สวัสดีเพื่อนๆ Blueplanet นะคะ วันนี้มีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดี เกี่ยวกับรีสอร์ทที่ว่านี้จะมาแชร์ แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลย ว่าไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำลายชื่อเสียงของทางรีสอร์ท หรือมีความแค้นใดๆ เพียงแต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์ กับเพื่อนๆ ที่จะเดินทางท่องเที่ยว และถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นฟีดแบกกับทางรีสอร์ท เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาส่วนที่ขาดตกบกพร่องค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า …..
เราและทางบริษัทแห่งหนึ่ง จาก จ.เชียงใหม่ รวม 14 คน กำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยวประจำปีของทางบริษัท ปีนี้เราได้วางแผนที่จะไปเที่ยวหลีเป๊ะกัน จากการรีวิวหลายๆ กระทู้ใน blueplanet เราจึงตัดสินใจเลือกไปพักที่ Mountain resort เป็นเวลา 2 คืน ในช่วงปลายเดือนเมษา ที่จะถึงนี้ วันนี้ ก่อนออกเดินทางประมาณหนึ ่ง อาทิตย์ เราในฐานะคนจัดโปรแกรมทัวร์ ได้โทรไปคอนเฟริ ์ม ห้องพักกับทางรีสอร์ท โดยได้แจ้งชื่อ วันเวลาเช็คอิน เช็คเอาท์ จำนวน และประเภทห้องพักกับทางรีสอร์ทไป แต่คำตอบที่เราได้รับกลับทำให้เรางง มากกก... ไม่มีชื่อเราในวันเวลาที่จอง
เราได้ยืนยันกับทางรีสอร์ทอีกครั้งหนึ ่ง ว่าได้จองไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน และได้โอนเงินมัดจำค่าห้องไปแล้วครึ ่ง นึง แต่ทางรีสอร์ทกลับไปค้นหาอีกครั้ง และยืนยันว่าไม่มีชื่อเราจริงๆ เราจึงท้าวความทั้งหมดให้พนักงานที่รับโทรศัพท์ฟัง ว่า....
เราได้โทรไปจองที่พักโดยตรงกับทางรีสอร์ท ครั้งแรกที่โทรไปเป็นผู้ชายรับโทรศัพท์ เราได้เลือกห้อง Grand deluxe seaview 1 ห้อง และ VIP อีก 4 ห้อง เตียงเสริม อีก 4 เตียง หลังจากคำนวนค่าใช้จ่ายเสร็จ ผู้ชายคนนั้น บอกให้เราโอนเงินมัดจำมาตามเลขที่บัญชีบนหน้าเว็ปไซด์ของทางรีสอร์ท และส่งเอกสารการโอนเงินมาทางแฟกซ์ หลังจากวางหูจากผู้ชายคนนั้น เราก็โอนเงินทันที และได้พยายามแฟกซ์ไปตามเบอร์โทรที่ทางรีสอร์ทให้มา แต่ปรากฏว่า แฟกซ์ไม่ได้ เราเลยโทรกลับไปที่รีอสร์ทอีกทีในวันรุ่งขึ ้น เราได้ยินเสียงผู้ชายคนเดิมรับสาย เค้าบอกว่าให้โอนมาที่เบอร์แฟกซ์อีกเบอร์ ซึ ่ง อยู่หน้าเวปไซด์เช่นกัน เราก็พยายามโอนอีกครั้ง ปรากฏว่าก็ยังโอนไม่ได้ จากนั้นเราก็โทรกลับไปอีกครั้ง....
คราวนี้เป็นผู้หญิง เป็นคนรับสาย เราก็บอกว่าต้องการส่งหลักฐานการโอนเงิน แต่เบอร์แฟกซ์ที่ให้มาทั้งสองเบอร์ใช้ไม่ได้เลย
ผู้หญิงคนนั้นเลยบอกให้ส่งอีเมลล์มาแล้วกันนะคะ เราก็ถามว่า
อีเมลล์ที่อยู่หน้าเวปไซด์ใช่มั้ยคะ เค้าก็บอกว่าใช่ค่ะ
จากนั้นเราก็ส่งอีเมลล์กลับไป ซึ ่ง ตอนเราใช้คอมส่ง
เราใช้วิธี copy & paste จากหน้าเวปไซด์ เพื่อป้องกันการ
สะกดผิด หลังจากส่งอีเมลล์เสร็จ เราก็โทรไปบอกทางรีสอร์ท เป็นผู้หญิงรับ เราบอกว่าส่งหลักฐานการโอนเงินไปทางอีเมลล์แล้วนะคะ เค้ายังตอบรับว่า ค่ะ โอเคค่ะ ....จบไป
ผ่านมาจนถึงวันนี้ที่เกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ ้น เราได้ถามกับทางรีสอร์ท ว่าเราส่งอีเมลล์ไปแล้ว โทรคอนเฟริมแล้ว ทำไมเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ ้น ผู้หญิงที่เป็นคนรับสาย ถามว่า ส่งไปที่อีเมลล์ไหนคะ ถ้าเป็นอีเมลล์
ที่ขึ ้น ต้นว่า reservation@mountainresortlipe.com อันนั้นไม่ได้ใช้แล้วนะคะ เปิดไม่ได้ .....
เราเลยถามกลับไปว่า แล้วไม่ทราบว่าทางรีสอร์ทจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะว่าไม่ได้เป็นความผิดของลูกค้า
เราจะทราบได้อย่างไรว่าอีเมลล์คุณใช้ได้ ใช้ไม่ได้ เพราะคุณบอกให้เราส่งไปตามนั้น เราก็ส่งไปตามที่คุณบอก แต่พอคุณไม่ได้มันไม่ใช่ความผิดของเรา คุณจะรับผิดชอบอย่างไร....เงียบบ ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าหน้าที่คนนั้น เราจึงถามอีกครั้งด้วยวาจาและกิริยาที่เฉยๆ ว่าทางรีสอร์ทจะรับผิดชอบอย่างไรได้บ้างคะ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เราคงทำได้แค่โอนเงินคืนให้ลูกค้า เพราะตอนนี้ห้องเต็มแล้ว
เราเลยบอกว่าการโอนเงินคืน ไม่ได้เป็นการแสดงความรับผิดชอบของรีสอร์ทแต่อย่างใด เพราะเราเสียทั้งเวลา เสียค่าใช้จ่าย เสียโอกาสในการจองที่พักที่อื่นล่วงหน้า เพราะช่วงที่เราไป ถือเป็นช่วงที่คนไปเยอะ และอาทิตย์หน้าจะเดินทางแล้ว ห้องพักที่อื่นๆก็เต็มไปหมดแล้ว เราไม่ได้จองแค่ห้องเดียว จองทีเป็น ห้า หก ห้อง นอกจากนี้ การมาจองที่พักเวลานี้ ยังทำให้เราได้ที่พักที่แพงกว่าราคาที่เราควรจะได้ เพราะเราอุส่าห์วางแผนมาเป็นอย่างดี จองห้องพักล่วงหน้าก่อนถึง 2 เดือน...
พนักงานคนนี้คงจะทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เงียบ เราเลยขอเบอร์ผู้จัดการรีสอร์ทมา เพื่อที่จะโทรไปแจ้งปัญหาที่เราได้รับ .....
เมื่อได้เบอร์มา เราก็โทรไปทันที แต่ผู้จัดการไม่รับสาย เราเลยรอสักครู่ และโทรไปอีกครั้งเราคิดว่า พนักงานคงจะโทรไปเล่าเรื่องราวให้ผู้จัดการทราบ เมื่อโทรไปอีกครั้ง ผู้จัดการรับสาย เราก็ได้เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ ้นใหม่
ให้ผู้จัดการฟัง ด้วยความใจเย็น เราไม่เคยต่อว่าด้วยคำไม่เหมาะสม หรือใช้อารมณ์ใดๆ พอเราเล่าเรื่องจบ ผู้จักการสวนทันทีว่า ที่เค้าไม่ได้จองห้องให้เราเพราะเค้าไม่ได้รับอีเมลล์ใดๆจากเรา เป็นไปไม่ได้ที่เราส่งอีเมลล์แล้วเค้าจะไม่ตอบกลับ เราก็พยายามจะอธิบายอีกครั้งว่าเราส่งไปแล้ว แต่อีเมลล์นั้นมันเป็นอีเมลล์ที่อยู่หน้าเวปไซด์ ซึ ่ง พนักงานของคุณบอกให้เราส่งตามนั้น แล้วเราก็โทรไปคอนเฟริมเค้ายังตอบเลยว่าโอเค แล้วเราจะทราบได้อย่างไร ในเมื่อพนักงานไม่ได้แจ้งอะไรว่า เดี๋ยวจะมีคนตอบอีเมลล์กลับนะคะ ถ้าไม่ได้รับการคอนเฟริมใดๆให้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง เค้าไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆเลย แต่ผู้จัดการก็ไม่ฟัง เอาแต่บอกว่า คุณไม่เข้าใจใช้มั้ย คุณไม่เข้าใจใช่มั้ย ฟังผมนะ ระบบมันเป็นอย่างนี้ทุกโรงแรมแหละคุณ ถ้าผมได้รับอีเมลล์ ผมส่งอีเมลล์กลับเพื่อคอนเฟริมห้องพัก นั่นถึงแปลว่าคุณได้รับการยืนยันการจอง เราก็บอกว่าเราเข้าใจ แต่ขอให้ฟังเราก่อน ว่าทำไมเค้าถึงไม่ได้รับอีเมลล์ มันเป็นเพราะว่าอีเมลล์หน้าเว็ปไซด์คุณมันผิด ซึ ่ง เราก็ได้ทำตามที่พนักกงานคุณบอกแล้ว แต่เค้าก็กลับมาโทษว่าเป็นความผิด เรา บอกว่างั้นก็ต้องเป็นความผิดของลูกค้า ที่ไม่ตามเรื่องเอง เราก็บอกว่าเราได้โทรกลับไปคอนเฟริมอีกครั้งหลังจากส่งอีเมลล์สลิปใบเสร็จไปแล้ว เงินคุณก็ได้รับแล้ว เค้าก็กลับมาว่าเราอีกว่าคุณฟังผมอีกทีนะ คุณไม่เข้าใจใช้มั้ยว่าผมไม่ได้รับอีเมลล์คุณ ผมถึงไม่สามารถให้ห้องคุณได้ เดี๋ยวคุณอีเมลล์สลิปมาใหม่นะ แล้วผมจะคืนเงินให้ เราก็เลยบอกว่ามันไม่แฟร์นะ เพราะเราเสียเวลา เสียโอกาสจองที่พักที่อื่นๆ เค้าควรจะรับผิดชอบมากกว่านี้ เค้าก็บอกว่าเค้าทำได้แค่นี้แหละ แค่โอนเงินคืนให้เราเท่ากับจำนวนที่เราโอนไป เราก็เริ่มจะอารมณ์เสีย เลยขึ ้น เสียงใส่ผู้จัดการคนนี้ว่า คุณจะไม่ยอมรับเลยใช่มั้ยว่าเป็นความผิดของลูกน้องคุณ เค้าก็ตะโกนตอบกลับมาว่า ถ้าคุณจะมาขึ ้น เสียงแบบนี้ผมคงทำได้แค่โอนเงินคืนให้คุณแค่นั้นแหละ แล้วเค้าก็กดตัดสายไปเลย...... . . .. เราและพนักงานคนอื่นๆที่ฟังอยู่ เพราะเราเปิดสปีกเกอร์โฟน ง ง ง ง มากก เพราะเราไม่คิดว่าจะได้รับการปฎิบัติเช่นนี้จากทางรีสอร์ทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง
ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก เพราะเราเดินทางจากเหนือลงใต้ เพื่อพักผ่อนประจำปี รีสอร์ทมีเป็นสิบๆที่ เรามีโอกาสที่จะเลือกเยอะแยะ แต่เราเลือกรีสอร์ทนี้เพราะเห็นหลายๆรีวิวดีๆหลายๆรีวิวในห้องนี้ เราคิดว่า เราคงไม่ติดใจอะไรมากถ้าผู้จัดการเพียงแต่ยอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ ้น และกล่าวคำขอโทษจากใจจริง เราคิดว่าถ้ามีโอกาสครั้งหน้า อาจจะได้ลองจองที่พักกับที่นี่ดูอีกครั้ง แต่จากเหตุการณ์นี้แล้ว ทำให้เราไม่คิดที่จะกลับไปที่รีสอร์ทแห่งนี้อีกเลย ถึงแม้เค้าจะให้ห้องเรา เราก็ไม่คิดว่าเราอยากจะพักที่นี่ เราไม่ได้คิดว่านี่เป็นการผูกใจเจ็บแต่อย่างใด ในฐานะที่เราเป็นคนที่ทำงานทางด้านบริการเหมือนกัน เราเข้าใจคำว่า Service mind ดี ว่ามันไม่ได้หมายถึงรายได้เท่านั้น มันหมายถึงเราได้ใจจากลูกค้าด้วย เราเห็นกระทู้หนึ ่ง ในพันทิพ เค้าประทับใจที่รีสอร์ท เก็บกระเป๋าเงินได้และส่งคืนเจ้าของ เราคิดว่าถึงแม้รีสอร์ทนี้จะไม่ใช่รีสอร์ทห้าดาว ไม่ได้มีบรรยากาศหรูหรา ไม่ได้สะดวกสบายที่สุด แต่ถามว่าเราเต็มใจที่จะกลับมาพักมั้ย เราเต็มใจแน่นอน เพราะ service mind เค้าเต็มที่ แต่เจอแบบนี้ถ้าเป็นรีสอร์ทหเาดาว เราก็คงไม่กล้ากลับไปพักแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ ้น แล้วเราก็ถือว่าแล้วกันไป จะไม่เก็บเอาไปติดใจใดๆอีกนับจากวันนี้ อย่างน้อยก็ขอให้ประสบการณ์ตรงนี้เป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการท่องเที่ยวทุกครั้งด้วยค่ะ
^____^
[CR] ประสบการณ์แย่ๆ ที่ Mountain resort หลีเป๊ะ !!! เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า …..
เราและทางบริษัทแห่งหนึ่ง จาก จ.เชียงใหม่ รวม 14 คน กำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยวประจำปีของทางบริษัท ปีนี้เราได้วางแผนที่จะไปเที่ยวหลีเป๊ะกัน จากการรีวิวหลายๆ กระทู้ใน blueplanet เราจึงตัดสินใจเลือกไปพักที่ Mountain resort เป็นเวลา 2 คืน ในช่วงปลายเดือนเมษา ที่จะถึงนี้ วันนี้ ก่อนออกเดินทางประมาณหนึ ่ง อาทิตย์ เราในฐานะคนจัดโปรแกรมทัวร์ ได้โทรไปคอนเฟริ ์ม ห้องพักกับทางรีสอร์ท โดยได้แจ้งชื่อ วันเวลาเช็คอิน เช็คเอาท์ จำนวน และประเภทห้องพักกับทางรีสอร์ทไป แต่คำตอบที่เราได้รับกลับทำให้เรางง มากกก... ไม่มีชื่อเราในวันเวลาที่จอง
เราได้ยืนยันกับทางรีสอร์ทอีกครั้งหนึ ่ง ว่าได้จองไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน และได้โอนเงินมัดจำค่าห้องไปแล้วครึ ่ง นึง แต่ทางรีสอร์ทกลับไปค้นหาอีกครั้ง และยืนยันว่าไม่มีชื่อเราจริงๆ เราจึงท้าวความทั้งหมดให้พนักงานที่รับโทรศัพท์ฟัง ว่า....
เราได้โทรไปจองที่พักโดยตรงกับทางรีสอร์ท ครั้งแรกที่โทรไปเป็นผู้ชายรับโทรศัพท์ เราได้เลือกห้อง Grand deluxe seaview 1 ห้อง และ VIP อีก 4 ห้อง เตียงเสริม อีก 4 เตียง หลังจากคำนวนค่าใช้จ่ายเสร็จ ผู้ชายคนนั้น บอกให้เราโอนเงินมัดจำมาตามเลขที่บัญชีบนหน้าเว็ปไซด์ของทางรีสอร์ท และส่งเอกสารการโอนเงินมาทางแฟกซ์ หลังจากวางหูจากผู้ชายคนนั้น เราก็โอนเงินทันที และได้พยายามแฟกซ์ไปตามเบอร์โทรที่ทางรีสอร์ทให้มา แต่ปรากฏว่า แฟกซ์ไม่ได้ เราเลยโทรกลับไปที่รีอสร์ทอีกทีในวันรุ่งขึ ้น เราได้ยินเสียงผู้ชายคนเดิมรับสาย เค้าบอกว่าให้โอนมาที่เบอร์แฟกซ์อีกเบอร์ ซึ ่ง อยู่หน้าเวปไซด์เช่นกัน เราก็พยายามโอนอีกครั้ง ปรากฏว่าก็ยังโอนไม่ได้ จากนั้นเราก็โทรกลับไปอีกครั้ง....
คราวนี้เป็นผู้หญิง เป็นคนรับสาย เราก็บอกว่าต้องการส่งหลักฐานการโอนเงิน แต่เบอร์แฟกซ์ที่ให้มาทั้งสองเบอร์ใช้ไม่ได้เลย
ผู้หญิงคนนั้นเลยบอกให้ส่งอีเมลล์มาแล้วกันนะคะ เราก็ถามว่า
อีเมลล์ที่อยู่หน้าเวปไซด์ใช่มั้ยคะ เค้าก็บอกว่าใช่ค่ะ
จากนั้นเราก็ส่งอีเมลล์กลับไป ซึ ่ง ตอนเราใช้คอมส่ง
เราใช้วิธี copy & paste จากหน้าเวปไซด์ เพื่อป้องกันการ
สะกดผิด หลังจากส่งอีเมลล์เสร็จ เราก็โทรไปบอกทางรีสอร์ท เป็นผู้หญิงรับ เราบอกว่าส่งหลักฐานการโอนเงินไปทางอีเมลล์แล้วนะคะ เค้ายังตอบรับว่า ค่ะ โอเคค่ะ ....จบไป
ผ่านมาจนถึงวันนี้ที่เกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ ้น เราได้ถามกับทางรีสอร์ท ว่าเราส่งอีเมลล์ไปแล้ว โทรคอนเฟริมแล้ว ทำไมเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ ้น ผู้หญิงที่เป็นคนรับสาย ถามว่า ส่งไปที่อีเมลล์ไหนคะ ถ้าเป็นอีเมลล์
ที่ขึ ้น ต้นว่า reservation@mountainresortlipe.com อันนั้นไม่ได้ใช้แล้วนะคะ เปิดไม่ได้ .....
เราเลยถามกลับไปว่า แล้วไม่ทราบว่าทางรีสอร์ทจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะว่าไม่ได้เป็นความผิดของลูกค้า
เราจะทราบได้อย่างไรว่าอีเมลล์คุณใช้ได้ ใช้ไม่ได้ เพราะคุณบอกให้เราส่งไปตามนั้น เราก็ส่งไปตามที่คุณบอก แต่พอคุณไม่ได้มันไม่ใช่ความผิดของเรา คุณจะรับผิดชอบอย่างไร....เงียบบ ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าหน้าที่คนนั้น เราจึงถามอีกครั้งด้วยวาจาและกิริยาที่เฉยๆ ว่าทางรีสอร์ทจะรับผิดชอบอย่างไรได้บ้างคะ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เราคงทำได้แค่โอนเงินคืนให้ลูกค้า เพราะตอนนี้ห้องเต็มแล้ว
เราเลยบอกว่าการโอนเงินคืน ไม่ได้เป็นการแสดงความรับผิดชอบของรีสอร์ทแต่อย่างใด เพราะเราเสียทั้งเวลา เสียค่าใช้จ่าย เสียโอกาสในการจองที่พักที่อื่นล่วงหน้า เพราะช่วงที่เราไป ถือเป็นช่วงที่คนไปเยอะ และอาทิตย์หน้าจะเดินทางแล้ว ห้องพักที่อื่นๆก็เต็มไปหมดแล้ว เราไม่ได้จองแค่ห้องเดียว จองทีเป็น ห้า หก ห้อง นอกจากนี้ การมาจองที่พักเวลานี้ ยังทำให้เราได้ที่พักที่แพงกว่าราคาที่เราควรจะได้ เพราะเราอุส่าห์วางแผนมาเป็นอย่างดี จองห้องพักล่วงหน้าก่อนถึง 2 เดือน...
พนักงานคนนี้คงจะทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เงียบ เราเลยขอเบอร์ผู้จัดการรีสอร์ทมา เพื่อที่จะโทรไปแจ้งปัญหาที่เราได้รับ .....
เมื่อได้เบอร์มา เราก็โทรไปทันที แต่ผู้จัดการไม่รับสาย เราเลยรอสักครู่ และโทรไปอีกครั้งเราคิดว่า พนักงานคงจะโทรไปเล่าเรื่องราวให้ผู้จัดการทราบ เมื่อโทรไปอีกครั้ง ผู้จัดการรับสาย เราก็ได้เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ ้นใหม่
ให้ผู้จัดการฟัง ด้วยความใจเย็น เราไม่เคยต่อว่าด้วยคำไม่เหมาะสม หรือใช้อารมณ์ใดๆ พอเราเล่าเรื่องจบ ผู้จักการสวนทันทีว่า ที่เค้าไม่ได้จองห้องให้เราเพราะเค้าไม่ได้รับอีเมลล์ใดๆจากเรา เป็นไปไม่ได้ที่เราส่งอีเมลล์แล้วเค้าจะไม่ตอบกลับ เราก็พยายามจะอธิบายอีกครั้งว่าเราส่งไปแล้ว แต่อีเมลล์นั้นมันเป็นอีเมลล์ที่อยู่หน้าเวปไซด์ ซึ ่ง พนักงานของคุณบอกให้เราส่งตามนั้น แล้วเราก็โทรไปคอนเฟริมเค้ายังตอบเลยว่าโอเค แล้วเราจะทราบได้อย่างไร ในเมื่อพนักงานไม่ได้แจ้งอะไรว่า เดี๋ยวจะมีคนตอบอีเมลล์กลับนะคะ ถ้าไม่ได้รับการคอนเฟริมใดๆให้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง เค้าไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆเลย แต่ผู้จัดการก็ไม่ฟัง เอาแต่บอกว่า คุณไม่เข้าใจใช้มั้ย คุณไม่เข้าใจใช่มั้ย ฟังผมนะ ระบบมันเป็นอย่างนี้ทุกโรงแรมแหละคุณ ถ้าผมได้รับอีเมลล์ ผมส่งอีเมลล์กลับเพื่อคอนเฟริมห้องพัก นั่นถึงแปลว่าคุณได้รับการยืนยันการจอง เราก็บอกว่าเราเข้าใจ แต่ขอให้ฟังเราก่อน ว่าทำไมเค้าถึงไม่ได้รับอีเมลล์ มันเป็นเพราะว่าอีเมลล์หน้าเว็ปไซด์คุณมันผิด ซึ ่ง เราก็ได้ทำตามที่พนักกงานคุณบอกแล้ว แต่เค้าก็กลับมาโทษว่าเป็นความผิด เรา บอกว่างั้นก็ต้องเป็นความผิดของลูกค้า ที่ไม่ตามเรื่องเอง เราก็บอกว่าเราได้โทรกลับไปคอนเฟริมอีกครั้งหลังจากส่งอีเมลล์สลิปใบเสร็จไปแล้ว เงินคุณก็ได้รับแล้ว เค้าก็กลับมาว่าเราอีกว่าคุณฟังผมอีกทีนะ คุณไม่เข้าใจใช้มั้ยว่าผมไม่ได้รับอีเมลล์คุณ ผมถึงไม่สามารถให้ห้องคุณได้ เดี๋ยวคุณอีเมลล์สลิปมาใหม่นะ แล้วผมจะคืนเงินให้ เราก็เลยบอกว่ามันไม่แฟร์นะ เพราะเราเสียเวลา เสียโอกาสจองที่พักที่อื่นๆ เค้าควรจะรับผิดชอบมากกว่านี้ เค้าก็บอกว่าเค้าทำได้แค่นี้แหละ แค่โอนเงินคืนให้เราเท่ากับจำนวนที่เราโอนไป เราก็เริ่มจะอารมณ์เสีย เลยขึ ้น เสียงใส่ผู้จัดการคนนี้ว่า คุณจะไม่ยอมรับเลยใช่มั้ยว่าเป็นความผิดของลูกน้องคุณ เค้าก็ตะโกนตอบกลับมาว่า ถ้าคุณจะมาขึ ้น เสียงแบบนี้ผมคงทำได้แค่โอนเงินคืนให้คุณแค่นั้นแหละ แล้วเค้าก็กดตัดสายไปเลย...... . . .. เราและพนักงานคนอื่นๆที่ฟังอยู่ เพราะเราเปิดสปีกเกอร์โฟน ง ง ง ง มากก เพราะเราไม่คิดว่าจะได้รับการปฎิบัติเช่นนี้จากทางรีสอร์ทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง
ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก เพราะเราเดินทางจากเหนือลงใต้ เพื่อพักผ่อนประจำปี รีสอร์ทมีเป็นสิบๆที่ เรามีโอกาสที่จะเลือกเยอะแยะ แต่เราเลือกรีสอร์ทนี้เพราะเห็นหลายๆรีวิวดีๆหลายๆรีวิวในห้องนี้ เราคิดว่า เราคงไม่ติดใจอะไรมากถ้าผู้จัดการเพียงแต่ยอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ ้น และกล่าวคำขอโทษจากใจจริง เราคิดว่าถ้ามีโอกาสครั้งหน้า อาจจะได้ลองจองที่พักกับที่นี่ดูอีกครั้ง แต่จากเหตุการณ์นี้แล้ว ทำให้เราไม่คิดที่จะกลับไปที่รีสอร์ทแห่งนี้อีกเลย ถึงแม้เค้าจะให้ห้องเรา เราก็ไม่คิดว่าเราอยากจะพักที่นี่ เราไม่ได้คิดว่านี่เป็นการผูกใจเจ็บแต่อย่างใด ในฐานะที่เราเป็นคนที่ทำงานทางด้านบริการเหมือนกัน เราเข้าใจคำว่า Service mind ดี ว่ามันไม่ได้หมายถึงรายได้เท่านั้น มันหมายถึงเราได้ใจจากลูกค้าด้วย เราเห็นกระทู้หนึ ่ง ในพันทิพ เค้าประทับใจที่รีสอร์ท เก็บกระเป๋าเงินได้และส่งคืนเจ้าของ เราคิดว่าถึงแม้รีสอร์ทนี้จะไม่ใช่รีสอร์ทห้าดาว ไม่ได้มีบรรยากาศหรูหรา ไม่ได้สะดวกสบายที่สุด แต่ถามว่าเราเต็มใจที่จะกลับมาพักมั้ย เราเต็มใจแน่นอน เพราะ service mind เค้าเต็มที่ แต่เจอแบบนี้ถ้าเป็นรีสอร์ทหเาดาว เราก็คงไม่กล้ากลับไปพักแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ ้น แล้วเราก็ถือว่าแล้วกันไป จะไม่เก็บเอาไปติดใจใดๆอีกนับจากวันนี้ อย่างน้อยก็ขอให้ประสบการณ์ตรงนี้เป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการท่องเที่ยวทุกครั้งด้วยค่ะ
^____^