกินครึ่งอัดคอมม์สูงดึงค่ายประกันแห่ซบ
กระทั่งการต่อสัญญารอบใหม่คุ้มครองปี 2556 ที่กำลังทำกันอยู่กำหนดเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ “สยามธุรกิจ” พบว่าเบิร์กเชียร์ยังคงได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมาก โดยแหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัยขนาดใหญ่แห่งหนึ่งกล่าวว่า บริษัทประกันภัยเกิน ครึ่งของอุตสาหกรรมส่งประกันต่อให้กับเบิร์กเชียร์ เนื่องจากเสนอเงื่อนไขดีกว่าผู้รับประกันต่อรายอื่น โดยเฉพาะการให้ค่าคอมมิสชั่นในอัตราที่สูงกับบริษัท ประกันภัยที่ส่งงานให้ ทำให้บริษัทส่วนใหญ่เลือกส่งงานกับเบิร์กเชียร์ทำให้เบิร์กเชียร์มีส่วนแบ่งในตลาด ประกันภัยต่อประเทศไทยเกิน 50% สูงกว่า “ซีซีอาร์” จากฝรั่งที่เคยเป็นเจ้าตลาดที่ถอนตัวออกไป
“เมื่อเบิร์กเชียร์ให้คอมมิสชั่นสูง ทำให้บริษัท ประกันมีส่วนต่างที่จะไปแข่งขันโค้ดราคาเบี้ยประกัน ได้มากขึ้นเพื่อให้ได้งาน ทำให้ราคาเบี้ยประกันเริ่มปรับ ตัวลดลงเป็นผลดีกับผู้บริโภคได้ทั้งราคาและเงื่อน ไขดีขึ้นเพราะนอกจากค่าคอมมิสชั่นแล้ว เขาให้วงเงินรับประกันต่อเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่บริษัทประกัน เจอริสก์ชาร์จเงินกองทุนน้อยลงเพราะเรตติ้งของเบิร์กเชียร์ดีมาก”
- เรตติ้งAAA-เงินสดเพียบหมดห่วงไม่มีเงินจ่ายเคลม
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปีนี้เบิร์กเชียร์แอ็กชั่นมากเทียบกับปีก่อนที่เริ่มเข้ามารับประกันต่อเฉพาะสัญญา ประกันต่อความเสียหายส่วนเกิน (excess of loss) แต่ปีนี้ขยายมายังสัญญาประกันต่อทั่วไป (treaty) แม้ จะมีผู้รับประกันต่อหน้าใหม่ๆ เข้ามาเยอะแต่ไม่มีใครสู้ได้ การแอ็กชั่นของเบิร์กเชียร์และผู้รับประกัน ต่อรายใหม่ๆ ที่เข้ามาทำให้เบี้ยประกันที่ต่อสัญญาปีนี้เริ่มลดลงอย่างเบี้ยประกันตรงที่บริษัทประกันจะขายให้กับลูกค้าน่าจะลดลง 10-20%
อย่างไรก็ดี แม้เบิร์กเชียร์จะครองส่วนแบ่งตลาดประกันภัยต่อของไทยเกินครึ่งแต่ไม่มีความเสี่ยงหากเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกสามารถจ่ายสินไหมทดแทน ได้อยู่แล้วเพราะฐานะการเงินแข็งแกร่งมาก มีเงิน สดมากถึง 4 หมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท อันดับความน่าเชื่อถือระดับ AAA จุดที่น่าห่วงมีเพียงเรื่องเดียวคือนโยบายของเบิร์กเชียร์ หากผลตอบแทนประกันต่อไม่น่าพอใจ ราคาเบี้ยประกัน ลดลงจะถอนตัวออกไป บริษัทประกันต้องบริหารความเสี่ยงให้ดีเผื่อรับกรณีนี้ด้วย
- “ชัย” ชี้เบิร์กเชียร์เข้าถูกจังหวะเงื่อนไขดี-เบี้ยต่ำเอื้อลูกค้าซื้อของถูก
ด้าน “ชัย โสภณพนิช” ประธานกรรมการและ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) มองว่า เบิร์กเชียร์เข้ามาแอ็กชั่นในตลาดไทยหลังเกิดน้ำท่วมขณะที่ผู้รับประกันต่อรายใหญ่ๆ ของโลกเสนอราคาเบี้ยประกันแพงมาก เบิร์กเชียร์กลับยอมคิดเบี้ยประกันถูกกว่าทำให้ได้งานจากเมืองไทยไปมาก ซึ่งปีนี้ก็เช่นเดียวกันในการ ต่อสัญญารอบใหม่เบิร์กเชียร์ยังให้เงื่อนไขดีราคาเบี้ยประกันต่ำต่อไปเชื่อว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเบิร์ก เชียร์ยังใช้กลยุทธ์ด้านราคาอยู่
“ในอดีตเบิร์กเชียร์มีงานในไทยน้อยมาก ขณะที่เขามีทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นสูงมากเป็นรีอินชัวเรอส์ รายใหญ่สุดของโลก สามารถรับประกันตลาดเมืองไทยได้ทั้งหมดก็ได้ก็เข้ามาเสนอค่าเบี้ยถูกลงกว่าเจ้าอื่นดึงราคาในตลาดลงมาทำให้ตอนสิ้นปีก่อนเบี้ย ขยับขึ้นแค่ 70-80% จากเดิมจะขยับสูงกว่านี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายบริษัทประกันในการซื้อประกันต่อ ส่วนลูกค้าซื้อของถูกลง แม้เขาจะรับงานในไทยเยอะก็ไม่น่าห่วง ฐานะการเงินเขาแข็ง เรตติ้ง AAA”
- “กรุงเทพ-ทิพย” ยกเป็นคู่สัญญาหลักต่อสัญญาสิ้นปีลดเบี้ยน้ำท่วมอีก 20%
สำหรับกรุงเทพประกันภัย “ชัย” กล่าวว่า ส่งงาน บางส่วนให้กับเบิร์กเชียร์ไม่ให้ทั้งหมดเพราะไม่อยาก พึ่งพาบริษัทใดบริษัทหนึ่งมากเกินไป กระจายงานให้กับรีอินชัวเรอส์รายอื่นอีก 4-5 บริษัท แต่เบิร์ก เชียร์เป็นลีดเดอร์สัญญาประกันต่อประกันอัคคีภัยและประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด (IAR) ของ บริษัทโดยมีมาร์เก็ตแชร์ 30% ขณะที่บางบริษัทส่งงานให้กับเบิร์กเชียร์ทั้ง 100%
“ชัย” กล่าวว่า แนวโน้มเบี้ยประกันภัยต่อภัยธรรมชาติและภัยพิบัติจะค่อยๆ ลดลงอย่างที่กำลังต่อสัญญากันอยู่เพื่อคุ้มครองปี 2556 จะลดลงประมาณ 20% เพราะสถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย ปีนี้ไม่มีน้ำท่วมหนักและปีหน้าเชื่อว่าไม่ มีน้ำท่วมเช่นกัน ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วมมีการสร้างเขื่อนขึ้นมาป้องกันน้ำท่วม
ด้าน “สมพร สืบถวิลกุล” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มองว่า เบิร์กเชียร์เข้ามา ในตลาดประกันภัยไทยครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่าน โดยทิพยฯ ดึงเขาเข้ามา ขณะนี้เขาเป็นผู้รับประกันภัยต่อหลักของทิพยฯขณะเดียวกัน ก็เป็นผู้รับประกันภัยต่อรายใหญ่ ของธุรกิจประกันวินาศภัยไทยด้วย ปีนี้บริษัทประกันภัยวินาศภัยกว่าครึ่งหนึ่งใช้บริการของเบิร์กเชียร์
ถ้าในเชิงวิชาการทำให้ความเสี่ยงของไทยกระจุกตัวในที่เดียวแต่ถ้าในเชิงความแข็งแกร่งทาง ด้านฐานะการเงิน เบิร์กเชียร์แข็งแกร่งมากมีเงินมหาศาลไม่มีปัญหา โดยเบิร์กเชียร์เข้ามาทดแทน ตลาดประกันภัยต่อของไทยแทนบริษัท ซีซีอาร์ ของฝรั่งเศส ซึ่งเดิมเป็น ผู้รับประกันภัย ต่อหลักก่อนจะถอนตัว ออกไปหลังน้ำท่วม
“เขามาถูกเวลา ปีที่แล้วขณะที่ผู้ รับประกันต่อรายอื่นเรียกเบี้ยสูง แต่เขาเรียกเบี้ยถูกกว่าจึงได้งานไปเยอะ การเข้ามาของเบิร์กเชียร์ทำให้สถานการณ์ประกันภัยต่อของไทยดีขึ้น บริษัทต่างๆ มีทางเลือกมากขึ้นทำให้แนวโน้ม เบี้ยประกันต่อลดลงได้ 10-20%”
บริษัทประกันภัยที่ส่งงานส่วนใหญ่ ให้เบิร์กเชียร์ อาทิ บริษัท ไทยเศรษฐกิจ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
'เบิร์กไชร์'เข้าพบคปภ. จ้องฮุบประกันไทย
เบิร์กไชร์ บริษัทโฮลดิ้งของ"วอร์แรน บัฟเฟตต์" เข้าพบ คปภ.หารือเทคโอเวอร์ ประกันวินาศภัยของไทย เพื่อขยายตลาด ขณะที่ คปภ.หวังลงทุนระยะยาวนายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริหารของ บริษัท เบิร์กไชร์ แฮธะเวย์ บริษัทโฮลดิ้งเพื่อการลงทุนยักษ์ใหญ่ ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีโลก ได้เข้ามาพบ และสอบถามกับ คปภ.ในหลายๆ เรื่อง รวมถึงเรื่อง การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 และการเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นบริษัทประกันของไทย ซึ่งได้มีการอธิบายไปว่า ภาคธุรกิจประกันของไทย ในภูมิภาคนี้เป็นรองแค่สิงคโปร์เท่านั้น ประเทศไทยถือว่า เป็น 1 ใน 11 ประเทศ ที่มีศักยภาพ เพราะเป็นประเทศที่มีภูมิศาสตร์ที่ดีอยู่ในพื้นที่เหมาะสม และเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี เอื้อต่อการขยายฐานไปยังประเทศในกลุ่มเออีซี
"ขณะนี้ยังมั่นใจว่า เบิร์กไชร์ จะเข้ามาลงทุนระยะยาว เพื่อทำการยกระดับธุรกิจของไทย ตอนที่พูดคุยกัน เขาสนใจที่จะเข้ามาซื้อบริษัทประกันวินาศภัยด้วย ซึ่ง คปภ.พร้อมเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาซื้อกิจการอยู่แล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ประกันวินาศภัยของไทยมีความเข้มแข็ง ดีต่อผู้บริโภค และการที่บริษัทขนาดใหญ่เข้ามาก็จะส่งผลดีต่อบริษัททั่วไปเพราะจะได้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น หน้าที่ของ คปภ.ต้องทำการสกรีนทุกคนที่เข้ามาลงทุน ไม่ว่าใครเข้ามาก็ต้องปฏิบัติตามกฎ กติกา ของ คปภ.ที่วางเอาไว้"
นายสุรชัย ศิริวัลลภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ (ไทยรี) กล่าวว่า บริษัทเบิร์กไชร์ ได้สนใจเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยโดยเข้ามารับประกันภัยต่อในประเทศไทยด้วย ซึ่งเขาเห็นว่าจริงๆ แล้ว เบิร์กไชร์ เป็นนักลงทุนที่ต้องการได้เบี้ยประกันจากการเข้ามารับประกันจากกลไกตลาดที่ไม่มีใครกล้าเข้ามารับประกันภัยต่อ แล้วนำเงินที่ได้ไปลงทุนซื้อสินทรัพย์อย่างอื่น การกระทำของ เบิร์กไชร์ ครั้งนี้ทำให้บริษัทประกันภัย มีกำลังในการรับประกันภัยน้ำท่วมต่อไปได้ แม้ว่าจะต้องยอมจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยต่อที่สูงก็ตาม
การลงทุนของเบิร์กไชร์นั้น จะมุ่งสู่ตลาดที่ไม่มีศักยภาพในการเข้ามารับความเสี่ยงภัย และในช่วงที่บริษัทประกันภัยของไทย ยังไม่มีศักยภาพพอในการรับประกันภัย เบิร์กไชร์ ก็ได้อาศัยจังหวะดังกล่าวเข้ามารับประกันภัยต่อ และทำให้เขาได้ลูกค้า เบี้ยที่เขาคิดจากบริษัทประกันภัยของไทยจึงถูกชาร์จในอัตราที่สูง บางบริษัท โดนชาร์จค่าเบี้ยประกันภัยต่อถึง 15% ก็มี บางราย 8% ก็มี
"เขาเข้ามาถูกจังหวะ ในช่วงที่ตลาดในบ้านเราต้องการ หากต้นทุนสูงเขาก็ไม่เอา เขาเซตเงื่อนไขของเขาเอาไว้ว่าต้องการมีกำไร 20% และต้องไม่มี Cost จึงทำให้เขาร่ำรวยที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าไปมองว่าเขาเป็นรีอินชัวเรอร์ แต่เขาอาศัยกลไกของตลาดประกันมาระดมทุน เพื่อนำเงินจากค่าเบี้ยประกันภัยต่อที่เก็บได้จากบริษัทประกันภัย ไปลงทุนต่ออีกทีหนึ่ง ซึ่งต่างจากสวิสรี และ มิวนิครี ที่อาชีพของ 2 บริษัทนี้คือรับประกันภัยต่อเพียงอย่างเดียว"
Tags : ประเวช องอาจสิทธิกุล • คปภ. • วอร์เรน บัฟเฟตต์ • เบิร์กไชร์ แฮธะเวย์