จากมติชนออนไลน์
กรณีที่มีผู้ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวมติชน ว่า ที่นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เคยออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ผู้ประกอบการรีสอร์ตที่สร้างบุกรุกในทะเล ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด 3 หลัง คือ มุกเสม็ด รีสอร์ต, พลอยเสม็ดรีสอร์ต และอันซีน รีสอร์ต แสดงความจำนงที่จะขอทุบรีสอร์ตทิ้งด้วยตัวเอง หลังจากศาลมีคำสั่งให้รื้อ และคดีถึงขั้นสิ้นสุดแล้ว โดยเจ้าของรีสอร์ตของผัดผ่อนมาตลอด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบก็ยังพบว่า ที่ผ่านมารีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง ยังไม่มีการรื้อทิ้งแต่ประการใด ทั้งนี้ยังมีผู้ร้องเรียนเข้ามาด้วยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้ง 3 แห่งก็ยังเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยวอยู่นั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 เมษายน นายสุเมธ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ให้สัมภาษณ์ ว่า ภายหลังจากศาลพิพากษาให้ผู้ประกอบการที่กระทำผิดรื้อสิ่งก่อสร้างที่สร้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทิ้ง ตามมาตรา 22 นั้น มีแนวปฏิบัติ 2 ทาง คือ ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯไปรื้อเอง และภายหลังจากที่รื้อแล้ว จะต้องฟ้องร้องเอาค่าดำเนินการรื้อจากผู้ประกอบการด้วย อีกทางคือ เจ้าของจะรื้อเอง ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยนายดำรง พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ เจ้าของได้ขอรื้อเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีการรื้อเสียที ล่าสุด ก่อนสงกรานต์ ตนได้ทำหนังสือด่วนไปถามว่าจะรื้อเมื่อไร หากไม่รื้อ ทางอุทยานฯจะนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อให้ ทางเจ้าของตอบมาว่า ช่วงสงกรานต์ คนงานหยุดทำงาน 15 คน ไม่สามารถรื้อได้ และรับปากว่าหลังสงกรานต์จะรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด
"เวลานี้ผมได้ตั้งคณะกรรมการชุดควบคุมการรื้อถอนรีสอร์ตทั้ง 3 แห่งแล้ว โดยที่ผ่านมาหลังเทศกาลสงกรานต์ ได้ยื่นคำขาดไปว่าจะต้องรีบรื้อทิ้งให้หมดทั้ง 3 หลังโดยเร็ว ซึ่งเจ้าของก็รับปาก ซึ่งในขณะนี้ ในส่วนของมุกเสม็ดก็เริ่มรื้อในส่วนของผนังและหลังคาออกแล้ว เหลือแต่เสาปูนในน้ำ ซึ่งส่วนนี้อาจจะต้องใช้เวลา เพราะต้องใช้เรือที่มีปั้นจั่นเข้ามารื้อออกไป ซึ่งวิธีการนี้จะไม่ทำให้ธรรมชาติในทะเลเสียหายมากนัก ผมก็ยอมรับว่า ที่ผ่านมาก็ปล่อยเขามานานแล้ว แต่ไม่อยากออกคำสั่งให้เขารื้อแบบเอาความสะใจ ต้องทำแบบที่ต้องดูแลธรรมชาติในทะเลด้วย เพราะสิ่งก่อสร้างในทะเล หากรื้อแบบบุ่มบ่าม มันจะทิ้งเศษไม้เศษปูนเป็นขยะในทะเล และอาจจะลอยไปทำลายปะการังอีก" นายสุเมธกล่าว
หัวหน้าอุทยานเกาะเสม็ดฯกล่าวว่า นอกจากที่เกาะเสม็ดแล้ว สิ่งที่อุทยานแห่งชาติเกาะเสม็ดกำลังดำเนินการอยู่คือ ที่บริเวณหาดแม่รำพึง ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยที่ผ่านมามีพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการ พากันมายึดพื้นที่ ทำเป็นร้านค้าแผงลอย กางเต็นท์ผ้าใบให้นักท่องเที่ยวนอนตามชายหาด เละเทะ สกปรกตลอดแนว เป็นแบบนี้มาเกือบ 20 ปีนั้น เวลานี้ตนได้ยื่นคำขาดว่า ทางอุทยานฯจะจัดระเบียบใหม่ ให้ทุกคนรื้อสิ่งก่อสร้างออกไปให้หมดภายในวันที่ 25 เมษายนนี้ หากไม่รื้อ อุทยานฯจะนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนเองให้หมด
"ผมไม่ได้ขู่ แต่เรื่องนี้เป็นนโยบายจากท่านอธิบดีฯ ที่ผ่านมาเราปล่อยปละจนหาดแม่รำพึงเละเทะมากพอแล้ว เราต้องการทำให้หาดสะอาด และเป็นของประชาชนทุกๆ คนสามารถเข้ามาใช้ได้หมด ไม่ใช่มาจับจองและทำกันแบบนี้ การจัดระเบียบใหม่นั้น จะเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้ามาลงทะเบียน สามารถขายของได้เหมือนเดิม แต่ให้เป็นแบบไปเช้าเย็นกลับ ขายได้เฉพาะรถเข็นเท่านั้น ขายเสร็จเข็นกลับบ้าน ไม่ทิ้งไว้ให้เกะกะ ส่วนใครจะกางเตียงผ้าใบหรือทำเต็นท์ผ้าใบให้เช่าก็เหมือนกัน จะมีการจำกัดจำนวน สีของเต็นท์และเตียงต้องเหมือนกัน ห้ามวางค้างคืน เก็บเป็นเวลา ที่สำคัญ ใน 1 สัปดาห์ ทุกคนจะต้องหยุดทำการ 1 วัน เพื่อทำความสะอาด และช่วยกันปรับปรุงภูมิทัศน์ให้หาดแม่รำพึงสวยงามน่าเที่ยวมากกว่านี้" นายสุเมธกล่าว
กรมอุทยานฯ ขีดเส้นรื้อแผงลอย"หาดแม่รำพึง" 25 เม.ย. 3 รีสอร์ตเสม็ดเพิ่งเริ่มถอน อ้างสงกรานต์คนงานหยุด!?
กรณีที่มีผู้ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวมติชน ว่า ที่นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เคยออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ผู้ประกอบการรีสอร์ตที่สร้างบุกรุกในทะเล ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด 3 หลัง คือ มุกเสม็ด รีสอร์ต, พลอยเสม็ดรีสอร์ต และอันซีน รีสอร์ต แสดงความจำนงที่จะขอทุบรีสอร์ตทิ้งด้วยตัวเอง หลังจากศาลมีคำสั่งให้รื้อ และคดีถึงขั้นสิ้นสุดแล้ว โดยเจ้าของรีสอร์ตของผัดผ่อนมาตลอด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบก็ยังพบว่า ที่ผ่านมารีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง ยังไม่มีการรื้อทิ้งแต่ประการใด ทั้งนี้ยังมีผู้ร้องเรียนเข้ามาด้วยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้ง 3 แห่งก็ยังเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยวอยู่นั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 เมษายน นายสุเมธ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ให้สัมภาษณ์ ว่า ภายหลังจากศาลพิพากษาให้ผู้ประกอบการที่กระทำผิดรื้อสิ่งก่อสร้างที่สร้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทิ้ง ตามมาตรา 22 นั้น มีแนวปฏิบัติ 2 ทาง คือ ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯไปรื้อเอง และภายหลังจากที่รื้อแล้ว จะต้องฟ้องร้องเอาค่าดำเนินการรื้อจากผู้ประกอบการด้วย อีกทางคือ เจ้าของจะรื้อเอง ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยนายดำรง พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ เจ้าของได้ขอรื้อเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีการรื้อเสียที ล่าสุด ก่อนสงกรานต์ ตนได้ทำหนังสือด่วนไปถามว่าจะรื้อเมื่อไร หากไม่รื้อ ทางอุทยานฯจะนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อให้ ทางเจ้าของตอบมาว่า ช่วงสงกรานต์ คนงานหยุดทำงาน 15 คน ไม่สามารถรื้อได้ และรับปากว่าหลังสงกรานต์จะรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด
"เวลานี้ผมได้ตั้งคณะกรรมการชุดควบคุมการรื้อถอนรีสอร์ตทั้ง 3 แห่งแล้ว โดยที่ผ่านมาหลังเทศกาลสงกรานต์ ได้ยื่นคำขาดไปว่าจะต้องรีบรื้อทิ้งให้หมดทั้ง 3 หลังโดยเร็ว ซึ่งเจ้าของก็รับปาก ซึ่งในขณะนี้ ในส่วนของมุกเสม็ดก็เริ่มรื้อในส่วนของผนังและหลังคาออกแล้ว เหลือแต่เสาปูนในน้ำ ซึ่งส่วนนี้อาจจะต้องใช้เวลา เพราะต้องใช้เรือที่มีปั้นจั่นเข้ามารื้อออกไป ซึ่งวิธีการนี้จะไม่ทำให้ธรรมชาติในทะเลเสียหายมากนัก ผมก็ยอมรับว่า ที่ผ่านมาก็ปล่อยเขามานานแล้ว แต่ไม่อยากออกคำสั่งให้เขารื้อแบบเอาความสะใจ ต้องทำแบบที่ต้องดูแลธรรมชาติในทะเลด้วย เพราะสิ่งก่อสร้างในทะเล หากรื้อแบบบุ่มบ่าม มันจะทิ้งเศษไม้เศษปูนเป็นขยะในทะเล และอาจจะลอยไปทำลายปะการังอีก" นายสุเมธกล่าว
หัวหน้าอุทยานเกาะเสม็ดฯกล่าวว่า นอกจากที่เกาะเสม็ดแล้ว สิ่งที่อุทยานแห่งชาติเกาะเสม็ดกำลังดำเนินการอยู่คือ ที่บริเวณหาดแม่รำพึง ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยที่ผ่านมามีพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการ พากันมายึดพื้นที่ ทำเป็นร้านค้าแผงลอย กางเต็นท์ผ้าใบให้นักท่องเที่ยวนอนตามชายหาด เละเทะ สกปรกตลอดแนว เป็นแบบนี้มาเกือบ 20 ปีนั้น เวลานี้ตนได้ยื่นคำขาดว่า ทางอุทยานฯจะจัดระเบียบใหม่ ให้ทุกคนรื้อสิ่งก่อสร้างออกไปให้หมดภายในวันที่ 25 เมษายนนี้ หากไม่รื้อ อุทยานฯจะนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนเองให้หมด
"ผมไม่ได้ขู่ แต่เรื่องนี้เป็นนโยบายจากท่านอธิบดีฯ ที่ผ่านมาเราปล่อยปละจนหาดแม่รำพึงเละเทะมากพอแล้ว เราต้องการทำให้หาดสะอาด และเป็นของประชาชนทุกๆ คนสามารถเข้ามาใช้ได้หมด ไม่ใช่มาจับจองและทำกันแบบนี้ การจัดระเบียบใหม่นั้น จะเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้ามาลงทะเบียน สามารถขายของได้เหมือนเดิม แต่ให้เป็นแบบไปเช้าเย็นกลับ ขายได้เฉพาะรถเข็นเท่านั้น ขายเสร็จเข็นกลับบ้าน ไม่ทิ้งไว้ให้เกะกะ ส่วนใครจะกางเตียงผ้าใบหรือทำเต็นท์ผ้าใบให้เช่าก็เหมือนกัน จะมีการจำกัดจำนวน สีของเต็นท์และเตียงต้องเหมือนกัน ห้ามวางค้างคืน เก็บเป็นเวลา ที่สำคัญ ใน 1 สัปดาห์ ทุกคนจะต้องหยุดทำการ 1 วัน เพื่อทำความสะอาด และช่วยกันปรับปรุงภูมิทัศน์ให้หาดแม่รำพึงสวยงามน่าเที่ยวมากกว่านี้" นายสุเมธกล่าว