นับเป็นผลดี หรือไม่อย่างไรกับการปรับผังรายการของช่อง7
"หน่อง" พลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ออกมาเปิดเผยว่า จะปรับผังรายการของช่อง 7 โดยตอนนี้มีละครปีละประมาณ 50 กว่าเรื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมาพอใจกับเรทติ้ง แต่ก็ให้ความสำคัญกับรายการอื่นๆด้วย พร้อมย้ำว่ายังมีการถ่ายทอดสดกีฬา และกำลังพูดคุยว่าจะเพิ่มรายการข่าวภาคเช้า รวมทั้งรายการเด็กและเยาวชนหรือไม่ โดยขณะนี้กำลังมองช่วงวันเสาร์-อาทิตย์
ช่อง 7 ขยับขึ้นโฆษณาน็อนไพรมไทม์ 7 รายการรวด มายด์แชร์ชี้เรตติ้งวิกหมอชิตยังครองใจผู้ชมทั่วประเทศ บวกกับการปรับคอนเทนต์ เพิ่มรายการใหม่ ดึงฐานผู้ชมเพิ่มอีก
รายงานข่าวจากวารสารมีเดียแฟลช (ฉบับที่ 157) ประจำเดือนเมษายน ของบริษัท ประกิต โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 ได้ส่งจดหมายถึงเอเยนซี่โฆษณา เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการประกาศปรับราคาค่าโฆษณารอบใหม่ ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยรายละเอียดการปรับ คือ ช่วงน็อนไพรมไทม์รวม 7 รายการ ได้แก่ บิ๊กซีเนม่า ปรับจาก 265,000 บาทต่อนาที เป็น 300,000 บาทต่อนาที และให้ส่วนลด 15% เช่นเดิม, ละครรีรันวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00 น. จาก 160,000 บาทต่อนาที เป็น 180,000 บาทต่อนาที และให้ส่วนลด 15% เช่นเดิม, ข่าวภาคค่ำช่วงที่ 1 จาก 160,000 บาทต่อนาที เป็น 200,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 15% เท่าเดิม
ตามด้วยละครเย็น เวลา 18.00 น. จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 370,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 15% เท่าเดิม แซทโซน คืนวันเสาร์ เวลา 00.40 น. จาก 90,000 บาทต่อนาที เป็น 120,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 30% เท่าเดิม รายการดิสนีย์คลับ จาก 130,000 บาทต่อนาที เป็น 150,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 20% จากเดิม 30% และการ์ตูนช่วงเช้าวันอาทิตย์ เวลา 07.30 น. จาก 110,000 บาทต่อนาที เป็น 150,000 บาทต่อนาที ปรับส่วนลดเหลือ 20% จากเดิม 30%
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การปรับค่าโฆษณาดังกล่าว รายการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ รายการดิสนีย์คลับ และรายการการ์ตูน ช่วงเช้าวันอาทิตย์ เนื่องจากค่าโฆษณาที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ส่วนลดที่เคยได้ถึง 30% ก็ได้ลดเพียง 20% เท่ากับว่าจะต้องมีต้นทุนค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเป็น 31.9% และ 55.8% ตามลำดับ
นางสาวนภาพร เจตะวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การซื้อสื่อ บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ช่อง 7 ตัดสินใจปรับค่าโฆษณาใหม่สำหรับช่วงน็อนไพรมไทม์ ส่วนหนึ่งมาจากภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณายังเติบโตจากสื่อทีวีเป็นหลัก แบรนด์สินค้ายังมีความต้องการซื้อโฆษณาบนสื่อทีวีอยู่สูง สวนทางกับเวลาที่มีกำจัด ทำให้ช่อง 7 ปรับค่าโฆษณารอบใหม่
ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่าในแง่ของเรตติ้งแล้วช่อง 7 ยังสามารถครองใจกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศไว้ได้ บวกกับการปรับปรุงคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มรายการ ปรับเนื้อหา รูปแบบการนำเสนอ ทำให้ฐานผู้ชมเพิ่มขึ้น แม้ว่าในแง่ของต้นทุนค่าเฉลี่ยต่อหัว (CPRP : Cost Per Rating Point) จะสูงขึ้นก็ตาม
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่อง 7 ได้ปรับค่าโฆษณาบางรายการไปแล้วครั้งหนึ่ง เช่น ที่นี่ หมอชิต จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที จันทร์พันดาว จาก 340,000 บาทต่อนาที เป็น 350,000 บาทต่อนาที วันวานยังหวานอยู่ จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 360,000 บาทต่อนาที และรายการซีซั่นนอลโปรแกรม 2 รายการใหม่ คือ เดอะ
คอมเมเดียน ไทยแลนด์ ช่วงเวลา 15.45 น. จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที และซีซั่นนอลโปรแกรมในวันอังคาร เวลา 22.30 น.จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที
ส่วนการประมูลทีวี.ดิจิตอลต้องรอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศใช้อย่างชัดเจนก่อน ซึ่งตอนนี้เท่าที่ทราบ กสทช. ให้ขอใบอนุญาตได้ชั่วคราว ซึ่งช่อง 7 คงจะดำเนินการต่อไป
ที่มา:
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1366208660&grpid=&catid=11&subcatid=1103
****คุณคิดอย่างไรกับ ช่อง7ที่กำลังจะปรับผังรายการเร็วๆๆนี้****
"หน่อง" พลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ออกมาเปิดเผยว่า จะปรับผังรายการของช่อง 7 โดยตอนนี้มีละครปีละประมาณ 50 กว่าเรื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมาพอใจกับเรทติ้ง แต่ก็ให้ความสำคัญกับรายการอื่นๆด้วย พร้อมย้ำว่ายังมีการถ่ายทอดสดกีฬา และกำลังพูดคุยว่าจะเพิ่มรายการข่าวภาคเช้า รวมทั้งรายการเด็กและเยาวชนหรือไม่ โดยขณะนี้กำลังมองช่วงวันเสาร์-อาทิตย์
ช่อง 7 ขยับขึ้นโฆษณาน็อนไพรมไทม์ 7 รายการรวด มายด์แชร์ชี้เรตติ้งวิกหมอชิตยังครองใจผู้ชมทั่วประเทศ บวกกับการปรับคอนเทนต์ เพิ่มรายการใหม่ ดึงฐานผู้ชมเพิ่มอีก
รายงานข่าวจากวารสารมีเดียแฟลช (ฉบับที่ 157) ประจำเดือนเมษายน ของบริษัท ประกิต โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 ได้ส่งจดหมายถึงเอเยนซี่โฆษณา เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการประกาศปรับราคาค่าโฆษณารอบใหม่ ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยรายละเอียดการปรับ คือ ช่วงน็อนไพรมไทม์รวม 7 รายการ ได้แก่ บิ๊กซีเนม่า ปรับจาก 265,000 บาทต่อนาที เป็น 300,000 บาทต่อนาที และให้ส่วนลด 15% เช่นเดิม, ละครรีรันวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00 น. จาก 160,000 บาทต่อนาที เป็น 180,000 บาทต่อนาที และให้ส่วนลด 15% เช่นเดิม, ข่าวภาคค่ำช่วงที่ 1 จาก 160,000 บาทต่อนาที เป็น 200,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 15% เท่าเดิม
ตามด้วยละครเย็น เวลา 18.00 น. จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 370,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 15% เท่าเดิม แซทโซน คืนวันเสาร์ เวลา 00.40 น. จาก 90,000 บาทต่อนาที เป็น 120,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 30% เท่าเดิม รายการดิสนีย์คลับ จาก 130,000 บาทต่อนาที เป็น 150,000 บาทต่อนาที ส่วนลด 20% จากเดิม 30% และการ์ตูนช่วงเช้าวันอาทิตย์ เวลา 07.30 น. จาก 110,000 บาทต่อนาที เป็น 150,000 บาทต่อนาที ปรับส่วนลดเหลือ 20% จากเดิม 30%
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การปรับค่าโฆษณาดังกล่าว รายการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ รายการดิสนีย์คลับ และรายการการ์ตูน ช่วงเช้าวันอาทิตย์ เนื่องจากค่าโฆษณาที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ส่วนลดที่เคยได้ถึง 30% ก็ได้ลดเพียง 20% เท่ากับว่าจะต้องมีต้นทุนค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเป็น 31.9% และ 55.8% ตามลำดับ
นางสาวนภาพร เจตะวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การซื้อสื่อ บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ช่อง 7 ตัดสินใจปรับค่าโฆษณาใหม่สำหรับช่วงน็อนไพรมไทม์ ส่วนหนึ่งมาจากภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณายังเติบโตจากสื่อทีวีเป็นหลัก แบรนด์สินค้ายังมีความต้องการซื้อโฆษณาบนสื่อทีวีอยู่สูง สวนทางกับเวลาที่มีกำจัด ทำให้ช่อง 7 ปรับค่าโฆษณารอบใหม่
ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่าในแง่ของเรตติ้งแล้วช่อง 7 ยังสามารถครองใจกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศไว้ได้ บวกกับการปรับปรุงคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มรายการ ปรับเนื้อหา รูปแบบการนำเสนอ ทำให้ฐานผู้ชมเพิ่มขึ้น แม้ว่าในแง่ของต้นทุนค่าเฉลี่ยต่อหัว (CPRP : Cost Per Rating Point) จะสูงขึ้นก็ตาม
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่อง 7 ได้ปรับค่าโฆษณาบางรายการไปแล้วครั้งหนึ่ง เช่น ที่นี่ หมอชิต จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที จันทร์พันดาว จาก 340,000 บาทต่อนาที เป็น 350,000 บาทต่อนาที วันวานยังหวานอยู่ จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 360,000 บาทต่อนาที และรายการซีซั่นนอลโปรแกรม 2 รายการใหม่ คือ เดอะ
คอมเมเดียน ไทยแลนด์ ช่วงเวลา 15.45 น. จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที และซีซั่นนอลโปรแกรมในวันอังคาร เวลา 22.30 น.จาก 320,000 บาทต่อนาที เป็น 330,000 บาทต่อนาที
ส่วนการประมูลทีวี.ดิจิตอลต้องรอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศใช้อย่างชัดเจนก่อน ซึ่งตอนนี้เท่าที่ทราบ กสทช. ให้ขอใบอนุญาตได้ชั่วคราว ซึ่งช่อง 7 คงจะดำเนินการต่อไป
ที่มา: http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1366208660&grpid=&catid=11&subcatid=1103