อากาศร้อน อาจมีผลทำให้การเมืองไทยสามารถแหลกันได้โดยไม่ละอายมากขึ้น

1) เมื่อกระแสสังคมไทยชื่นชมทีมทนายความในคดีปราสาทพระวิหาร ฝ่ายการเมืองที่เคยโยนผ้าขาว ผลักความรับผิดชอบไปให้รัฐบาลก่อนหน้าว่าเป็นผู้ตั้งทีมทนายความ ก็กลับกลายเป็นออกหน้า

อ้างรัฐบาลยิ่งลักษณ์สนับสนุนการทำงานและเชื่อมั่นในทีมกฎหมายชุดนี้มาโดยตลอด

ทำตัวเหมือนเปรตขอส่วนบุญ

ล่าสุด คนเสื้อแดงในโลกออนไลน์ถึงกับเต้าข่าวเอออวยกันเอง อ้างว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนจ่ายเงินส่วนตัวว่าจ้างคุณอลินา มิรอง เข้ามาช่วยสู้คดีครั้งนี้เป็นการเฉพาะ!!!

โกหกหน้าไม่อาย!

คนเสื้อแดงที่เออออตามๆ กันไป ก็สะท้อนว่าไร้สติ ขาดปัญญา สามารถเข้าถึงอินเตอร์เนต แต่ทำตัวดักดานให้เขาจูงจมูกได้อย่างไร้เหตุผล

การจ่ายเงินค่าทนายความและการแต่งตั้งทีมกฎหมาย ล้วนมาจากกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งก็คือเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ (ตั้งทีมกฎหมายในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์)

ส่วนคุณอลินา มิรอง เธอเป็นผู้ช่วยของ ศ.อแลง แปลเล่ต์ เธอจึงเข้ามาอยู่ในทีมด้วย แต่มารู้ตัวว่าได้รับมอบหมายให้ขึ้นแถลงต่อศาลเรื่องแผนที่ในภายหลัง

สิ่งที่นักการเมืองขี้ข้าของทักษิณทำ กลับตรงกันข้าม คือ เคยย้ายท่านทูตวีรชัย พลาศรัย พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ, เคยปลดท่านทูตวีรชัยออกจากคณะกรรมาธิการเขตแดนไทย-กัมพูชา (JBC), เคยออกแถลงการณ์ร่วมฯ ปี 2551 ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้นำไปอ้างทิ่มแทงประเทศไทยในศาลโลกครั้งนี้ด้วย, เคยเอาแถลงการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาใส่ร้ายว่ารัฐบาลไทยรุกรานประเทศกัมพูชา นำมาแปลเป็นภาษาไทย แจกจ่ายสื่อมวลชนที่กระทรวงการต่างประเทศ ฯลฯ

2) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงคุกคามเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่จังหวัดศรีสะเกษ กระทั่งต้องย้ายสถานที่จัดเวที แถมยังมีการตามไปป่วน จนเกือบจะเกิดการปะทะกัน

ณัฐวุฒิอ้างว่า เป็นผลจากการที่ชาวศรีสะเกษเสียชีวิตถึง 6 ราย ระหว่างการชุมนุมทางการเมือง คนในพื้นที่จึงอยากจะแสดงออกถึงการไม่ยอมรับบทบาทของนายอภิสิทธิ์

หากคิดด้วยสามัญสำนึกสักนิด... พรรคเพื่อไทย สส.เสื้อแดง เป็นฝ่ายผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม และกฎหมายปรองดอง ซึ่งมีเนื้อหาสาระครอบคลุมถึงการลบล้างความผิดให้แก่ฆาตกร คนฆ่าประชาชน ฆ่าคนเสื้อแดง ฆ่าทหาร ก่อเหตุจลาจล เผาบ้านเผาเมือง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านเขาคัดค้านเรื่องนี้อย่างชัดเจน

ถ้าเขาเป็นฆาตกรตัวจริง เหตุใดเขาจึงคัดค้านกฎหมายที่ตัวเขาจะได้ประโยชน์?

ส่วน สส.พรรคพวกของเสื้อแดง ขี้ข้าทักษิณ ถ้าต้องการจะเอาผิดกับฆาตกรจริง เหตุใดไปสนับสนุนการล้างผิดเสียเล่า? กลัวอะไร? ทำเพื่อใคร? ทรยศต่อคนเสื้อแดงใช่หรือไม่?

คิดง่ายๆ แค่นี้ ก็จะเห็นแล้วว่า ใครกันแน่ที่กลัวการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามกระบวนการยุติธรรม

ยิ่งกว่านั้น คนเสื้อแดงที่อ้างว่าต้องการเห็นการรับผิดชอบต่อความตายของคนเสื้อแดง แต่กลับไปแสดงการก่อกวน คุกคาม ป่วนเวทีของพรรคฝ่ายค้าน ทั้งๆ ที่เวทีของฝ่ายค้านเขาคัดค้านการนิรโทษกรรม ล้างผิดให้ฆาตกร ซึ่งเป็นการปกป้องให้ความยุติธรรมแก่คนตาย

สส.เสื้อแดงและแกนนำเสื้อแดงที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ถ้าไม่ ก็คงมีสมองที่พิกลพิการ

3) แกนนำเสื้อแดงบางคน พยายามอ้างว่า หากกฎหมายนิรโทษกรรมออกมาแล้ว ตนเองจะไม่ขอรับประโยชน์จากการล้างผิดตามกฎหมายดังกล่าว

แต่การกระทำเช่นนี้ ก็ไม่ต่างกับที่ทักษิณ ชินวัตร เคยมีพฤติกรรมซิกแซ็ก หลบเลี่ยงภาษีจากการขายหุ้น แล้วพยายามอวดอ้างว่า ตนเองอยากเสียภาษีใจจะขาด แต่กฎหมายไม่ยอมให้เสีย เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเรียกเก็บภาษี

ในความเป็นจริง เมื่อกฎหมายออกมาแล้ว จะต้องบังคับใช้ตามเนื้อหาสาระของกฎหมายเป็นการทั่วไป

กฎหมายเขียนอย่างไร ก็ต้องบังคับใช้อย่างนั้น

ใครจะมาอ้างว่า ไม่รับประโยชน์จากกฎหมาย หรือไม่รับการบังคับกฎหมาย หาได้ไม่

ถ้ากฎหมายเปิดช่องให้แกนนำเสื้อแดงได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมล้างผิด สุดท้าย คนเหล่านั้นก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย ไม่ว่าจะแสร้งตีฝีปากว่าไม่อยากรับอย่างไรก็ตาม

ยิ่งกว่านั้น ก็ปรากฏว่า เวลานี้แกนนำเสื้อแดงกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อจะล้มคดีที่พวกตนควรจะต้องไปต่อสู้คดีในชั้นศาลยุติธรรม

ล่าสุด นพ.เหวง โตจิราการ ได้ยอมรับว่า ตนเองยื่นหนังสือถึงอธิบดีอัยการสูงสุด ขอให้พิจารณาถอนฟ้องคดีก่อการร้ายที่ตนและพวก 24 คน ตกเป็นจำเลย อ้างว่าเคยถูกกักขัง ทำลายโอกาสต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม

เหวงของแท้!

4) เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2556 พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ในฐานะประธานการประชุมพรรคเพื่อไทย นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมของพรรค

นอกจากพรรคเพื่อไทยจะมีมติเลื่อนระเบียบวาระการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาเป็นเรื่องเร่งด่วนแล้ว ที่ประชุมพรรคยังมีมติอื่นด้วย

นายภูมิธรรมแถลงว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเห็นว่า “1.รัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติ มาตรา 291 ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องนี้ รัฐสภาไม่ต้องดำเนินการตามศาลรัฐธรรมนูญ เพราะถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2.สส.และ สว.จะร่วมกันออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อประชาชนถึงเหตุผลในการคัดค้านการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ก้าวล่วงอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ...”

ล่าสุด สส.พรรคเพื่อไทย ก็เตรียมยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อศาลรัฐธรรมนูญอ้างว่า เพื่อปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญข้างต้น

นายสามารถ แก้วมีชัย อ้างว่า เมื่อปฏิเสธอำนาจศาลแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆ อีก เพราะเป็นการแสดงออกแล้วว่า ไม่ยอมรับอำนาจศาล

พฤติกรรมเช่นนี้ เป็นการปลุกระดมที่สร้างความเข้าใจผิดและความเห็นผิดในสังคม

ความจริง ไม่มีใครจะปฏิเสธอำนาจศาลในประเทศได้!

ไม่อย่างนั้น คนทำผิดกฎหมาย ถูกฟ้องศาล ก็จะอ้างได้เหมือนกันว่าตนเองปฏิเสธอำนาจศาล ดังนั้น จึงจะไม่ไปต่อสู้ในศาล และจะไม่เคารพการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของศาล

แต่เวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นคุณแก่พรรคเพื่อไทย เช่น กรณี พ.ร.ก.กู้เงิน 350,000 ล้านบาท เป็นต้น พลพรรคเสื้อแดงก็ยอมรับได้ และอ้างความชอบธรรมจากศาลรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ

พฤติกรรมไม่คงเส้นคงวาเช่นนี้ ละม้ายกับเขมรในกรณีคดีปราสาทพระวิหาร

พฤติการณ์ต่อต้านการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญเวลานี้ มีพื้นฐานมาจากมติที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ซึ่งในวันดังกล่าวมีสไกป์สั่งการของทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีอาญาแผ่นดิน

ถ้าประเทศชาติลุกเป็นไฟ การเมืองไม่เคารพกติกา ไม่เคารพกฎหมายสูงสุดของประเทศ คนทำผิดไม่ต้องรับโทษ โกงกินไม่ต้องรับผิด คนลุกขึ้นมาฆ่ากัน ไม่เคารพยำเกรงกฎหมายบ้านเมืองต่อไป... คุณทักษิณและตระกูลชินวัตร คิดหรือว่าตนเองจะลอยตัว ได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ หรือแม้แต่จะอยู่สุขสบายได้ต่อไป?

ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/6361

ปล.นี่แหล่ะหนอ....ยุคพวกแหลครองเมือง...เอิ๊ก ๆ ๆ