สวัสดีแม่ๆ ทุกท่าน วันนี้เรากลับมาตั้งกระทู้อีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน (ทำงาน) แต่ตอนนี้ปัญหาที่เจอคือเรื่องประกันน้อง ลูกสาว อายุ 2.5 ปี น้องทำประกัน บริษัท คนไทย โฆษณายิ่งใหญ่ว่าเข้าใจคนไทย แต่ไม่รู้จริงป่าว เราเริ่มทำให้น้อง ตุลา 55 ส่งราย 3 เดือน ต้องครบ 6 เดือนประกันถึงเคลมให้ทุกอย่าง แต่พอดีน้องป่วยเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยไข้ที่ขึ้นสูง 39 ขึ้นๆ ลงๆ 2 วัน คุณหมอเลยแอดมิทซะ คุณแม่จึงต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน ปัญหามันอยู่ที่ว่า
1. คุณหมอให้น้องเจาะเลือดต้องการดูไข้เลือดออก ผลเลือดแจ้งว่า น้องมีภาวะโลหิตจางร่วมด้วย คุณหมอจึงชี้แจงให้ฟังดังนี้ อาการภาวะโลหิตจางสามารถหายได้ กรณีน้องอาจจะเกิดจากการได้สารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ และการที่เด็กเป็นไข้อาจมีผลทำให้เกร็ดเลือดต่ำได้
2. เรายื่น ประกัน พร้อมเอกสารทุกอย่างเข้า บจก วันที่ 22/3/56 เราตามผล 8/4/56 ทางประกันแจ้งว่า น้องมีภาวะโลหิตจางจึงส่งเรื่องขอตรวจสอบทางโรงพยาบาลแล้ว หลังสงกรานต์ทราบผล วันที่ 18/4/56 จนท.ฝ่ายสินไหม โทรมาขอลายเซ็นเราเพื่อขอประวัติแรกเกิดน้อง เรา OK ก็ว่าไปอย่างสุภาพ "พี่เสียความรู้สึกมาก เพราะเรื่องน่าจะจบแล้วแต่ก็ยัง คุณตามเรื่องกันช้ามาก ไหนบอกจะสรุปผลหลังสงกรานต์แต่นี้มาขอลายเซ็นเพิ่มเพื่อขอสอบประวัติน้องอีก" เราเซ็นให้ เพราะเราไม่มีอะไรปกปิด ที่สำคัญเราไม่ทราบมาก่อนด้วยว่าน้องมีภาวะโลหิตจาง เพราะที่น้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากมีไข้สูง ย้ำน่ะค่ะ ถ้าจนท. เข้ามาอ่าน น้องเข้าโรงพยาบาลเพราะมีไข้สูงไม่เกี่ยวกับภาวะโลหิตจาง
3.เราต้องรอคอยจนถึงวันศุกร์นี้ถึงทราบ ว่าจะอนุมัติ หรือยกเลิก
***** เราถามหน่อยเถอะ เราจ่ายค่ารักษาไปก่อนประมาณ 17000 กว่า โดยการรูดบัตร แต่เราต้องรอผลสรุปจากประกันอย่างเดียว ทั้งที่ความบกพร่องมาจากประกันส่วนหนึ่งที่ไม่ยอมขอเอกสารให้ครบทุกอย่าง ไม่มีการติดต่อเราด้วยซ้ำว่าน้องมีเคสพิเศษ ต้องสอบประวัติ คุณล่าช้า แต่เราต้องจ่ายดอกเบี้ยให้บัตรเครดิต คุณรับผิดชอบให้เราได้มั้ย นอกจากคำขอโทษ เวลาตัวแทนคุณต้องการให้เราทำประกันทำไมไม่ชี้แจงออกมาให้หมด ว่าแม้แต่ภาวะก็ห้ามมี ซึ่งเราไม่เคยทราบ และนี้คือการเข้า รพ.ครั้งแรกของลูกเรา เราไม่เคยทำ ประกันมาก่อน เราเสียเงินทำ ปีละ20000 กว่าเพื่อให้ลูกได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คุณเป็น บริษัท ของคนไทยน่ะค่ะ คุณน่าจะทำอะไรที่ดีมากกว่านี้ ไม่ใช่ให้ลูกค้ารอ และรอ เวลาเราจ่ายเบี้ยให้เรายังไม่ให้คุณรอเลย คุณขอลายเซ็นเรา เราก็ไม่ปฏิเสธ เก็บคำขอโทษไว้ดีกว่ามั้ย แล้วช่วยทำหน้าที่ บริษัท ประกันให้ดีกว่านนี้ทุกวันนี้เป็นโลกของไฮเทคโนโลยีแล้ว คุณน่าจะมีอะไรที่ดีมากขึ้น ไม่ใช่ให้ลูกค้ามาตำหนิหรือเสียความรู้สึกกับการทำงานที่ลูกค้าต้องเป็นผู้เสียผลประโยชน์เอง *****
เคลมประกันกับภาวะโลหิตจาง
1. คุณหมอให้น้องเจาะเลือดต้องการดูไข้เลือดออก ผลเลือดแจ้งว่า น้องมีภาวะโลหิตจางร่วมด้วย คุณหมอจึงชี้แจงให้ฟังดังนี้ อาการภาวะโลหิตจางสามารถหายได้ กรณีน้องอาจจะเกิดจากการได้สารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ และการที่เด็กเป็นไข้อาจมีผลทำให้เกร็ดเลือดต่ำได้
2. เรายื่น ประกัน พร้อมเอกสารทุกอย่างเข้า บจก วันที่ 22/3/56 เราตามผล 8/4/56 ทางประกันแจ้งว่า น้องมีภาวะโลหิตจางจึงส่งเรื่องขอตรวจสอบทางโรงพยาบาลแล้ว หลังสงกรานต์ทราบผล วันที่ 18/4/56 จนท.ฝ่ายสินไหม โทรมาขอลายเซ็นเราเพื่อขอประวัติแรกเกิดน้อง เรา OK ก็ว่าไปอย่างสุภาพ "พี่เสียความรู้สึกมาก เพราะเรื่องน่าจะจบแล้วแต่ก็ยัง คุณตามเรื่องกันช้ามาก ไหนบอกจะสรุปผลหลังสงกรานต์แต่นี้มาขอลายเซ็นเพิ่มเพื่อขอสอบประวัติน้องอีก" เราเซ็นให้ เพราะเราไม่มีอะไรปกปิด ที่สำคัญเราไม่ทราบมาก่อนด้วยว่าน้องมีภาวะโลหิตจาง เพราะที่น้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากมีไข้สูง ย้ำน่ะค่ะ ถ้าจนท. เข้ามาอ่าน น้องเข้าโรงพยาบาลเพราะมีไข้สูงไม่เกี่ยวกับภาวะโลหิตจาง
3.เราต้องรอคอยจนถึงวันศุกร์นี้ถึงทราบ ว่าจะอนุมัติ หรือยกเลิก
***** เราถามหน่อยเถอะ เราจ่ายค่ารักษาไปก่อนประมาณ 17000 กว่า โดยการรูดบัตร แต่เราต้องรอผลสรุปจากประกันอย่างเดียว ทั้งที่ความบกพร่องมาจากประกันส่วนหนึ่งที่ไม่ยอมขอเอกสารให้ครบทุกอย่าง ไม่มีการติดต่อเราด้วยซ้ำว่าน้องมีเคสพิเศษ ต้องสอบประวัติ คุณล่าช้า แต่เราต้องจ่ายดอกเบี้ยให้บัตรเครดิต คุณรับผิดชอบให้เราได้มั้ย นอกจากคำขอโทษ เวลาตัวแทนคุณต้องการให้เราทำประกันทำไมไม่ชี้แจงออกมาให้หมด ว่าแม้แต่ภาวะก็ห้ามมี ซึ่งเราไม่เคยทราบ และนี้คือการเข้า รพ.ครั้งแรกของลูกเรา เราไม่เคยทำ ประกันมาก่อน เราเสียเงินทำ ปีละ20000 กว่าเพื่อให้ลูกได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คุณเป็น บริษัท ของคนไทยน่ะค่ะ คุณน่าจะทำอะไรที่ดีมากกว่านี้ ไม่ใช่ให้ลูกค้ารอ และรอ เวลาเราจ่ายเบี้ยให้เรายังไม่ให้คุณรอเลย คุณขอลายเซ็นเรา เราก็ไม่ปฏิเสธ เก็บคำขอโทษไว้ดีกว่ามั้ย แล้วช่วยทำหน้าที่ บริษัท ประกันให้ดีกว่านนี้ทุกวันนี้เป็นโลกของไฮเทคโนโลยีแล้ว คุณน่าจะมีอะไรที่ดีมากขึ้น ไม่ใช่ให้ลูกค้ามาตำหนิหรือเสียความรู้สึกกับการทำงานที่ลูกค้าต้องเป็นผู้เสียผลประโยชน์เอง *****