มรรคตัดกรรมในอดีตชาติได้หรือไม่
พิจารณาด้วยปัญญาอันฝึกมาดีแล้ว
มรรคตัดกรรมในอดีตชาติได้หรือไม่
มรรคตัดกรรมในอดีตไม่ได้ อย่างมรรคแรกคือโสดาปัตติมรรค
เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมตัดกรรมที่จะนำให้เกิดในอบายได้ทั้งหมด
อนาคามิมรรคย่อมตัดกรรมที่จะนำให้เกิดในกามสุคติภูมิได้หมด
อรหัตตมรรคย่อมตัดกรรมที่จะนำให้เกิดในภพภูมิได้หมด
เป็นที่น่าสังเกตว่า มรรคแต่ละมรรคที่ตัดกรรมบางส่วนได้นั้น ตัดเฉพาะกรรมที่ทำหน้าที่ปฏิสนธิ
คือนำเกิดในอบายเป็นต้นเท่านั้น ไม่ได้ตัดกรรมที่จะเกิดในปวัตติกาล คือไม่ได้ตัดกรรมที่จะให้ผลหลังจากที่เกิดมาแล้ว
เพราะมิฉะนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าก็คงไม่ต้องเสวยข้าวแดงสำหรับเลี้ยงม้า
หรือท่านพระมหาโมคคัลลานะคงไม่ถูกโจรทุบตีจนร่างกายแหลกละเอียด
ท่านพระสารีบุตรคงไม่ต้องอาพาธจนถ่ายเป็นโลหิตในเวลาใกล้จะปรินิพพานเป็นต้น
แต่เมื่อพระอรหันต์ปรินิพพานแล้ว กรรมที่จะให้ผลทั้งในปฏิสนธิกาล
และปวัตติกาลเป็นอันหมดโอกาสให้ผล คือไม่มีโอกาสให้ผลอีกเลย
เพราะฉะนั้น พระอรหันต์ท่านปรินิพพานแล้ว ท่านจึงไม่เกิดอีก
มรรคตัดกรรมในอดีตชาติได้หรือไม่
พิจารณาด้วยปัญญาอันฝึกมาดีแล้ว
มรรคตัดกรรมในอดีตชาติได้หรือไม่
มรรคตัดกรรมในอดีตไม่ได้ อย่างมรรคแรกคือโสดาปัตติมรรค
เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมตัดกรรมที่จะนำให้เกิดในอบายได้ทั้งหมด
อนาคามิมรรคย่อมตัดกรรมที่จะนำให้เกิดในกามสุคติภูมิได้หมด
อรหัตตมรรคย่อมตัดกรรมที่จะนำให้เกิดในภพภูมิได้หมด
เป็นที่น่าสังเกตว่า มรรคแต่ละมรรคที่ตัดกรรมบางส่วนได้นั้น ตัดเฉพาะกรรมที่ทำหน้าที่ปฏิสนธิ
คือนำเกิดในอบายเป็นต้นเท่านั้น ไม่ได้ตัดกรรมที่จะเกิดในปวัตติกาล คือไม่ได้ตัดกรรมที่จะให้ผลหลังจากที่เกิดมาแล้ว
เพราะมิฉะนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าก็คงไม่ต้องเสวยข้าวแดงสำหรับเลี้ยงม้า
หรือท่านพระมหาโมคคัลลานะคงไม่ถูกโจรทุบตีจนร่างกายแหลกละเอียด
ท่านพระสารีบุตรคงไม่ต้องอาพาธจนถ่ายเป็นโลหิตในเวลาใกล้จะปรินิพพานเป็นต้น
แต่เมื่อพระอรหันต์ปรินิพพานแล้ว กรรมที่จะให้ผลทั้งในปฏิสนธิกาล
และปวัตติกาลเป็นอันหมดโอกาสให้ผล คือไม่มีโอกาสให้ผลอีกเลย
เพราะฉะนั้น พระอรหันต์ท่านปรินิพพานแล้ว ท่านจึงไม่เกิดอีก