ผังรายการเดือน พ.ค. ช่อง 3 ดึง “ต๋อย” สู้เคเบิลผังบ่าย ช่อง 7 ขยับขึ้นโฆษณาน็อนไพรมไทม์



ช่อง 3 ชู “ครัวคุณต๋อย” ปิดจุดอ่อนช่วงเวลาบ่ายโมง สู้ไพรม์ไทม์เคเบิลทีวี โขกโฆษณาเป็น 2 แสนบาทต่อนาที จากเดิมนาทีละ 1.2 แสนบาท เผยไตรมาสแรกรายได้พุ่ง 10% หลังขยับราคาขายโฆษณาได้มากขึ้น
       
       นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เปิดเผยว่า ปัจจุบันผังรายการของทางช่อง 3 ถือว่ามีความแข็งแกร่งค่อนข้างมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาข่าวเช้าไปจนถึงเที่ยงและช่วงไพรม์ไทม์ตั้งแต่เวลา 17.45 น.ไปจนถึงเวลาของรายการข่าว 3 มิติ โดยยังคงมีช่วงเวลาบ่ายตั้งแต่บ่ายโมงไปจนถึง 4 โมงเย็นที่ยังไม่แข็งแรงพอ ดังนั้นทางช่อง 3 จึงมีแผนปรับผังรายการช่วงเวลาดังกล่าวให้มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้
       
       ล่าสุดในเดือน พ.ค.นี้ เป็นต้นไป ในช่วงเวลา 13.40-14.10 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ จะมีรายการใหม่เข้ามาคือ รายการ “ครัวคุณต๋อย” ของนายไตรภพ ลิมปพัทธ์ เจ้าของ บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอชั่น จำกัด เป็นรายการวาไรตี้เกี่ยวกับการทำอาหาร สามารถรับชมได้ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.นี้เป็นต้นไป หลังละครตำนานรักดอกเหมยจบลง เชื่อว่าจะเป็นรายการที่เข้าถึงกลุ่มแม่บ้าน หรือนักศึกษาที่ว่างรับชมในเวลาดังกล่าวค่อนข้างมากและน่าจะเป็นรายการที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับสล็อตเวลาช่วงบ่ายได้ จากเดิมช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงไพร์มไทม์ของสื่อเคเบิลทีวี
       
       อย่างไรก็ตาม เดิมสล็อตเวลาตั้งแต่ 13.40 น.ไปจนถึงเวลาประมาณ 14.40 น. เดิมจะเป็นช่วงเวลาของละครตำนานรักดอกเหมย หลังจากนั้นจะต่อด้วยละครรีรันของทางช่อง3 อีก 1 ชม. โดยช่วงเวลาโฆษณาของตำนานรักดอกเหมยถือเป็นเรตราคาโฆษณาแถมให้กับเอเยนซีจากราคาโฆษณาที่วางไว้ 1.2 แสนบาทต่อนาที ซึ่งหลังจากต้นปีที่ผ่านมาได้ยกเลิกเวลาโฆษณาแถมให้กับเอเยนซีแล้ว ทางช่อง 3 จึงได้นำช่วงเวลาดังกล่าวมาปรับใหม่พร้อมหารายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น จึงเป็นที่มาของรายการ “ครัวคุณต๋อย” โดยจะออกอากาศเพียงวันละครึ่ง ชม. และเวลาที่เหลือจะไปเพิ่มให้กับละครรีรันเป็น 1.30 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากเป็นรายการที่ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากผู้ชมและเอเยนซีอยู่แล้ว ทำให้ 2 ชั่วโมงของสล็อตช่วงบ่ายนี้สามารถทำรายได้ได้มากขึ้น โดยกำหนดระดับราคาโฆษณาของช่วงเวลารายการครัวคุณต๋อยไว้ที่ 2 แสนบาทต่อนาที
       
       สำหรับภาพรวมรายได้ของช่อง 3 ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตกว่า 10% ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา และสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ที่มีการเติบโตราว 3-4% เท่านั้น ส่วนการเติบโตในครั้งนี้มาจากการที่สามารถขายเวลาโฆษณาได้มากขึ้น หลังจากที่ยกเลิกระบบการแถมเวลาโฆษณาลงไป อีกทั้งยังมีรายการใหม่ๆเพิ่มขึ้น เช่น จูเนียร์มาสเตอร์เชฟ ที่ส่งผลให้ช่วงเวลาเย็นเสาร์อาทิตย์มีรายได้จากโฆษณาสูงขึ้น และทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้น
       
       ส่วนในไตรมาส 2 นี้ เนื่องจากปีก่อนมีฐานรายได้ค่อนข้างสูง จึงมองว่าภาพรวมการเติบโตน่าจะใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมโฆษณาหรือเติบโตสูงกว่าเล็กน้อย ส่วนสำคัญมาจากการผลักดันให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น เช่น จากการเพิ่มรายการใหม่อย่างครัวคุณต๋อย รวมถึงรายการเรียลลิตี้โชว์รายการใหม่ที่จะเห็นในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้อีก 2 รายการ คือ มิส คันทรี่เกิร์ล ไทยแลนด์ ทุกวันเสาร์ เวลา 16.00-17.00 น. และรายการเดอะวอยซ์คิดส์ ทุกวันเสาร์เวลา 17.45-19.15 น.


       
       นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางช่อง 3 ยังไม่มีแผนที่จะปรับราคาโฆษณาขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูสถานการณ์ต่างๆ ประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ และสถานการณ์โลก รวมถึงความต้องการของเอเยนซีโฆษณา จากปัจจุบันเวลาขายโฆษณาค่อนข้างเต็มหมดทุกช่วงรายการ
       



ช่อง 7 ขยับขึ้นโฆษณาน็อนไพรมไทม์ 7 รายการรวด มายด์แชร์ชี้เรตติ้งวิกหมอชิตยังครองใจผู้ชมทั่วประเทศ บวกกับการปรับคอนเทนต์ เพิ่มรายการใหม่ ดึงฐานผู้ชมเพิ่มอีก

รายงานข่าวจากวารสารมีเดียแฟลช (ฉบับที่ 157) ประจำเดือนเมษายน ของบริษัท ประกิต โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 ได้ส่งจดหมายถึงเอเยนซี่โฆษณา เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการประกาศปรับราคาค่าโฆษณารอบใหม่ ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยรายละเอียดการปรับ คือ ช่วงน็อนไพรมไทม์รวม 7 รายการ ได้แก่ บิ๊กซีเนม่า ปรับจาก 265,000 บาทต่อนาที เป็น 300,000 บาทต่อนาที และให้ส่วนลด 15% เช่นเดิม, ละครรีรันวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00 น. จาก 160,000 บาทต่อนาที เป็น 180,000 บาทต่อนาที และให้ส่วนลด 15% เช่นเดิม, ข่าวภาคค่ำช่วงที่ 1 จาก 160,000 บาทต่อนาที เป็น 200,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 15% เท่าเดิม

ตามด้วยละครเย็น เวลา 18.00 น. จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 370,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 15% เท่าเดิม แซทโซน คืนวันเสาร์ เวลา 00.40 น. จาก 90,000 บาทต่อนาที เป็น 120,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 30% เท่าเดิม รายการดิสนีย์คลับ จาก 130,000 บาทต่อนาที เป็น 150,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 20% จากเดิม 30% และการ์ตูนช่วงเช้าวันอาทิตย์ เวลา 07.30 น. จาก 110,000 บาทต่อนาที เป็น 150,000 บาทต่อนาที ปรับส่วนลดเหลือ 20% จากเดิม 30%

ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การปรับค่าโฆษณาดังกล่าว รายการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ รายการดิสนีย์คลับ และรายการการ์ตูน ช่วงเช้าวันอาทิตย์ เนื่องจากค่าโฆษณาที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ส่วนลดที่เคยได้ถึง 30% ก็ได้ลดเพียง 20% เท่ากับว่าจะต้องมีต้นทุนค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเป็น 31.9% และ 55.8% ตามลำดับ

นางสาวนภาพร เจตะวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การซื้อสื่อ บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ช่อง 7 ตัดสินใจปรับค่าโฆษณาใหม่สำหรับช่วงน็อนไพรมไทม์ ส่วนหนึ่งมาจากภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณายังเติบโตจากสื่อทีวีเป็นหลัก แบรนด์สินค้ายังมีความต้องการซื้อโฆษณาบนสื่อทีวีอยู่สูง สวนทางกับเวลาที่มีกำจัด ทำให้ช่อง 7 ปรับค่าโฆษณารอบใหม่

ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่าในแง่ของเรตติ้งแล้วช่อง 7 ยังสามารถครองใจกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศไว้ได้ บวกกับการปรับปรุงคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มรายการ ปรับเนื้อหา รูปแบบการนำเสนอ ทำให้ฐานผู้ชมเพิ่มขึ้น แม้ว่าในแง่ของต้นทุนค่าเฉลี่ยต่อหัว (CPRP : Cost Per Rating Point) จะสูงขึ้นก็ตาม

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่อง 7 ได้ปรับค่าโฆษณาบางรายการไปแล้วครั้งหนึ่ง เช่น ที่นี่ หมอชิต จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที จันทร์พันดาว จาก 340,000 บาทต่อนาที เป็น 350,000 บาทต่อนาที วันวานยังหวานอยู่ จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 360,000 บาทต่อนาที และรายการซีซั่นนอลโปรแกรม 2 รายการใหม่ คือ เดอะ

คอมเมเดียน ไทยแลนด์ ช่วงเวลา 15.45 น. จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที และซีซั่นนอลโปรแกรมในวันอังคาร เวลา 22.30 น.จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที





http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1366208660&grpid=&catid=11&subcatid=1103
http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000046446
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่