นั่นแน่มาอีกแล้ว เกมส์ตามหาล็อคอินฉบับอัพเดทใหม่ครับ ขอเตือนเจ้าของล็อคอินที่ใช้ชื่อปู่ ย่า ตา ทวด ลุง ป้า น้า อาทั้งหลาย ขอให้เตรียมแว่นสายตา ยาลม ยาดม ยาหม่องให้พร้อม เพราะต้อง
ปวดหมองอย่างแน่นอน เมื่อพร้อมแล้วเชิญหาความสำราญได้แล้วครับ
เช้าวันศุกร์ที่12 เม.ย.ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเพลงของ
Tchaikovsky ดังมาจากบ้าน
คนใกล้กัน ผมเลยออกมายืนตรง
มุมหนึ่งของ
ระเบียงหน้าบ้าน พอยังคงเห็น
ดวงดาวแต่ละดวงสวยงามจน
อยากฝากชีวิตไว้กับดาว Lomadee มาก เป็น
ลมสบายๆราวกับเป็น
สายลมแห่งเสรีภาพ ผมดูจาก
ทิศทางลมแล้วมาจากทางใต้ อากาศที่เชียงใหม่เริ่มร้อนแล้วทำให้นึกถึงเพลง
เหมันต์ที่ผ่านไป บ้านผมเป็น
บ้านชายเขาใกล้กับน้ำตก
คำผาลาด(สวยพอๆกับน้ำตก
โตนปลิว) มีเสียง
นกร้องจิ๊บๆสลับกับเสียง
ปะเกิ๊บปะเกิ๊บ จาก
นกโก๊กดังแว่วๆ หน้าบ้านเป็นบึงมีทั้ง
ปลากระสงและ
ปลากระดี่ แต่ที่มองไม่เห็นเพราะ
บังตออยู่ มี
กอบัวน่ารักจังและ
บัวใสอยู่กลางบึง ตอนหน้าหนาวจะเห็น
หงส์หิมะว่ายไปมาแต่พอเข้าหน้าร้อนกลายเป็น
หงส์ละเหี่ยหงอยไปเลย ข้างบึงมี
ปลายอ้อกอแขมและ
กอไผ่แสนซน มองดูต้น
ไผ่ไหวไปมาตามแรงลมแล้วรู้สึกมีความ
สุขมากมาก มีพระ
ธุดงค์ผ่านมาผ่านไป พระอาทิตย์สาดแสงดูราวกับ
เทพสาดส่องเห็นเป็นสี
ทองรำไร น้ำค้างบนยอด
หญ้าสีเขียวมองลงมาเหมือน
ละอองแผ่นดิน ช่างเป็น
วันสวย ฟ้าใสจริงๆไม่แพ้
ฟ้าสางที่เชียงดาวเลยทีเดียว นี่ถ้าเพื่อนผมที่ชื่อ
ชยารมภ์มีนามปากกาว่า
ไกรเมืองแคน เจ้าของบทความ
โยนกระเบื้องล่อหยก, แผ่นดิน ผู้ชี้ ขุมทรัพย์ และ
ความจริงที่ไม่มีจริง ที่โด่งดัง มาเห็นคงบรรยายเป็นภาษากวีได้ไพเราะแน่ๆ เพราะตั้งแต่อกหักจากสาวงามนามจำปูน(
is Jampoon ) ที่มักจะซ้อน
จักรยานสีฟ้ามานั่งจีบกันที่
หัวสะพาน ผมประเภท
สู่รู้สู่เห็นก็ได้แต่
แอบมาซุ่มดู
มองตาปริบๆด้วยความอิจฉา เห็นเขียนอะไรยุกยิกด้วย
ปากกาเมจิก พอทั้งคู่จากไปผมก็เลยมาดูเห็นคำว่า
รักเธอชั่วนิรันทร์ 9
กันยายน เป็นรูปหัวใจมีรูป
ศรนารายณ์7882 ปักอยู่ แต่จากนั้นไม่นานจำปูนก็ไปแต่งงานกับหนุ่มลูกครึ่งไทย-เกาหลีชื่อเล่น
ซอนฮวก ชื่อจริง
รสกร บิดาของเขาคือคุณ
คิม1929 กลายเป็น
คุณนายแดนไกล แดจังกึม ทำเอาเพื่อนผม
แสนแสบทรวงต้องหลบลี้หนีหน้าไป
เดินดงพงไพร เดินเรื่อยเปื่อย เป็น
คนหลงป่าพักหนึ่งแล้วกลับมาเปลี่ยนนามปากกาว่า
สิงห์สนามหลวง แต่งนิยายเรื่อง
ทองพูนราษฎรเต็มขั้น เลื่องชื่อระบือนามตั้งแต่นั้นมา ทุกช่วงวันหยุด
สงกรานต์สมานใจ(ปีใหม่ไทย) ผมมักจะนัดเจอญาติสนิท มิตรสหาย
พี่น้องผองเพื่อนที่เป็น
น้ำมิตรและเป็น
มิตรแท้จริงกันมานานพบปะสังสรรค์กันที่บ้านคุณ
ปู่อภิวัฒน์ (
บุรุษผู้หยุดเวลาเพราะ
หล่อได้อีก) และคุณ
ย่าแจ๊คกี้(
เจ้านางเหนือ)ผู้มี
ไมตรีจิตรกับทุกๆคน อยู่
ห่างไกลจากตัวเมืองไปทาง
ดอยสะเก็ดประมาณ
ร้อยเมตรหมื่นไมล์ในใจเราหรือ
หมื่นลี้พันตำลึงถ้าพูดแบบจีน ผมเป็นประเภท
มือเก่าหัดขับเลยต้องใช้ถนน
เลียบเมือง ถ้าไม่ได้
ลุงจืดบอกทางหลายคนคง
หลงทางเสียเวลาแน่ๆ ชื่อหมู่บ้าน
นพบุรีศรีนครพิงค์แต่คนแถวนั้นจะเรียกสั้นๆว่า
นพนครพิงค์(ทำให้นึกถึงยามเด็กผมมักจะได้ยินเพลง
พิงค์นครสมนามกรนครเชียงใหม่) บ้านหลังนี้หาง่ายเพราะกำแพงรั้วทำด้วยหิน
ศิลาแรง ที่มองเห็นเด่นแต่ไกลคือดอกหางนกยูงไทยที่คนเหนือเรียกว่าดอก
ซอมภอบานสะพรั่งทั้งสีเหลืองและสีส้มแดงอยู่เหนือกำแพง และรอบบ้านรายล้อมด้วย
ก้อนหินสีชมพู มีต้น
มะฮอกกานีใบใหญ่ปกคลุมเป็น
ไม้ร่มนกจับ ผมมาถึงหลังเที่ยงเพราะเห็น
แม่ค้าริมทางขายของแถว
ทางผ่านอยากแวะทำให้มาช้า อาหารที่จัดเลี้ยงเป็นบุฟเฟ่ต์มีหลายรายการเช่น
สปาเก๊ตตี้ปลาเค็ม แกงมัสมั่นไก่ใส่
ใบโหระพา แกงส้มไข่ปลา ผัดวุ้นเส้นใส่เม็ดมะม่วง
หิมพานต์ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ต้มจืด
เห็ดหอมโรย
ขิงแห้ง ไข่ทอดชะอม ++หมูกรอบทอดกระเทียมพริกไท++ และ
รวมมิตรทะเลรู้อย่างนี้ไม่พก
ข้าวผัดห่อโอเลี้ยงถุงมาก็ดี ข้าวสวยก็เป็นข้าว
กล้องทองพันธุ์พิเศษ จากนาของ
ตาป๊อกผู้คิดค้น ทุกอย่าง
อร่อยมาก กินเท่าไหร่ก้อไม่อิ่ม อิอิ ต่อด้วย
ขนมไทยคือ
ขนมสาคู ขนมต้มและ
สาลี่กรอบ ผมวนเวียนอยู่แถวนี้จนโดนล้อว่า
นายขนมหวาน แต่ที่ต้องปฏิเสธก็คือ
หนมโก๋กินแล้วคอแห้งซึ่งเป็นของโปรดของ
หนุ่มบ้านแพ้ว และทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่า “
ของกิ๋นลำอยู่ตี้คนมัก” อาหารแต่ละอย่างได้รับอภินันทนาการจากร้านอาหาร
บ้านสวนธน ของคุณ
มูลมัง คนพิจิตร เรียกว่าสมบูรณ์แบบแม้กระทั่ง
จานชามช้อนส้อม ผมว่าน่าใช้
ใบตองจานจะได้ไม่ต้องล้าง ส่วน
ป้าเยาว์ค่ะเอาส้มตำจากร้าน
ป้าซอย15 ของแกเองมาสมทบเป็นส้มตำแบบ
ไม่ต้องตำใช้คลุกแทน คนที่ไม่
ชอบเผ็ดก็ทานได้ ทีเด็ดอยู่ที่ใส่
ก้ามปูจอมพลังกินกับ
แคบหมูไร้มันยิ่งอร่อย ชอบใจตรงที่แกชอบอุทานว่า ว้ายตายแล้ว
แต๋วแก้วกระจาย ส่วนที่สาวๆชอบกินกันคือ
มะฝางเปรี้ยวจิ้ม
เกลือเม็ด เครื่องดื่มก็มี
น้ำมะตูมแช่เย็นสำหรับ
บำรุงร่างกาย น้ำ
แตงโมรังสิตดื่มแล้ว
พาชื่นใจ ส่วน
กาแฟยามบ่ายมีให้เลือกคือ
กาแฟดำขมคือใส่
กาแฟดำสามช้อน กาแฟมอคค่าและ
คาปูชิโนส่วนตัวผมชอบดื่ม
กาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ ทานคู่กับ
บราวนี่ชีสเค็กท้อปปิ้งวิปครีม และ
เค้กผลไม้ …..โปรดติดตามตอนต่อไป......
เกมส์ตามหาล็อคอินตัวเองในเวอร์ชั่นใหม่ของมุมแดง สวัสดีปีใหม่ไทยครับ
เช้าวันศุกร์ที่12 เม.ย.ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเพลงของTchaikovsky ดังมาจากบ้านคนใกล้กัน ผมเลยออกมายืนตรงมุมหนึ่งของระเบียงหน้าบ้าน พอยังคงเห็นดวงดาวแต่ละดวงสวยงามจนอยากฝากชีวิตไว้กับดาว Lomadee มาก เป็นลมสบายๆราวกับเป็นสายลมแห่งเสรีภาพ ผมดูจากทิศทางลมแล้วมาจากทางใต้ อากาศที่เชียงใหม่เริ่มร้อนแล้วทำให้นึกถึงเพลงเหมันต์ที่ผ่านไป บ้านผมเป็นบ้านชายเขาใกล้กับน้ำตกคำผาลาด(สวยพอๆกับน้ำตกโตนปลิว) มีเสียงนกร้องจิ๊บๆสลับกับเสียงปะเกิ๊บปะเกิ๊บ จากนกโก๊กดังแว่วๆ หน้าบ้านเป็นบึงมีทั้งปลากระสงและปลากระดี่ แต่ที่มองไม่เห็นเพราะบังตออยู่ มีกอบัวน่ารักจังและบัวใสอยู่กลางบึง ตอนหน้าหนาวจะเห็นหงส์หิมะว่ายไปมาแต่พอเข้าหน้าร้อนกลายเป็นหงส์ละเหี่ยหงอยไปเลย ข้างบึงมีปลายอ้อกอแขมและกอไผ่แสนซน มองดูต้นไผ่ไหวไปมาตามแรงลมแล้วรู้สึกมีความสุขมากมาก มีพระธุดงค์ผ่านมาผ่านไป พระอาทิตย์สาดแสงดูราวกับเทพสาดส่องเห็นเป็นสีทองรำไร น้ำค้างบนยอดหญ้าสีเขียวมองลงมาเหมือนละอองแผ่นดิน ช่างเป็นวันสวย ฟ้าใสจริงๆไม่แพ้ฟ้าสางที่เชียงดาวเลยทีเดียว นี่ถ้าเพื่อนผมที่ชื่อชยารมภ์มีนามปากกาว่าไกรเมืองแคน เจ้าของบทความโยนกระเบื้องล่อหยก, แผ่นดิน ผู้ชี้ ขุมทรัพย์ และความจริงที่ไม่มีจริง ที่โด่งดัง มาเห็นคงบรรยายเป็นภาษากวีได้ไพเราะแน่ๆ เพราะตั้งแต่อกหักจากสาวงามนามจำปูน( is Jampoon ) ที่มักจะซ้อนจักรยานสีฟ้ามานั่งจีบกันที่หัวสะพาน ผมประเภทสู่รู้สู่เห็นก็ได้แต่แอบมาซุ่มดูมองตาปริบๆด้วยความอิจฉา เห็นเขียนอะไรยุกยิกด้วยปากกาเมจิก พอทั้งคู่จากไปผมก็เลยมาดูเห็นคำว่ารักเธอชั่วนิรันทร์ 9 กันยายน เป็นรูปหัวใจมีรูป ศรนารายณ์7882 ปักอยู่ แต่จากนั้นไม่นานจำปูนก็ไปแต่งงานกับหนุ่มลูกครึ่งไทย-เกาหลีชื่อเล่น ซอนฮวก ชื่อจริง รสกร บิดาของเขาคือคุณคิม1929 กลายเป็นคุณนายแดนไกล แดจังกึม ทำเอาเพื่อนผมแสนแสบทรวงต้องหลบลี้หนีหน้าไปเดินดงพงไพร เดินเรื่อยเปื่อย เป็นคนหลงป่าพักหนึ่งแล้วกลับมาเปลี่ยนนามปากกาว่าสิงห์สนามหลวง แต่งนิยายเรื่องทองพูนราษฎรเต็มขั้น เลื่องชื่อระบือนามตั้งแต่นั้นมา ทุกช่วงวันหยุดสงกรานต์สมานใจ(ปีใหม่ไทย) ผมมักจะนัดเจอญาติสนิท มิตรสหาย พี่น้องผองเพื่อนที่เป็นน้ำมิตรและเป็นมิตรแท้จริงกันมานานพบปะสังสรรค์กันที่บ้านคุณปู่อภิวัฒน์ (บุรุษผู้หยุดเวลาเพราะหล่อได้อีก) และคุณย่าแจ๊คกี้(เจ้านางเหนือ)ผู้มีไมตรีจิตรกับทุกๆคน อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองไปทางดอยสะเก็ดประมาณร้อยเมตรหมื่นไมล์ในใจเราหรือหมื่นลี้พันตำลึงถ้าพูดแบบจีน ผมเป็นประเภทมือเก่าหัดขับเลยต้องใช้ถนนเลียบเมือง ถ้าไม่ได้ลุงจืดบอกทางหลายคนคงหลงทางเสียเวลาแน่ๆ ชื่อหมู่บ้านนพบุรีศรีนครพิงค์แต่คนแถวนั้นจะเรียกสั้นๆว่านพนครพิงค์(ทำให้นึกถึงยามเด็กผมมักจะได้ยินเพลงพิงค์นครสมนามกรนครเชียงใหม่) บ้านหลังนี้หาง่ายเพราะกำแพงรั้วทำด้วยหินศิลาแรง ที่มองเห็นเด่นแต่ไกลคือดอกหางนกยูงไทยที่คนเหนือเรียกว่าดอกซอมภอบานสะพรั่งทั้งสีเหลืองและสีส้มแดงอยู่เหนือกำแพง และรอบบ้านรายล้อมด้วยก้อนหินสีชมพู มีต้นมะฮอกกานีใบใหญ่ปกคลุมเป็นไม้ร่มนกจับ ผมมาถึงหลังเที่ยงเพราะเห็นแม่ค้าริมทางขายของแถวทางผ่านอยากแวะทำให้มาช้า อาหารที่จัดเลี้ยงเป็นบุฟเฟ่ต์มีหลายรายการเช่นสปาเก๊ตตี้ปลาเค็ม แกงมัสมั่นไก่ใส่ใบโหระพา แกงส้มไข่ปลา ผัดวุ้นเส้นใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ต้มจืดเห็ดหอมโรยขิงแห้ง ไข่ทอดชะอม ++หมูกรอบทอดกระเทียมพริกไท++ และรวมมิตรทะเลรู้อย่างนี้ไม่พกข้าวผัดห่อโอเลี้ยงถุงมาก็ดี ข้าวสวยก็เป็นข้าวกล้องทองพันธุ์พิเศษ จากนาของตาป๊อกผู้คิดค้น ทุกอย่างอร่อยมาก กินเท่าไหร่ก้อไม่อิ่ม อิอิ ต่อด้วยขนมไทยคือขนมสาคู ขนมต้มและสาลี่กรอบ ผมวนเวียนอยู่แถวนี้จนโดนล้อว่านายขนมหวาน แต่ที่ต้องปฏิเสธก็คือหนมโก๋กินแล้วคอแห้งซึ่งเป็นของโปรดของหนุ่มบ้านแพ้ว และทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่า “ของกิ๋นลำอยู่ตี้คนมัก” อาหารแต่ละอย่างได้รับอภินันทนาการจากร้านอาหารบ้านสวนธน ของคุณมูลมัง คนพิจิตร เรียกว่าสมบูรณ์แบบแม้กระทั่งจานชามช้อนส้อม ผมว่าน่าใช้ใบตองจานจะได้ไม่ต้องล้าง ส่วนป้าเยาว์ค่ะเอาส้มตำจากร้าน ป้าซอย15 ของแกเองมาสมทบเป็นส้มตำแบบไม่ต้องตำใช้คลุกแทน คนที่ไม่ชอบเผ็ดก็ทานได้ ทีเด็ดอยู่ที่ใส่ก้ามปูจอมพลังกินกับแคบหมูไร้มันยิ่งอร่อย ชอบใจตรงที่แกชอบอุทานว่า ว้ายตายแล้วแต๋วแก้วกระจาย ส่วนที่สาวๆชอบกินกันคือมะฝางเปรี้ยวจิ้มเกลือเม็ด เครื่องดื่มก็มีน้ำมะตูมแช่เย็นสำหรับบำรุงร่างกาย น้ำแตงโมรังสิตดื่มแล้วพาชื่นใจ ส่วนกาแฟยามบ่ายมีให้เลือกคือ กาแฟดำขมคือใส่กาแฟดำสามช้อน กาแฟมอคค่าและคาปูชิโนส่วนตัวผมชอบดื่มกาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ ทานคู่กับบราวนี่ชีสเค็กท้อปปิ้งวิปครีม และเค้กผลไม้ …..โปรดติดตามตอนต่อไป......