วันนี้ วันพระ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5 เรื่อง มหานิทานสูตร [ว่าด้วยปฏิจจสมุปบาทนี้ลึกซึ้งสุดประมาณ ที่พระอานนท์ว่าเป็นของตื้น]

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒
ทีฆนิกาย มหาวรรค





๒. มหานิทานสูตร (๑๕)




             [๕๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:-
             สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ กุรุชนบท มีนิคมของชาวกุรุนามว่า กัมมาสทัมมะ
ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ


ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้วถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นท่านพระอานนท์นั่งเรียบร้อยแล้ว
ได้กราบทูลความข้อนี้กะพระผู้มีพระภาคว่า


ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมา ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ปฏิจจสมุปบาทนี้ลึกซึ้งสุดประมาณ
และปรากฏเป็นของลึก ก็แหละถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ยังปรากฏแก่ข้าพระองค์ เหมือนเป็นของตื้นนัก ฯ




            

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เธออย่าพูดอย่างนั้น อานนท์ เธออย่าพูดอย่างนั้นอานนท์




ปฏิจจสมุปบาทนี้ ลึกซึ้งสุดประมาณและปรากฏเป็นของลึก ดูกรอานนท์  เพราะไม่รู้จริง เพราะไม่แทงตลอด
ซึ่งธรรมอันนี้ หมู่สัตว์นี้ จึงเกิดเป็นผู้ยุ่งประดุจด้ายของช่างหูก เกิดเป็นปมประหนึ่งกระจุกด้าย เป็นผู้เกิดมาเหมือน
หญ้ามุงกระต่ายและหญ้าปล้อง จึงไม่พ้นอุบาย ทุคติ วินิบาต สงสาร






ดูกรอานนท์
เมื่อเธอถูกถามว่า ชรามรณะ มีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
ชรามรณะมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีชาติเป็นปัจจัย




เมื่อเธอถูกถามว่า
ชาติมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
ชาติมีอะไรเป็นปัจจัย  เธอพึงตอบว่า มีภพเป็นปัจจัย




เมื่อเธอถูกถามว่า
ภพมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
ภพมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีอุปาทานเป็นปัจจัย




เมื่อเธอถูกถามว่า
อุปาทานมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
อุปาทานมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีตัณหาเป็นปัจจัย




เมื่อเธอถูกถามว่า
ตัณหามีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
ตัณหามีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีเวทนาเป็นปัจจัย




เมื่อเธอถูกถามว่า
เวทนามีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
เวทนามีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีผัสสะเป็นปัจจัย




เมื่อเธอถูกถามว่า
ผัสสะมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
ผัสสะมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีนามรูปเป็นปัจจัย




เมื่อเธอถูกถามว่า
นามรูปมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
นามรูปมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีวิญญาณเป็นปัจจัย




เมื่อเธอถูกถามว่า
วิญญาณมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี

ถ้าเขาถามว่า
วิญญาณมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีนามรูปเป็นปัจจัย



ดูกรอานนท์
เพราะนามรูปเป็นปัจจัยดังนี้แล จึงเกิดวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา
เพราะเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัยจึงเกิดอุปาทาน
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยจึงเกิดภพ เพราะภพเป็นปัจจัยจึงเกิดชาติ
เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงเกิดชรามรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัสอุปายาส ฯ



             ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ย่อมมีด้วยประการฉะนี้ ฯ




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่