คนอื่นผมไม่รู้ แต่สำหรับผม ถึงแม้รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์จะตั้งทีมทนายขึ้นต่อสู้คดี ซึ่งเป็นการแสดงการยอมรับการเข้าสู่กระบวนการ แต่จะให้ผมยอมรับคำตัดสินของศาลโลกนั้น

ผมต้องดูว่า ผู้พิพากษาที่ถูกคัดเลือกโดยคณะมนตรีจากสหประชาชาตินั้น จะเหมือนกับการจัดให้ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่เสียก่อน

ผมต้องดูว่า ผู้พิพากษาทั้ง 15 คนนั้น มีบ้างไหมที่มีใจเอนเอียงหรือแอบสนับสนุนเขมรกันหรือไม่

ผมต้องดูว่า ผู้พิพากษาทั้ง 15 คนนั้น มีบ้างไหมที่เป็นปฏิปักษ์หรือมีใจเป็นอคติกับไทยหรือไม่

ผมต้องดูว่า คำวินิจฉัยนั้น ใช้เฉพาะตัวบทกฎหมายหรือมั่วเอาพจนานุกรมมาประกอบการวินิจฉัยหรือไม่

ผมต้องดูว่า เป็นการวินิจฉัยตีความตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายของเขมร กฎหมายจารีดประเพณีระหว่างประเทศหรือจารีตประเพณีของเขมร แล้วเป็นหลักกฎหมายที่เป็นที่ยอมรับของชาติที่มีอารยะธรรมเป็นหลักหรือตามแรงกดดันของมือที่มองไม่เห็น

ผมต้องดูว่า เป็นความกระตือรือร้นในการวินิจฉัยตามหลักฐานแห่งคดีหรือเป็นการรุกรี้รุกรน สุกเอาเผากิน เพื่อให้คดีจบลงตามธงที่ตั้งไว้

ข้อสำคัญ ผมต้องดูว่า มาตรฐานการวินิจฉัยจะเป็นมาตรฐานเดียวกับที่เคยวินิจฉัยเดียวกับคดีต่างๆเกือบเจ็ดสิบคดีที่ผ่านมาหรือไม่

อาจจะเป็นเพราะหลายปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกผิดหวังจนถึงกับเสื่อมศรัทธากับกระบวนการยุติธรรมก็เป็นได้ ทำให้ผมเกิดอาการหวาดระแวงกับผู้ที่ทำหน้าที่วินิจฉัยอย่างยิ่ง ดังนั้นจะให้ผมเคารพคำตัดสิน จึงไม่ใช่เพราะตัดสินให้เราแพ้หรือชนะ แต่ต้องเป็นการตัดสินที่อยู่บนพื้นฐานของประจักษ์พยาน หลักฐาน และหลักนิติธรรมเท่านั้น นั่นแหละครับ ถึงรัฐบาลไม่สั่ง ผมก็เคารพคำตัดสินของศาลโลกอย่างแน่นอนครับ





ปล. ผมอาจไม่ได้เข้ามาตอบอีกแล้วนะครับ เพราะนี่ก็ต้องแอบผู้ปกครองมาโพส ถ้าถูกจับได้ คงจะต้องพบกับความลำบากในวันขึ้นปีใหม่แน่ๆ พบกันพรุ่งนี้นะครับ กรึ๊บ กรึ๊บ