“เมื่อมนุษย์จุดดวงไฟขึ้นเพื่อขับไล่ความมืดมิด แล้วพวกมันหลบหนีไปอยู่ที่ใดกันเล่า”
คำกล่าวของ ไซโค-แมน สีดำ
หญิงสาววัยรุ่นแต่งกายด้วยกางเกงขาสั้นสีดำ กับเสื้อกล้ามตัวจิ๋วสีสดแนบเนื้อ กำลังออกลีลาโยกย้ายอยู่ในแสงสีวับแวมกลางสถานบันเทิง ผู้ชายหลายวัยพากันลอบแอบมองดูเรือนร่างของเธออย่างหื่นกระหาย ความคิด จินตนาการที่อยู่ต่ำ ดำดิ่งลงสู่ความดิบเถื่อนดั้งเดิม แต่ก็ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายใน
เบื้องบนข้างนอกนั้นคือความมืดดำของท้องฟ้ายามราตรี
เธอไม่ใช่เด็กวัยรุ่นใจแตก เธอออกมาเที่ยวกับเพื่อนๆ เพียงเพราะอยากค้นหา บางสิ่งที่จะมาเติมเต็มช่องว่างที่ก่อกวนอยู่ภายใน ครอบครัวของเธอไม่ได้มีปัญหาอะไร ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ค่อยมีเวลาให้ก็ตามที เธอเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ทั้งคู่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงาน ทำล่วงเวลา หาเงินมาให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้ง บ้าน รถ การศึกษา ข้าวของเครื่องใช้ การเดินทางพักผ่อน และสิ่งหย่อนใจทั้งหลาย ทำทุกอย่างเพื่อความสุขของครอบครัว
ความสุขตามมาตรฐานจากการโฆษณาของสังคมบริโภคนิยมแห่งยุคปัจจุบัน
เธอบิดเอว โยกย้ายไปกับจังหวะดนตรี มันก็สนุกไม่เลว นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกที่ถูกจับจ้อง การเป็นใครสักคนที่มีคนสนใจ เธอหมุนตัว ก่อนเซไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า
“ขอโทษค่ะ” เสียงเพลงดังกลบเสียงเธอไปจนหมด แต่หนุ่มที่ถูกชนพยักหน้า ก่อนขยับปากช้าๆ 'ไม่เป็นไร' เธอไม่ได้ยิน แต่เข้าใจได้ ก็คงเหมือนกับเขา
'หน้าตาน่ารักจัง' ใจเธอเต้นตึกตัก เขาหันกลับไปที่โต๊ะของตน เมื่อหันกลับมาในมือก็มีแก้วเครื่องดื่ม เขายื่นส่งให้ แต่เธอหันกลับไปหยิบแก้วของตนแทน
“จงระวัง” มันเป็นเสียงกระซิบที่ไม่ได้ยิน
เขายกแก้วในมือชูขึ้นนิดหนึ่ง พร้อมกับยิ้ม และดื่มจนหมด เธอยกของเธอขึ้นบ้าง แล้วดื่มหมดแก้วเช่นกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอดื่ม และเธอบอกให้เพื่อนผสมเพียงจางๆ เท่านั้น
เธอไม่ใช่คนไร้เดียงสา เธอระมัดระวังเสมอ และรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ อันตรายนั้นมีซุกซ่อนอยู่ในทุกที่ ในท่ามกลางแสงสีที่กระพริบวับแวม เธอรู้ว่าในมุมใดมุมหนึ่งอาจกำลังมีการซื้อขายยาเสพติด การเสพยาในรูปแบบต่างๆ ในมุมหนึ่งอาจมีการตกลงซื้อขายบริการ ในมุมหนึ่งอาจมีใครกำลังเฝ้ารอโอกาสเพื่อลงมือทำเรื่องชั่วช้า
แต่ในหมู่คนที่ออกมาท่องราตรีนั้น ก็ยังมีคนแบบเธอรวมอยู่ด้วย ผู้คนที่โหยหาอะไรบางสิ่ง ผู้คนที่ยังไม่พบเจอคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือบางครั้งแม้แต่คนที่มีครอบครัวแล้วก็ตาม พวกเขาต่างเฝ้าค้นหาสิ่งที่ไม่รู้จัก เพื่อมาเติมเต็มลงในช่องว่าง ซึ่งบางทีพวกเขาอาจเคยพบเจอมาแล้ว แต่กลับผ่านเลยมันไปอย่างคาดไม่ถึง
“จงระวัง” มันเป็นเสียงกระซิบที่ไม่ได้ยิน
“สวัสดีครับ” หนุ่มน่ารักคนเดิมทักทายเธอที่หน้าห้องน้ำ ที่ที่เสียงเพลงเบาลงจนพอพูดคุยกันได้ ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนบทสนทนาทั่วไป ทำความรู้จักกันพอประมาณ
ก่อนแยกจากกัน เขาก็พูดสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ออกมา “เอ่อ ผมจะขอติดต่อกับคุณอีกได้ไหม” เธอทำเป็นลังเลก่อนที่จะพยักหน้า ปัจจุบันนี้มีช่องทางต่างๆ ให้ติดต่อกันได้มากมายเหลือเกิน มิตรภาพไร้พรหมแดน ที่อาจก้าวเกินเข้าสู่เขตอันตรายได้หากไร้การตระหนักรู้
เธอให้ข้อมูลส่วนที่กันไว้เพื่อใช้กับการติดต่อแบบผิวเผินกับเขา 'ต้องค่อยเป็นค่อยไป'
“อีกอย่างหนึ่ง” เขาขยับเข้ามา พูดเสียงเบาลง “ผมเห็นพวกไม่น่าไว้ใจแอบมองคุณอยู่ ระวังตัวด้วยนะครับ”
เมื่อกลับไปที่โต๊ะ เธอก็เห็นพวกที่เขาว่า กลุ่มวัยรุ่นท่าทางลับลับล่อล่อที่แอบมองมาทางเธอบ่อยครั้ง ความรู้สึกตื่นเต้นในยามที่ถูกจับจ้อง ไม่เหมือนเดิมแล้ว ความต้องการดิบเถื่อนของคนเหล่านี้ ไม่ได้หลบลี้อยู่เพียงแค่ภายใน แต่แสดงตัวตนออกมาให้เห็น
ถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย ภายนอกมืดมิด มีเพียงแสงจากป้ายชื่อสถานบันเทิงเรืองรอง เงาของเธอทอดยาวมืดดำอยู่บนพื้น แสงขับไล่ความมืดออกไป แต่แสงก็ก่อให้เกิดเงาด้วยเช่นกัน เพื่อนๆ แต่ละคนต่างเมากันพอสมควร และเธอแยกตัวเพื่อกลับบ้านเองเหมือนทุกครั้ง
“จงระวัง” มันเป็นเสียงกระซิบที่ไม่ได้ยิน
เธอเห็นวัยรุ่นพวกนั้นบางคน นั่นหมายความว่ายังมีอีกหลายคนที่เธอไม่เห็น เธอต้องรีบออกไปเรียกรถให้เร็วที่สุด แสงไฟสาดส่องมา รถเก๋งคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาใกล้ กระจกถูกลดลง เสียงคุ้นหูดังออกมาจากความมืดภายในตัวรถ
“ให้ผมไปส่งไหมครับ” เป็นหนุ่มน่ารักคนเมื่อครู่ มันดูเป็นทางเลือกที่เชิญชวน
“ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ” มันเป็นทางเลือกที่ดี และเหมาะเจาะจนเกินไป เธอเห็นแววแห่งความผิดหวัง กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาก่อนออกรถจากไป บางทีเขาอาจจะไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย
เธอเรียกรถไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ในที่สุด หนุ่มน้อยคนเดิมวนรถกลับมาหากลุ่มวัยรุ่นที่น่าสงสัยเมื่อครู่ ทั้งหมดมีท่าทางเสียดาย ก่อนพูดคุยกันอย่างเฮฮา และรอคอยเหยื่อรายต่อไป
ม่านถูกรูดปิด คนขับรถแท๊กซี่วัยกลางคนไล่พนักงานโรงแรมให้รีบออกไป ใบหน้าของเขาในตอนนี้ฉาบเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“ความมืดนั้นมีอยู่ทุกที่ มันเฝ้าคอยโอกาส เมื่อไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ เมื่อไม่คิดว่าจะถูกจับได้ มันก็จะมีพลังขึ้นมา” มันเป็นเสียงกระซิบที่ไม่ได้ยิน จากร่างลึกลับในชุดสีดำซึ่งยืนพิงอยู่ข้างประตูห้องพักหมายเลขหกโดยไม่มีผู้ใดมองเห็น
พนักงานโรงแรมแอบมองสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด คนขับรถลงมาเปิดประตูด้านหลัง ก่อนลากร่างหญิงสาวที่สลบไสลไม่ได้สติลงมา ทุกสิ่งบอกชัดว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น แต่พนักงานกลับยังลังเลว่าควรทำอย่างไรต่อไป ด้านหนึ่งคือการทำสิ่งที่ถูกต้อง อีกด้านหนึ่งคือการทำสิ่งที่ยั่วยวนยิ่งกว่าด้วยการขอเข้าไปมีส่วนร่วม โดยเฉพาะภายใต้ความมืดเช่นนี้ ความมืดที่จะปิดซ่อนทุกสิ่ง
“จงอย่าพ่ายแพ้แก่ความมืด”
ไซโค-แมน สีดำ เดินไปกระซิบที่ข้างหูพนักงานคนนั้น ก่อนหายตัวไป ดูเหมือนเขาไม่สนใจแล้วว่าผลสุดท้ายนั้นจะเป็นเช่นไร สีชุดของเขากลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับยามราตรี ดุจดั่งเงา ดุจดั่งความมืดดำที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในจิตใจของทุกคน
ไซโค-แมน สีดำ (Short Short Story)
คำกล่าวของ ไซโค-แมน สีดำ
หญิงสาววัยรุ่นแต่งกายด้วยกางเกงขาสั้นสีดำ กับเสื้อกล้ามตัวจิ๋วสีสดแนบเนื้อ กำลังออกลีลาโยกย้ายอยู่ในแสงสีวับแวมกลางสถานบันเทิง ผู้ชายหลายวัยพากันลอบแอบมองดูเรือนร่างของเธออย่างหื่นกระหาย ความคิด จินตนาการที่อยู่ต่ำ ดำดิ่งลงสู่ความดิบเถื่อนดั้งเดิม แต่ก็ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายใน
เบื้องบนข้างนอกนั้นคือความมืดดำของท้องฟ้ายามราตรี
เธอไม่ใช่เด็กวัยรุ่นใจแตก เธอออกมาเที่ยวกับเพื่อนๆ เพียงเพราะอยากค้นหา บางสิ่งที่จะมาเติมเต็มช่องว่างที่ก่อกวนอยู่ภายใน ครอบครัวของเธอไม่ได้มีปัญหาอะไร ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ค่อยมีเวลาให้ก็ตามที เธอเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ทั้งคู่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงาน ทำล่วงเวลา หาเงินมาให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้ง บ้าน รถ การศึกษา ข้าวของเครื่องใช้ การเดินทางพักผ่อน และสิ่งหย่อนใจทั้งหลาย ทำทุกอย่างเพื่อความสุขของครอบครัว
ความสุขตามมาตรฐานจากการโฆษณาของสังคมบริโภคนิยมแห่งยุคปัจจุบัน
เธอบิดเอว โยกย้ายไปกับจังหวะดนตรี มันก็สนุกไม่เลว นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกที่ถูกจับจ้อง การเป็นใครสักคนที่มีคนสนใจ เธอหมุนตัว ก่อนเซไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า
“ขอโทษค่ะ” เสียงเพลงดังกลบเสียงเธอไปจนหมด แต่หนุ่มที่ถูกชนพยักหน้า ก่อนขยับปากช้าๆ 'ไม่เป็นไร' เธอไม่ได้ยิน แต่เข้าใจได้ ก็คงเหมือนกับเขา
'หน้าตาน่ารักจัง' ใจเธอเต้นตึกตัก เขาหันกลับไปที่โต๊ะของตน เมื่อหันกลับมาในมือก็มีแก้วเครื่องดื่ม เขายื่นส่งให้ แต่เธอหันกลับไปหยิบแก้วของตนแทน
“จงระวัง” มันเป็นเสียงกระซิบที่ไม่ได้ยิน
เขายกแก้วในมือชูขึ้นนิดหนึ่ง พร้อมกับยิ้ม และดื่มจนหมด เธอยกของเธอขึ้นบ้าง แล้วดื่มหมดแก้วเช่นกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอดื่ม และเธอบอกให้เพื่อนผสมเพียงจางๆ เท่านั้น
เธอไม่ใช่คนไร้เดียงสา เธอระมัดระวังเสมอ และรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ อันตรายนั้นมีซุกซ่อนอยู่ในทุกที่ ในท่ามกลางแสงสีที่กระพริบวับแวม เธอรู้ว่าในมุมใดมุมหนึ่งอาจกำลังมีการซื้อขายยาเสพติด การเสพยาในรูปแบบต่างๆ ในมุมหนึ่งอาจมีการตกลงซื้อขายบริการ ในมุมหนึ่งอาจมีใครกำลังเฝ้ารอโอกาสเพื่อลงมือทำเรื่องชั่วช้า
แต่ในหมู่คนที่ออกมาท่องราตรีนั้น ก็ยังมีคนแบบเธอรวมอยู่ด้วย ผู้คนที่โหยหาอะไรบางสิ่ง ผู้คนที่ยังไม่พบเจอคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือบางครั้งแม้แต่คนที่มีครอบครัวแล้วก็ตาม พวกเขาต่างเฝ้าค้นหาสิ่งที่ไม่รู้จัก เพื่อมาเติมเต็มลงในช่องว่าง ซึ่งบางทีพวกเขาอาจเคยพบเจอมาแล้ว แต่กลับผ่านเลยมันไปอย่างคาดไม่ถึง
“จงระวัง” มันเป็นเสียงกระซิบที่ไม่ได้ยิน
“สวัสดีครับ” หนุ่มน่ารักคนเดิมทักทายเธอที่หน้าห้องน้ำ ที่ที่เสียงเพลงเบาลงจนพอพูดคุยกันได้ ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนบทสนทนาทั่วไป ทำความรู้จักกันพอประมาณ
ก่อนแยกจากกัน เขาก็พูดสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ออกมา “เอ่อ ผมจะขอติดต่อกับคุณอีกได้ไหม” เธอทำเป็นลังเลก่อนที่จะพยักหน้า ปัจจุบันนี้มีช่องทางต่างๆ ให้ติดต่อกันได้มากมายเหลือเกิน มิตรภาพไร้พรหมแดน ที่อาจก้าวเกินเข้าสู่เขตอันตรายได้หากไร้การตระหนักรู้
เธอให้ข้อมูลส่วนที่กันไว้เพื่อใช้กับการติดต่อแบบผิวเผินกับเขา 'ต้องค่อยเป็นค่อยไป'
“อีกอย่างหนึ่ง” เขาขยับเข้ามา พูดเสียงเบาลง “ผมเห็นพวกไม่น่าไว้ใจแอบมองคุณอยู่ ระวังตัวด้วยนะครับ”
เมื่อกลับไปที่โต๊ะ เธอก็เห็นพวกที่เขาว่า กลุ่มวัยรุ่นท่าทางลับลับล่อล่อที่แอบมองมาทางเธอบ่อยครั้ง ความรู้สึกตื่นเต้นในยามที่ถูกจับจ้อง ไม่เหมือนเดิมแล้ว ความต้องการดิบเถื่อนของคนเหล่านี้ ไม่ได้หลบลี้อยู่เพียงแค่ภายใน แต่แสดงตัวตนออกมาให้เห็น
ถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย ภายนอกมืดมิด มีเพียงแสงจากป้ายชื่อสถานบันเทิงเรืองรอง เงาของเธอทอดยาวมืดดำอยู่บนพื้น แสงขับไล่ความมืดออกไป แต่แสงก็ก่อให้เกิดเงาด้วยเช่นกัน เพื่อนๆ แต่ละคนต่างเมากันพอสมควร และเธอแยกตัวเพื่อกลับบ้านเองเหมือนทุกครั้ง
“จงระวัง” มันเป็นเสียงกระซิบที่ไม่ได้ยิน
เธอเห็นวัยรุ่นพวกนั้นบางคน นั่นหมายความว่ายังมีอีกหลายคนที่เธอไม่เห็น เธอต้องรีบออกไปเรียกรถให้เร็วที่สุด แสงไฟสาดส่องมา รถเก๋งคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาใกล้ กระจกถูกลดลง เสียงคุ้นหูดังออกมาจากความมืดภายในตัวรถ
“ให้ผมไปส่งไหมครับ” เป็นหนุ่มน่ารักคนเมื่อครู่ มันดูเป็นทางเลือกที่เชิญชวน
“ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ” มันเป็นทางเลือกที่ดี และเหมาะเจาะจนเกินไป เธอเห็นแววแห่งความผิดหวัง กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาก่อนออกรถจากไป บางทีเขาอาจจะไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย
เธอเรียกรถไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ในที่สุด หนุ่มน้อยคนเดิมวนรถกลับมาหากลุ่มวัยรุ่นที่น่าสงสัยเมื่อครู่ ทั้งหมดมีท่าทางเสียดาย ก่อนพูดคุยกันอย่างเฮฮา และรอคอยเหยื่อรายต่อไป
ม่านถูกรูดปิด คนขับรถแท๊กซี่วัยกลางคนไล่พนักงานโรงแรมให้รีบออกไป ใบหน้าของเขาในตอนนี้ฉาบเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“ความมืดนั้นมีอยู่ทุกที่ มันเฝ้าคอยโอกาส เมื่อไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ เมื่อไม่คิดว่าจะถูกจับได้ มันก็จะมีพลังขึ้นมา” มันเป็นเสียงกระซิบที่ไม่ได้ยิน จากร่างลึกลับในชุดสีดำซึ่งยืนพิงอยู่ข้างประตูห้องพักหมายเลขหกโดยไม่มีผู้ใดมองเห็น
พนักงานโรงแรมแอบมองสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด คนขับรถลงมาเปิดประตูด้านหลัง ก่อนลากร่างหญิงสาวที่สลบไสลไม่ได้สติลงมา ทุกสิ่งบอกชัดว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น แต่พนักงานกลับยังลังเลว่าควรทำอย่างไรต่อไป ด้านหนึ่งคือการทำสิ่งที่ถูกต้อง อีกด้านหนึ่งคือการทำสิ่งที่ยั่วยวนยิ่งกว่าด้วยการขอเข้าไปมีส่วนร่วม โดยเฉพาะภายใต้ความมืดเช่นนี้ ความมืดที่จะปิดซ่อนทุกสิ่ง
“จงอย่าพ่ายแพ้แก่ความมืด”
ไซโค-แมน สีดำ เดินไปกระซิบที่ข้างหูพนักงานคนนั้น ก่อนหายตัวไป ดูเหมือนเขาไม่สนใจแล้วว่าผลสุดท้ายนั้นจะเป็นเช่นไร สีชุดของเขากลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับยามราตรี ดุจดั่งเงา ดุจดั่งความมืดดำที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในจิตใจของทุกคน