เมื่อใดแล ภิกษุ ไม่มีอหังการ มมังการ อันเป็นมานานุสัย

ผู้ไม่มีอหังการ์

สารีบุตร ! แม้เราจะพึงแสดงธรรมโดยย่อก็ตาม โดยพิสดารก็ตามทั้งโดยย่อและพิสดารก็ตาม, ผู้รู้ธรรม ก็ยังมีได้โดยยากอยู่นั่นเอง.

“ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ถึงเวลาแล้ว, ข้าแต่พระสุคตเจ้า ! ถึงเวลาสมควรแล้ว ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า จะพึงแสดงธรรมโดยย่อก็ตาม โดยพิสดารก็ตามทั้งโดยย่อและพิสดารก็ตาม, ผู้รู้ธรรมจักมีเป็นแน่ ” ท่านพระสารีบุตร กราบทูลขอร้อง.

สารีบุตร ! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ เธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้ว่า
“อหังการ (ความถือว่าเรา)
มมังการ (ความถือว่าของเรา)
อันเป็นมานานุสัย(กิเลสที่สะสมอยู่ในสันดานคือมานะ)

จักต้องไม่เกิดขึ้น เพราะเหตุแห่งกายอันมีวิญญาณนี้,
และจักต้องไม่เกิดขึ้น เพราะเหตุแห่งสิ่งอื่นที่เห็นอยู่ในภายนอกทั้งสิ้น ;
ก็เมื่อภิกษุเข้าถึง เจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันใดอยู่ อหังการ มมังการ อันเป็นมานานุสัย จักไม่มี,
เราทั้งหลาย จักเข้าถึงเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันนั้นแล้วแลอยู่” ดังนี้.
สารีบุตร ! เธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้เถิด.

สารีบุตร ! เมื่อใดแล ภิกษุ ไม่มีอหังการ มมังการ อันเป็นมานานุสัยอันเกิดขึ้นเพราะเหตุแห่งกายอันมีวิญญาณนี้,
และ ไม่มีอหังการ มมังการ อันเป็นมานานุสัย อันเกิดขึ้นเพราะเหตุแห่งสิ่งอื่นที่เห็นอยู่ในภายนอกทั้งสิ้น ;
และเมื่อเธอเข้าถึง เจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันใดอยู่ อหังการ มมังการ อันเป็นมานานุสัยจักไม่มี,
เธอ เข้าถึง เจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันนั้นแล้วแลอยู่ ;

สารีบุตร ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ตัดตัณหาได้แล้ว, รื้อสัญโญชน์เสียแล้ว,
ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว.

บาลี พระพุทธภาษิต ติก. อํ. ๒๐/๑๗๐/๔๗๒/ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หน้า ๓๕๓

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=3512&Z=3534


ไหว้พระนะลูกนะ เพื่อลด ตัวกู ของกู (ท่านพุทธทาส หมายถึง ลด อหังการ มมังการ มานานุสัย)
---เพิ่งโหลดมาฟัง เลยเอามา แชร์----

การทำลายซึ่งตัวกู-ของกู ตอนที่ ๑.


การทำลายซึ่งตัวกู-ของกู ตอนที่ ๒.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่