นักวิเคราะห์กองทุนรวม แนะถือทองคำในพอร์ตประมาณ 10% หรือเก็บสะสมเพิ่มหากราคาทองปรับลงมาใกล้แนวรับที่ 1,250 - 1,300 US$/oz เชื่อราคาทองคำในระยะยาวยังไปต่อได้ พร้อมแนะทยอยเก็ยกองทุนหุ้น รวมถึง LTF-RMF
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้น เรามองแกว่งตัวในกรอบขาลง หลังราคาทองคำปรับลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,520 US$/oz.อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ เราคาดว่า ราคาทองคำจะดีดกลับขึ้นมาทดสอบบริเวณ 1,450 - 1,520 US$/oz. จากความต้องการทองคำในตลาด Spot แต่มองว่าปัจจัยต่างๆ ยังไม่สนับสนุนราคาทองคำในช่วงนี้ คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงอีกครั้ง โดยมองแนวรับไว้ที่ 1,250 - 1,300 US$/oz
. สำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรกองทุนทองคำ เราแนะนำขายเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านแต่สำหรับนักลงทุนระยะยาว เรายังคงแนะนำให้มีกองทุนทองคำอยู่ในพอร์ต สัดส่วนราว 10% ของพอร์ต โดยอาจพิจารณาสะสมเพิ่ม หากราคาทองคำปรับตัวลงมาใกล้แนวรับ โดยทองคำยังมีปัจจัยบวกจากการใช้มาตรการ QE ของประเทศพัฒนาแล้วที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และแนวโน้มที่ธนาคารกลางของประเทศกำลังพัฒนาจะยังคงสถานะผู้ซื้อสุทธิต่อเนื่อง รวมถึงภาวะวิกฤตหนี้ยุโรป และเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบางอาจทำให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งได้ทุกเมื่อ กองทุนทองคำที่เราแนะนำยังคงเป็น T-GoldBullion-H และK-GOLD ตามเดิม
ส่วนตลาดหุ้นไทย เรามองยังมีโอกาสผันผวนได้ โดยนักลงทุนยังคงรอลุ้นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน แนะนำรอสะสมกองทุนหุ้น, LTF และ RMF เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง โดยกองทุนแนะนำยังคงเป็น กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV),กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปิตอล เพื่อการเลี้ยงชีพ (ABSC-RMF) และกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV)
นายสานุพงศ์ กล่าวต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาทองคำที่ปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญ 1,520 US$/oz. ทำให้ในระยะสั้นราคาทองคำยังคงเผชิญแรงขายจากนักลงทุน โดยกองทุน SPDR ถือทองคำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังต่ำไม่หนุนการลงทุนในทองคำในช่วงที่ผ่านมา และการประกาศขายทองคำของ Cyprusสร้างความกังวลที่ว่าประเทศในยูโรโซนอาจมีการขายทองคำออกมาอีก
อย่างไรก็ตามแรงซื้อในตลาด Gold Spot หนุนราคาทองคำดีดกลับมาบ้าง โดยราคาทองคำวันศุกร์ปิดอยู่ที่ 1,403.85 US$/oz. (-5.04% WoW) ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยราคาน้ำมันดิบ Nymex ปิดที่ 88.01 US$/bbl (-3.59% WoW) ส่วนราคาน้ำมันดิบBrent ปรับลดลงแรงมาปิดที่ 96.06 US$/bbl (-5.81% WoW) โดยนักลงทุนกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก
นักวิเคราะห์กลับลำ กลืนน้ำลายตัวเอง แนะเก็บทองคำ10%ในพอร์ต มองระยะยาวราคายังไปต่อ
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้น เรามองแกว่งตัวในกรอบขาลง หลังราคาทองคำปรับลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,520 US$/oz.อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ เราคาดว่า ราคาทองคำจะดีดกลับขึ้นมาทดสอบบริเวณ 1,450 - 1,520 US$/oz. จากความต้องการทองคำในตลาด Spot แต่มองว่าปัจจัยต่างๆ ยังไม่สนับสนุนราคาทองคำในช่วงนี้ คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงอีกครั้ง โดยมองแนวรับไว้ที่ 1,250 - 1,300 US$/oz
. สำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรกองทุนทองคำ เราแนะนำขายเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านแต่สำหรับนักลงทุนระยะยาว เรายังคงแนะนำให้มีกองทุนทองคำอยู่ในพอร์ต สัดส่วนราว 10% ของพอร์ต โดยอาจพิจารณาสะสมเพิ่ม หากราคาทองคำปรับตัวลงมาใกล้แนวรับ โดยทองคำยังมีปัจจัยบวกจากการใช้มาตรการ QE ของประเทศพัฒนาแล้วที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และแนวโน้มที่ธนาคารกลางของประเทศกำลังพัฒนาจะยังคงสถานะผู้ซื้อสุทธิต่อเนื่อง รวมถึงภาวะวิกฤตหนี้ยุโรป และเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบางอาจทำให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งได้ทุกเมื่อ กองทุนทองคำที่เราแนะนำยังคงเป็น T-GoldBullion-H และK-GOLD ตามเดิม
ส่วนตลาดหุ้นไทย เรามองยังมีโอกาสผันผวนได้ โดยนักลงทุนยังคงรอลุ้นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน แนะนำรอสะสมกองทุนหุ้น, LTF และ RMF เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง โดยกองทุนแนะนำยังคงเป็น กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV),กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปิตอล เพื่อการเลี้ยงชีพ (ABSC-RMF) และกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV)
นายสานุพงศ์ กล่าวต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาทองคำที่ปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญ 1,520 US$/oz. ทำให้ในระยะสั้นราคาทองคำยังคงเผชิญแรงขายจากนักลงทุน โดยกองทุน SPDR ถือทองคำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังต่ำไม่หนุนการลงทุนในทองคำในช่วงที่ผ่านมา และการประกาศขายทองคำของ Cyprusสร้างความกังวลที่ว่าประเทศในยูโรโซนอาจมีการขายทองคำออกมาอีก
อย่างไรก็ตามแรงซื้อในตลาด Gold Spot หนุนราคาทองคำดีดกลับมาบ้าง โดยราคาทองคำวันศุกร์ปิดอยู่ที่ 1,403.85 US$/oz. (-5.04% WoW) ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยราคาน้ำมันดิบ Nymex ปิดที่ 88.01 US$/bbl (-3.59% WoW) ส่วนราคาน้ำมันดิบBrent ปรับลดลงแรงมาปิดที่ 96.06 US$/bbl (-5.81% WoW) โดยนักลงทุนกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก