ขอคำปรึกษาเรื่องลูกค่ะ เครียดมากจริงๆๆ

ลูกชายอายุ 2.8 ปี มีอาการโกรธง่ายมาก เจ้าอารมณ์ หากถูกตักเตือน ยังไม่ถึงขั้นดุ ก็จะมีอาการทันที
เป็นคนโมโหร้ายค่ะ เราพยายามจะรักษาระดับของอารมณ์ลูกไว้ให้อารมณ์ดีตลอดไม่อยากให้เค้าหงุดหงิด
แต่เค้าก็มีพฤติกรรมที่เราต้องคอยสอนหรือตักเตือนบ้าง เช่น ลูกครับ ทำแบบนี้น้ำหกพื้นลื่น เดี๋ยวลูกหกล้มนะ
แค่นั้น ลูกก็จะมีอาการต่อต้าน ทำทุกอย่างเป็นการยั่วโมโหแม่ เรียกไอ้แม่(ได้ยินคนอื่นพูด แม่เคยสอนว่าไม่เพราะ ลูกรับรู้แล้วเข้าใจดี)
แต่เวลาที่โมโหแม่ จะเรียกแบบนี้ทุกครั้ง เราตักเตือนแล้ว สอนแล้ว ทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่สนใจแล้ว เวลาลูกอารมณ์ดีมาสอนกันใหม่แล้ว
ทุกครั้งก็เหมือนเดิม
      เมื่อวาน เรานั่งร้องไห้เลยจริงๆ เครียดมาก สามทุ่มแล้ว ลูกยังไม่ยอมอาบน้ำ นั่งดู Youtube เราตั้งเงื่อนไขว่าเดี๋ยวให้ดูอีก1 เรื่อง เดี๋ยวลูกไปอาบน้ำนะครับ ลูกพยักหน้าเข้าใจ พอจบเรื่องลูกก็เปิดเรื่องใหม่ เราเลยบอกลูกว่า เรื่องสุดท้ายแล้วนะครับเสร็จแล้วลูกไปอาบน้ำกัน ลูกพยักหน้าเช่นเคย พอจบอีกลูกก็เปิดเรื่องใหม่อีก เราเลยทำเป็นเล่นกับลูก เฮ้ย....(อุ้มลูกลงจากเก้าอี้)นี่มันเรื่องสุดท้ายแล้วนะ เราต้องไปอาบน้ำกันแล้วครับ
จากนั้นลูกโมโห ร้องไห้จะดูต่อ เราเลยบอกว่า พูดดีๆ จะดูก็ดูไป แม่อาบน้าแล้ว แล้วก็ดึกแล้วงั้นแม่ไปนอนก่อนดีกว่า ลูกยังไม่อาบน้ำไปนอนไม่ได้ แล้วเราก็เดินเข้าไปนอน จากนั้นลูกก็ร้องไห้โวยวาย แต่เราไม่สนใจค่ะ
สักพักคุณปู่ก็อุ้มมาหน้าห้องแต่ลูกบอกว่า จะไปเล่นข้างนอกอีก ผ่านไปประมาณ 20 นาที เราออกไปดูเห็นเค้ากำลังเล่นของเล่น เป็นรถ เราเลยชวนให้เค้าเอารถไปเล่นในห้องน้ำ เอารถไปล้างกัน ก็ไม่ยอม เลยแกล้งเอารถค่อยๆขับไปทางห้องน้ำ ได้ผล เค้าอาละวาด กว้างของเล่นไปหมดเลย
เราเห็นท่าไม่ดี เลยอุ้มไปอาบน้ำในห้องน้ำ ลูกชายลงไปดิ้นลงกับพื้น เราทำได้แต่ประคองไม่ให้หัวกระแทก และเรียกชื่อลูกเรียกสติลูก
สภาพเหมือนคนบ้ากำลังอาละวาดอยู่จริงๆ เค้าร้องกรี๊ดๆเหมือนผีเข้า จับมือแม่สองข้างเอาเล็บข่วน ตีบ้างอยู่อย่างนั้น วินาทีนั้นเรานั่งร้องไห้ ปล่อยเลยค่ะ ให้ลูกทำแล้วพูดกับลูกว่าเราเจ็บนะ .....
            เราเครียดมาก เสียใจมาก ร้องไห้เลย เราสอนลูกพลาดตรงไหน ควรพาลูกไปปรึกษาแพทย์ไหม หรือว่าเราควรไปพบแพทย์เอง(กังวลไปเอง)  ใครมีคำแนะนำบ้าง ยินดีรับฟังทุกความเห็น ลูกบ้านอื่นเค้าเป็นกันมั๊ยคะ เครียดมาก ขอกำลังใจก็ยังดี กลัวลูกโตไปแล้วยังมีนิสัยแบบนี้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เด็กวัยขนาดนี้เริ่มเป็นวัยต่อต้านคะ มีความคิดเป็นของตัวเองสูง และจะเริ่มท้าทายพ่อกับแม่ ตอนลูกสาวเราขนาดนี้ก็เป็นคะ หงุดหงิดง่าย โวยวาย แต่เราเลี้ยงลูกดุมาก ไม่ตามใจ กฏต้องเป็นกฏและเราไม่ยอมหย่อนกฏใดๆ ถ้าต้องตีก็ตีคะ เพราะเราถือว่ารักลูกให้ตี ยังเป็นคำที่ใช้ได้อยู่ เพื่อนเรายังบอกว่าทำไม่เลี้ยงลูกโหดแท้

แต่จะบอกว่าถ้าเราทำจริงจัง ลูกจะรับรู้ได้ว่าอันไหนทำได้และทำไม่ได้ และถ้าต้องตีก็จะต้องตีลูกไม่กี่ครั้งแล้วเค้าจะเกิดการเรียนรู้คะ เด็กๆเค้าฉลาดมากนะคะ เค้าจะดูจากน้ำเสียงของแม่ ท่าทางของแม่ ถ้าเราหนักแน่นและบอกว่าไม่ได้ก็ต้องตามนั้น

ยกตัวอย่างเราก็ให้ลูกเล่นไอแพดนะคะแต่เรากำหนดเวลา และทุกครั้งที่ลูกจะเล่นต้องขอก่อน ห้ามหยิบมาเล่นเอง แม่ไม่โอเค เราจะชี้นาฬิกาให้เค้าดูว่าเล่นได้จนเข็มยาวชี้เลขเท่านี้นะ พอถึงเวลาต้องเอามาคืนแม่ แรกๆก็งอแงก็ธรรมดาเด็กที่เค้าเพลินกำลังสนุก แต่เราก็บอกเลยคะหมดเวลาต้องเอามาคืน ถ้าไม่ยอมก็บอกใหม่อธิบายว่าเราตกลงกันแล้วหนูต้องคืน ถ้าไม่คืนหนูจะไม่ได้เล่นมันอีกต่อไป แต่สีหน้าและหน้าตาต้องให้ดูออกว่าแม่ไม่ชอบนะ แล้วบอกเค้าว่าถ้าวันนี้หนูคืนไอแพดแม่ ครั้งหน้าหนูขอแม่จะให้เล่นอีก ทำซ้ำๆทุกครั้งเป็นหลายๆสิบครั้งคะไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้ง เด็กจะจำได้เองคะ ลูกเราตอนนี้กำลังจะสี่ขวบแล้วไม่เคยมีหยิบไอแพดมาเล่นโดยที่ไม่ขอเลย ทั้งที่มันก็วางอยู่ที่โต๊ะซึ่งเค้าหยิบได้ แถมเดี๋ยวนี้จะดูนาฬิกาแล้วบอกเองว่าหนูขอเล่นถึงเลขนี้นะคะแล้วหนูจะคืน เพราะเค้ารู้แล้วว่าแม่ให้เค้าเล่นครั้งละครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ถึงเวลาก็เามาคืน เราก็ชมเค้าไปว่าน่ารักมากๆแม่ดีใจที่หนูรักษาสัญญา

จะบอกว่าเราใช้เวลาเป็นปีคะสอนกันมาเรื่อยๆ กว่าที่ลูกจะยอมรับกติกาต่างๆที่วางขึ้น ทั้งนี้ต้องคุยกับคนในบ้าน อย่างเรากะสามีคุยกันตลอดบอกเราจะทำอย่างงี้นะ เวลาเราดุหรือสอนลูกสามีเราจะเดินหนีเพราะไม่งั้นเด็กจะไปหาตัวช่วยอื่น ที่สามารถปกป้องเค้าได้ ไม่ดุเค้าประมาณนี้คะ อย่างลูกเราถ้ามีย่า ยายมานอนที่บ้านจะหย่อนเรื่องกฏทันที แต่พออยู่กับแม่แค่สองคนจะไม่กล้าคะ

เวลาลูกอาละวาดดิ้นพรวดๆ สมัยลูกเราอายุเท่าคุณก็มีเหมือนกัน ร้องไห้ขว้างของ เราบอกเลยว่าห้ามทำ บางครั้งไม่ไหวเราก็ปล่อยดิ้นเลยคะ และห้ามใครไปสนใจบางครังร้องเป็นครึ่งชั่วโมงจนเหนื่อยและเงียบไปเอง พอเค้าเงียบ และเราอารมณ์เย็นลง เราค่อยเข้าไปคุย และบอกเค้าว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ แล้วบอกเค้าว่าหนูทำไม่ถูกให้เค้าขอโทษและรับปากว่าจะไม่ทำอีก ถ้าหนูยอมขอโทษแม่จะกอดหนูแล้วเราจะให้อภัย จากนั้นก็พาเค้ามาเก็บของที่ทำเลอะด้วยกันและสอนว่าหนูทำอย่างนี้บ้านเลอะไม่ดีเลยใช่ไหมคะ เราต้องมาเหนื่อยเก็บของกันอีก อะไรประมาณนี้คะ

สอนลูกต้องใจเย็นๆ และสม่ำเสมอคะ ทำไปเรื่อยๆสอนไปเรื่อยๆ เวลาเราเหนื่อยหรือท้อเราจะนึกถึงคำแม่เรา ที่พูดว่า "อย่าเบื่อที่จะพูดจะสอนลูกเพราะถ้าหากคนเป็นแม่เบื่อแล้ว เธอจะหาใครที่ไหนมาเพียรสอนลูกของเธอเอง". เราก็เออจริงของแม่เนอะ กว่าเราจะโตมาป่านนี้แม่ต้องปากเปียกมาแฉะพูดเรื่องเดิมๆมาตั้งกี่รอบ

เป็นกำลังใจให้นะคะ เราเองเชื่อว่าพอลูกอายุมากขึ้นมันก็จะมีปัญหาใหม่ๆมาให้แม่อย่างเรารับมือไปเรื่อยๆ ท้อได้แต่อย่าหยุดคะ เรากำลังลงทุนสร้างคนที่มีคุณภาพให้สังคม เด็กๆต้องได้รับการปลูกฝังวินัยและกติกา และทุกอย่างต้องเริ่มที่บ้านคะ

เราเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจำไม่ได้ว่าเล่มไหนแต่เนื้อความเราจำได้ไม่ลืม ไหนๆยาวแล้วก็ขอเล่าอีกหน่อยแล้วกันคะ
....................................................
วันหนึ่งพ่อกับลูกชายวัยสิบขวบไปเล่นว่าวด้วยกัน มีบทสนทนากันดังนี้
พ่อ:  ลูกว่าอะไรที่ทำให้ว่าวลอยขึ้นสูงได้ครับ
ลูก: ลมสิครับพ่อ พ่อถามอะไรง่ายจริงๆ
พ่อ: ไม่ใช่ครับลูก สายป่านตั้งหากที่ทำให้ว่าวลอยอยู่ได้
ลูก: พ่ออ่ะ สายป่านต่างหากที่ทำให้ว่าวลอยสูงได้แค่นี้ ไม่ไปได้ไกลกว่านี้ ทั้งที่อาจลอยได้สูงกว่านี้อีกนะครับ
พ่อ: งั้นดูนี่ครับลูก ว่าแล้วก็ตัดสายป่านว่าวอันนั้นลง สิ่งที่เกิดขึ้นว่าวลอยขึ้นสูงจริงแต่เพียงชั่วครู่จากนั้น ว่าวตัวนั้นตกตกดิ่งลงสู่พื้น
.......................
สายป่านของว่าวก็เหมือนวินัย กฏระเบียบ มันเหมือนจะทำให้เราถูกกดดัน อึดอัด แต่ถ้าเราไม่มีสิ่งเหล่านี้ทำทุกอย่างตามใจ ชีวิตเราก็คงไม่ต่างกับว่าวที่รอวันตกลง มันสบายแต่ไร้กรอบ

สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ เราสามารถเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้คะ ค่อยๆฝึกเค้าไปเรื่อยๆนะคะ พอเค้าโตขึ้นก็จะดีขึ้นคะ สู้ๆไปด้วยกันคะคุณแม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่