ขออนุญาติระบาย เรื่อง ความห่วยแตกของ I-mobile

ขออณุญาติกล่าวถึงความห่วยของ I-mobile (by samart) ที่ได้ประสบพบมากับตัว ให้ท่านๆได้ทราบ เผื่อจะสามารถช่วยในการตัดสินใจสำหรับผู้ทีกำลังจะตัดสินใจใช้มือถือหรือบริการ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ผลิตโดยบริษัทนี้...
               สืบเนื่องจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้มีงาน Mobile expo จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิตต์ พร้อมกับการเปิดตัว มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของไอโมบายล์ นั่นก็คือรุ่น I-mobile IQ6 ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมกำลังต้องการจะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่อยู่พอดี ด้วยความที่เป็นนักศึกษา มีเงินเก็บที่ได้จากการทำงานพิเศษไม่มาก บวกกับที่บ้านครอบครัวฐานะปานกลาง(ค่อนไปทางจน^^) ผมจึงมองหามือถือที่ราคาไม่แพงมาก เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ และควรจะใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งในเวลานั้น I-mobile IQ6 ถือว่าสามารถตอบโจทย์ของผมได้เลยที่เดียว  ผมจึงเข้าไปดูคลิปรีวิว คลิปทดสอบมือถือรุ่นนี้(ซึ่งมากรู้ทีหลังว่าไม่ควรไปเชื่อมันมาก...) และในวันท้ายๆของงานผมก็ได้ตัดสินใจไปซื้อมือถือสมาร์ทโฟน I-mobile IQ6 นี้ที่งาน Mobile expo..
               โดยการซื้อมือถือในครั้งนี้ตั้งใจไว้ว่าจะขอเงินผูปกครองในการซื้อมือถือเป็นครั้งสุดท้ายและถ้าต้องการเปลี่ยนมือถือจะเปลี่ยนเมื่อสามารถหาเงินและซื้อเต็มจำนวนได้ด้วยตัวเอง..โดยมือถือI-mobile เครื่องนี้ ซื้อที่งาน Mobile expo ขายอยู่ที่ราคาประมาณ 8000 กว่าบาท โดยเงินค่ามือถือนี้ เป็นเงินเก็บจากการทำงานพิเศษของผมเอง 5000 และขอจากผู้ปกครองมาอีก 3000 ซึ่งในตอนแรกผู้ปกครองก็ได้เตือนแล้วว่าอย่าใช้ I-mobile เลยมันไม่ค่อยดี และไม่ค่อยดีมาตั้งแต่บริษัทสามารถแล้ว(พ่อผมเคยทำงานอยู่ที่ สามารถ) ผู้ปกครองอยากให้ใช Samsung แทนเพราะเชื่อถือได้มากกว่า และพร้อมจะเพิ่มเงินให้เพื่อซื้อมือถือของ Samsung แต่ผมก็เลือก I-mobile ด้วยเหตุผลที่ว่า...
1. ราคาไม่แพงมาก ต่างจาก Samsung s3 mini ที่เปิดตัวพร้อมกันแต่ราคาเป็นหมื่น โดยส่วนตัวไม่อยากใช้มือถือราคาเกินหมื่นเพราะไม่อยากรบกวนเงินของผู้ปกครองมาก และไม่อยากติดกระแสนิยมใช้ของแพงเหมือนเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัย
2. ตอนที่พ่อทำงานอยู่ที่สามารถก็ผ่านมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ตอนที่พ่อออกจากบริษัทเพราะวิกฤติฟองสบู่แตก บริษัทใกล้ล้มละลายแต่ก็ยังกลับมาขายมือถือได้ผมก็เลยคิดว่าน่าจะมีการพัฒนาภายในบริษัทขึ้นบ้าง
3. เชื่อในคลิปรีวิว ที่มีคลิปทดสอบความทนทานของกระจก Dragontail ซึ่งเป็นจุดขายของมือถือรุ่นนี้ก็เลยคิดว่าตัวมือถือน่าจะทนทานด้วยเช่นกัน
              ผมจึงได้ไปซื้อมือถือ I-mobile IQ6 ที่งาน Mobile expo แต่ในวันทีผมไปซื้อนั้น พนักงานขายบอกว่าของหมด แต่สามารถจองได้ โดยเสียเงินที่งาน 1000 บาท และรับของภายในอีก 1 เดือนให้หลังโดยของแถมจะเป็น เสื้อ, SD card 16 GB, case carbon และสามารถแลกซื้อ Power bank ได้ ตอนที่รับของ..(มั่นใจมากว่าพนักงานขายบอกว่าตอนรับของเพราะผมและแม่ยืนฟังเขาพูดอยู่ด้วยกัน) ผมก็ได้ทำการจองเครื่องไป โดยได้บิลที่ใช้รับของซึ่ให้ไปรับของที่โลตัสพระราม 1 ในอีก 1 เดือนให้หลัง(และได้เขียนลิสของแถมไว้ด้านหลัง 1 ในนั้นมี Power bank อยู่ด้วย)
              1 เดือนต่อมาวันที่ 20 มีนาคมพนักงานขายที่ผมได้คุยกับเขาในงานก็ได้โทรมาบอกให้ผมไปรับเครื่อง ซึ่งพนักงานขายและคนส่งมอบเครื่องนี้คือคนเดียวกันเลย เพราะเขานัดให้ไปรับที่ร้านของเขาเองและอยู่ใกล้ที่ทำงานแม่ผมด้วยผมจึงตกลง เมื่อไปรับของสิ่งแรกที่เขบอกเลยก็คือเสื้อที่เป็นของแถมนั้นหมด ไม่มีแถมให้โอเคเรื่องเสื้อนี่ผมไม่ซีเรียส แต่ผมตั้งใจจะมาแลกซื้อ Power bank ด้วย และสิ่งที่พนักงานขายบอกกับผมคือ...เขาให้แลกซื้อในงาน!! ทั้งๆที่ผมกับแม่ก็ยืนยันแล้วว่าคุณ(พนักงาน) บอกว่าให้มาแลกซื้อตอนรับเครื่อง ไม่อย่างนั้นคุณจะเขียนลิสของแถมไว้ด้านหลังบิลทำไม แต่เขาก็ไม่เชื่อ และบอกแบบปัดความรับผิดชอบว่าจะโทรไปบอกเมื่อมีของมา ผมก็รับเครื่องไปใช้ โดยอาการที่ไม่พอใจพนักงานขายเท่าไหร่
              ช่วงแรกที่นำเครื่องมาใช้ถือว่าพอใจกับมือถือใหม่เครื่องนี้มาก เพราะสามารถใช้งานได้ดีทีเดียว อาจจะติดปัญหาว่าตัวเครื่องเมื่อใช้ไปสักพักจะร้อนมากซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ผมจึงไปสมัครโปรโมชั่นแพคเกจอินเตอร์เน็ตของ DTAC เดือนละ 299 บาทมาใช้ด้วย ผ่านช่วงสงกรานต์ไปเครื่องก็เริ่มออกอาการงอแง...
             อาการที่เกิดขึ้นในช่วงแรกคือ ลำโพงไม่ดัง เกิดอาการเสียเมื่อตอนเช้าวันที่ 19 เมษายน สังเกตนะครับ รับเครื่องวันที่ 20 มีนาคม และเสียเมื่อวันที่ 19 เมษายน ยังไม่ถึง 1 เดือนดีเลย เครื่องเสียแล้ว แล้วอาการที่ว่าลำโพงไม่ดังไม่ใช่ไม่ดังแค่ลำโพงอย่างเดียว แต่เสียบหูฟังก็ไม่ดัง และเวลาโทรคุย ปลายสายได้ยินเราก็จริงแต่เรากลับไม่ได้ยินเสียงเขาเลย(ระบบเสียงไปยกแผง) ในตอนแรก ผมนำไปให้พนักงานขายที่ผมไปรับเครื่องกับเขาที่โลตัสพระราม1 เขาบอกด้วยหน้าตายิ้มแย้มว่า..."อ๋อเอาไปให้ศูนย์ที่มาบุญครองดูได้เลย ซ่อมครึ่งชั่วโมงเสร็จ " โอเคเราก็ไม่ซีเรียสมากค่อยเอาไปให้ที่ศูนย์ดูให้ตอนเย็น
             พอตกเย็นถึงเวลาเลิกงานผมกับแม่ก็เดินไปที่ศูนย์เซอร์วิสที่มาบุญครองซึ่งศูนย์นี้นั้น การบริการแย่มาก บัตรคิวไม่ใช่มาจากเครื่องกด เป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์บอกว่าคิวถึงเลขอะไรและมีเบอร์คิวเป็นกระดาษใส่กล่องวางไว้หน้าจอคอมเท่านั้น ที่นั่งสำหรับรอเรียกคิวมีอยู่ประมาณ 7 ที่ซึ่งไม่พอสำหรับคนที่รอคิวเป็นสิบๆ ตัวเลยตามคิวบนหน้าจอ โดดไปโดดมาไม่ได้เรียกตามคิวเลย  และใช้เวลาต่อ 1 คิวนานมากๆ ผมและแม่ยืนรออยู่นานกว่าจะถึงคิว พอถึงคิว พนักงานเคาท์เตอร์รับเครื่องไปและบอกว่า ต้องเปิดจ๊อบซ่อมโดยใช้เวลาซ่อมประมาณ 2-3 วัน ผมก็บอกไปว่า "แต่พนักงานขายที่ไปถามมาเขาบอกว่าซ่อมครึ่งชั่วโมงเอง.." พนักงานเคาท์เตอร์บอกว่าตอนนี้คิวซ่อมเยอะมาก..(บ่งบอกถึงความห่วยแตกของเครื่อง I-mobile) เขาก็ให้กระดาษสำหรับรับเครื่องคืนมาโดยเป็นบิลยาวๆ บอกว่าประกันตั้งแต่วันที 20/3/56 และส่งซ่อมวันที่ 19/4/56 นัดรับเครืองคืนวันที่ 20/4/56 (บอกว่าซ่อม 2-3 วันแต่ให้มารับพรุ่งนี้) และที่สำคัญมาก เขาถามมาว่าข้อมูลในเครื่องลบได้มั้ยคะ...ผมบอกว่า ไม่ได้ เขาก็เขียนมาในใบนัดรับของด้วยว่า ข้อมูลในเครื่อง "ลบไม่ได้" ผมก็รับใบนัดมาและคิดว่าไม่เป็นไรซ่อมแค่ 2-3 วันซ่อมวันศุกร์เดี๋ยววันจันทร์มารับเครื่องก็ยังโอเค(ยังไม่ซีเรียส..)
             ผ่านไป 2 วัน ในวันจันทร์ ที่ 22 ตอนเช้าผมโทรไปถามว่าวันนี้ไปรับเครื่องได้หรือยัง แล้วไปรับได้กี่โมง สิ่งที่พนักงานศูนย์เซอร์วิส สาขามาบุญครองบอกกับผมก็คือ...ตอนนี้เครื่องส่งไปที่สำนักงานใหญ่ ใช้เวลาซ่อมประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถ้าซ่อมเสร็จแล้วจะโทรไปแจ้ง ผมฉุนขาดเลย ไหนบอกว่าซ่อม 2-3 วัน ในใบก็เขียนว่านัดรับวันที่ 21/4/56 แต่กลับส่งเครื่องไปที่สำนักงานใหญ่และบอกว่าอีก 2-3 อาทิตย์ ผมไม่พอใจมาก Eพนักงานก็บอกปัดว่าให้สอบถามเพิ่มเติมที่ Call center และตัดสายไปเลย ตอนเย็นผมก็เลยไปที่ศูนย์ตั้งใจจะไปถามว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้เครื่องคืนเร็วขึ้นเพราะทุกวันที่ไม่มีมือถือใช้ค่อนข้างเดือดร้อน เพราะมือถือเครื่องเก่าก็ไม่ค่อยดี(ถึงต้องการเปลี่ยน) และอีกข้อที่สำคัญก็คือ ผมเสียค่าเน็ตอยู่ทุกวัน เป็นรายเดือน แลัวจะให้เสียไปโดยไม่ได้ใช้ไปอีก 2 อาทิตย์นี้ผมรับไม่ได้ พนักงานที่ศูนย์ก็บอกให้ผมโทรไป Call center อีกผมก็เลยโทรไปที่ Call center (หน้าเคาเตอร์นั้นเลย)อีกรอบเพื่อแจ้งความประสงค์ว่าไม่พอใจในตัวเครื่องและการบริการมาก ซื้อมาใช้ได้ไม่ถึงเดือน ต้องซ่อมอีก 2 อาทิตย์ มันเกินไปจริงๆ ต้องการขอเปลี่ยนเครื่อง หรือถ้าทำได้ก็ขอคืนเครื่องไปเลย พนักงานที่รับสาย(ซึ่งก่อนจะรับสายคุยกับมันได้ต้องรอการโอนสายนานมาก) มันบอกว่า ตอนนี้เครื่องอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ที่พระราม 2 กำลังซ่อมอยู่ ผมก็ถามว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เร็วขึ้นและถ้าจะขอคืนเครื่องหรือเปลี่ยนเครื่องต้องไปที่ไหน มันบอกว่า สำนักงานอยู่ที่ ซอฟท์แวร์ปาร์ค ต้องไปติดต่อที่นั่น และบอกมาอีกว่าที่ซอฟท์แวร์ปาร์คนั้นเป็นแค่สำนักงานใหญ่ ไม่ใช่ศูนย์ซ่อม ถึงไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผมก็ตอกกลับไปว่า แล้วไอ้ศูนย์ที่มาบุญครองเนี่ย มันเป็นศูนย์ซ่อม เขียนอยู่ตัวเบ้อเร้อว่าศูนย์ซ่อม ผมเอาเครื่องมาซ่อมที่ศูนย์ซ่อม แต่บริษัทคุณกลับส่งเครื่องผมไปซ่อมที่ไหนไม่รู้ แบบนี้มันหมายความว่ายังไง(พยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ขึ้นขึ้นกูกับพนักงานในสายแต่ก็พูดเสียงดังมากจนพนักงานเคาเตอร์หน้าซีดเหมือนกัน) พนักงานในสายก็อึกอักๆ และบอกว่าให้ใจเย็นก่อน ตอนนี้จะเร่งทางช่างให้ซ่อมให้โดยเร็วที่สุด แล้วจะติดต่อกลับไป แม่ผมเห็นผมเดือดมากก็เลยเอามือถือไปวางสายและลากผมออกนอกร้านกลัวจะมีเรื่อง
             ผ่านไปอาทิตย์กว่า(ระหว่างนี้ก็ยังโทรไปถามเรื่อยๆก็ได้คำตอบว่ากำลังซ่อมๆ ทุกครั้ง)จนวันอังคารที่ 30เมษายน ที่ผ่านมาได้คำตอบที่ไม่เหมือนเดิม พนักงานบอกว่าสถานะเครื่องตอนนี้ซ่อมเสร็จแล้ว กำลังตรวจสอบ QC อยู่ (ย้ำว่าตรวจสอบ QC หรือ Quality Control ซึ่งหมายถึงการควบคุมคุณภาพ) และจะส่งเครื่องจาก QC กระจายไปยังศูนยต่างๆทุกๆวัน จันร์ พุธ ศุกร์ ซึ้งวันพุธที่ 1 พฤษภาคมนั้นเป็นวันหยุดวันแรงงาน ผมก็คิดว่าคงได้วันศุกร์ผมก็โอเค และรอจนถึงวันศุกร์
            เมื่อถึงวันศุกร์ ตอนสายๆประมาณ 11 โมง ผมโทรไปถามอีกครั้ง เขาบอกว่า ตอนนี้เครื่องมาถึงมาบุญครองแล้วให้ไปรับได้เลย (ถ้าไม่โทรไปถามจะโทรมาบอกกูมั้ยเนี่ย...) ผมก็เลยบอกว่าจะไปรับเครื่องตอนเที่ยง พอไปรับเครื่องตอนเที่ยง (รอนานเหมือนเดิม ได้เครื่องบ่ายกว่าๆ) สิ่งที่พนักงานบอกกับผมก็คือเครื่องผ่านการซ่อมโดยการเปลี่ยน Main board มาจากสำนักงานใหญ่นะคะ...ผมอึ้งมาก ใช้ได้ไม่ถึงเดือน เปลี่ยน Main board แน่นอนว่าข้อมูลต่างๆในเครื่อง(ที่ผมบอกแล้วว่าลบไม่ได้)ก็หายไปทั้งหมดเช่นกัน ผมก็ตอกไปว่าแล้วจะถามทำไมว่าลบได้หรือเปล่า ทีหลังก็บอกมาเลยดิว่าถ้าซ่อมมันต้องลบ ผมจะได้เอาเครื่องกลับไปสำรองข้อมูลไว้ก่อน พนักงานก็เจื่อนๆแล้วบอกถ้าเปลี่ยน Main board มันต้องหายอยู่แล้วค่ะ ผมก็บอกแล้วเคยโทรมาแจ้งซักคำมั้ยล่ะ ตั้งแต่ตอนเอาเครื่องไปสำนักงานใหญ่แล้วถ้าไม่โทรไปถามจะบอกมั้ย เขาก็เงียบ แม่ผมก็บอกให้ไปได้แล้วเพราะเลยเวลาเข้างานแล้วผมก็เอาเครื่องกลับมา ช่วงบ่ายนั้นผมใช้เวลาลองเล่นลองตรวจสอบเครื่อง คิดว่าได้เครื่องจะจบแล้วจะไม่มีอะไรแล้วข้อมูลหายไปก็ช่างมัน แอปพลิเคชั่นอะไรค่อยลงใหม่เอา....แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้นครับ....
             เครื่องที่ได้มา สติ๊กเกอร์ด้านหลังแบตเตอรรี่ แปะกลับมาให้ในสภาพยับยู่ยี่ทั้งที่ก่อนไปแปะไว้อย่างดี และเรียบสนิท และอีกอาการที่ทำให้ผมฟิวส์ขาดอีกครั้งก็คือ ปุ่มกดลดเสียงด้านข้างเครื่อง กดไม่ได้ ตอนเย็นผมไปที่มาบุญครองอีกรอบ คราวนี้ไม่บัตรคิวอะไรแล้ว เข้าไปถามที่เคาเตอร์ขายมือถือเลย ถามเขาว่าที่ปุ่มกดไม่ได้เนี่ยเพราะอะไร เพิ่งส่งซ่อมแล้วมารับไปเมื่อกลางวันเนี่ยเสียอีกแล้ว เขาก็เอาเครื่องไปแล้วบอกเดี๋ยวเอาไปให้ช่างดูให้ ผมก็ยืนกอดอกรออยู่อย่างนั้น ประมาณครึ่งชั่วโมงก็เอาเครื่องออกมาให้แล้วบอกที่สำนักงานใหญ่ซ่อมมาใส่ปุ่มไม่แน่นก็เลยกดไม่ได้ ผมก็บอก(ด้วยเสียงอันดัง ให้คนที่รอคิวอยู่ทั้งหมดได้ยิน) ตอนโทรไปถามบอกรอตรวจ QC ตรวจสอบคุณภาพเครื่องแต่พอมาถึงมือลูกค้า ก็เสียอีกแบบนี้อ่ะเหรอที่เขาเรียก QC ถ้าไม่มี QC ก็อย่าเอามาอ้างเลยดีกว่า ถ้าเสียบ่อยแบบนี้ก็เปลี่ยนเครื่องมาให้ไม่ก็คืนเงินมาเลย พนักงานอีกคนที่ผมมารับเครื่องกับเขาเมื่อตอนกลางวันก็เข้ามาแล้วบอก แต่เปลี่ยน Main board ใหม่มาก็เหมือนได้เครื่องใหม่แล้วนะคะ ผมบอก แสดงว่าเครื่องที่มาใหม่เสียแบบนี้ทุกเครื่องเลยสิ พนักงานมันก็เงียบ ไม่มีใครตอบคำถามผมได้ซักคำ ก็เป็นเหมือนเดิมที่แม่ผมต้องลากผมออกมาจากร้านเพื่อไม่ให้มีเรื่อง ก่อนออกจากร้านผมบอกอีกว่า จะเอาเรื่องนี้ไปฟ้อง สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) ทุกวันนี้ผมก็ยังคงต้องใช้มือถือเครื่องนี้ไปก่อน แต่ถ้าเสียอีกผมก็คงจะเลิกใช้มือถือยี่ห้อนี้ไปเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่