ลิ่วล้อทักษิณเดือดท้าปชป. ชูเลิกกู้2ล้านล.แข่งเลือกตั้ง
"ทะแนะ" โต้ "อภิสิทธิ์" แทนเจ้านาย ยก "ทักษิณ" ถนัดใช้หนี้มากกว่าก่อหนี้ ซัดอย่ากล่าวหาหวังผลการเมือง ท้าหาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านไม่ดี ประกาศเป็นนโยบายหาเสียงให้ประชาชนเลือก "มาร์ค" อัดซ้ำ "แม้ว" ห่วงกู้ออกนอกหน้า สภาพัฒน์ยอมรับโครงการรถไฟความเร็วสูงสร้างรายได้ค่าโดยสารแค่ 30-40% "เอดีบี" เตือนลงทุนขนาดใหญ่เสี่ยงกระทบ ศก.หากล่าช้า แนะขยายฐานเก็บภาษี-คุมเข้มทุจริต
เมื่อวันอังคาร นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวตอบโต้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณชอบกู้และตั้งหน้าตั้งตาจะกู้ ทั้งๆ ที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไม่มีความพร้อมว่า นายอภิสิทธิ์น่าจะจำได้ว่านายกฯ คนที่ใช้หนี้ IMF ครบก่อนกำหนดคือ พ.ต.ท.ทักษิณถนัดใช้หนี้มากกว่าก่อหนี้ แม้นายอภิสิทธิ์ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แต่เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีก็ไม่ควรกล่าวหาคนเพื่อหวังผลทางการเมือง
นายนพดลกล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องประโยชน์ของการปฏิรูประบบโลจิสติกส์โดยใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ท่านย้ำว่าไม่ได้ทำลายวินัยทางการเงินการคลัง และการกู้หนี้มาลงทุนนั้น ก็จะทำให้ทรัพย์สินของประเทศและรายได้ของประเทศสูงขึ้นไปด้วย แม้หนี้เพิ่มแต่ GDP ก็เพิ่มเป็นเงาตามตัว ซึ่งคนทั่วไปฟังแล้วเข้าใจ เรากู้มาเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ไม่ได้กู้มาทำโครงการหัวแหลกหัวแตก เช่น การแจกเช็คประชาชนคนละ 2,000 บาท โครงการชุมชนพอเพียง ที่มีการทุจริตอย่างแพร่หลาย จนต้องมีการปลดรัฐมนตรีในอดีตมาแล้ว
“คนไทยจำได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนผลักดันจนสนามบินสุวรรณภูมิสำเร็จในวันนี้ คิดว่ารัฐบาลคงฉลาดพอที่จะดูความพร้อมของโครงการก่อนจะไปกู้ คงไม่ไปกู้สุ่มสี่สุ่มห้า ถ้านายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า พ.ร.บกู้เงิน 2 ล้านล้านไม่ดี ก็ขอให้ประกาศจุดยืนไปเลยว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะประกาศยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ และประกาศยกเลิกโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลนี้เสนอที่จะสร้างจากการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อให้ประชาชนไทยได้ตัดสินในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แล้วดูว่าประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร” ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ออกมาย้ำอีกครั้งถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณระบุการออกกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะไม่ทำให้ประเทศใช้หนี้นานถึง 50 ปี ว่าตัวเลขหนี้ 50 ปี ออกมาจากรัฐบาลเอง ไม่มีคนอื่นออกมาพูด เพราะฉะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณอย่าพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งรู้สึกว่าคงเป็นห่วงจะไม่ได้กู้ จึงแสดงความเห็นในเรื่องนี้ถี่ขึ้น ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจะต้องตั้งหน้าตั้งตากู้ ทั้งที่โครงการยังไม่พร้อม หน่วยงานก็ยอมรับว่าไม่พร้อมจะต้องมีการทบทวนส่งกลับให้สภาพัฒน์
"มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณที่ยืนยันจะต้องกู้ให้ได้ อาจเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณชอบกู้ จึงพยายามจะกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทให้ได้ และอาจจะมีเรื่องอื่น ซึ่งผมต้องติดตามตรวจสอบโครงการอีกครั้ง หากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ส่งให้สภาพัฒน์ศึกษาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงใหม่ทั้ง 4 เส้นทาง รวมเงินที่ใช้ใน 4 โครงการนี้กว่า 7 แสนล้านบาท ก็เป็นการยืนยันให้เห็นว่าไม่มีความพร้อม และขาดยุทธศาสตร์ในภาพรวม" นายอภิสิทธิ์กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หากมีการทบทวนโครงการเหล่านี้แล้วเห็นว่าไม่มีความพร้อม ตนก็มองไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งในขั้นตอนนี้รัฐบาลสามารถถอนกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทออกไปได้ เพราะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงินนี้มาตั้งแต่ต้น หากถอนออกไปก็จะขอบคุณ
วันเดียวกัน คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ.... ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เป็นประธาน
นายอนุชา บูรพชัยศรี กรรมาธิการ กล่าวว่า ตามแผนใช้เงินกู้ประมาณ 40% ของวงเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 8 แสนล้านบาท ใช้สร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเห็นว่าหากลงทุนพัฒนารถไฟทางคู่ทั่วประเทศ เช่น รถไฟสายเหนือสร้างทางคู่ถึงเชียงใหม่ จากเดิมถึงแค่คณะกรรมาธิการฯ ตั้งคำถามโครงการรถไฟความเร็วสูงไม่คุ้มค่าลงทุนเด่นชัย จะทำให้การเดินทางด้วยระบบรางใช้เงินลงทุนไม่มาก
นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ กรรมาธิการ กล่าวว่า กังวลว่าการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงจะไม่คุ้มค่า สร้างไปแล้วไม่มีคนใช้ ขณะที่รัฐบาลจะต้องใช้เงินอุดหนุนเนื่องจากโครงการขาดทุนอีกประมาณปีละ 2 หมื่นล้านบาท สังเกตจากผลศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่พบว่าผลตอบแทนทางการเงินอยู่ที่ -0.71%
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สศช. ชี้แจงว่า การวางแผนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะเน้นเส้นทางสายหลัก เป้าหมายเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ 2% โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงจะช่วยประหยัดพลังงานและสร้างโอกาสการเติบโตของเมือง ส่วนค่าโดยสารที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงและลดความเหลื่อมล้ำได้นั้น จากผลศึกษารายได้จากค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 30-40% ที่เหลือเป็นรายได้ที่ไม่ใช่ค่าโดยสาร ดังนั้นค่าโดยสารจะไม่ได้เก็บเพื่อให้คุ้มการลงทุน แต่จะมีรายได้ส่วนอื่นมาเสริม
ขณะที่นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส สำนักงานผู้แทนประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ 4.9% และ 5% ในปี 2557 ลดลงจากปี 2555 ที่ขยายตัว 6.4% ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนภาครัฐที่จะขยายตัว 12.5% ซึ่งมาจากการที่รัฐบาลจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ที่จะมีการก่อสร้างถนน ระบบราง ท่าเรือ และท่าอากาศยานในอีก 7 ปีข้างหน้า โดยการลงทุนจะเริ่มในปี 2557 และการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำที่จะเริ่มลงทุนได้ภายในกลางปีนี้
"หากรวมการขาดดุลทั้งในและนอกงบประมาณแล้วในปีนี้ คาดว่ารัฐบาลจะขาดดุลทางการคลัง 4.8% ของจีดีพี โดยเชื่อว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าเศรษฐกิจในช่วง 1-2 ปีนี้จะเติบโตได้อย่างมีประ
สิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง หากการลงทุนขนาดใหญ่เหล่านี้เกิดความล่าช้า ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการลงทุนในภาพรวมของประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องดูแลการเพิ่มรายได้ของรัฐบาลให้เพียงพอต่อการใช้จ่าย ด้วยการขยายฐานภาษีให้มากขึ้นและควบคุมเรื่องความโปร่งใสในการก่อสร้างแต่ละโครงการด้วย" นางลัษมณกล่าว.
credit:
http://www.thaipost.net/news/100413/72072
======================================================
สำคัญ:
โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวนะขอรับ เช่นกรณี
เอดีบี นั้นไม่ได้มีการขัดขวาง แต่เป็นการตั้งข้อสังเกต หรือ
XX บอกว่า ใช้หนี้ก่อนกำหนด แต่ไม่บอกว่า หนี้ที่นำไปใช้นั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร นอกจากนั้น XX บอกเองว่า
อย่านำไปหวังผลทางการเมือง ผมอ่าน แล้วก็ไม่น่าใช่ เพราะว่า มาร์คก็ไม่ได้บอกว่าห้ามการพัฒนาแต่อย่างใด
หลายหน่วยงานทั้งสภาพัฒน์ เป็นต้น ออกมาประเมินต่อโครงการนั้น เป็นสิ่งที่ควรฟังไว้บ้าง
XX บอกว่า ทักษิณถนัดใช้หนี้ แต่ก็ไม่ยอมบอกว่า คนที่ทำให้ต้องสร้างหนี้ มันคือใคร 5555
นอกจากนั้นยังอ้างเรื่องเช็ค 2,000 บาท แต่ไม่ได้บอกว่า บริบทในช่วงนั้น ระบบศก.เป็นเช่นไร แล้วเป็นการกระตุ้นแบบ จ่ายมาก็คืนไป
หรือไม่ ชั่วได้ใจเจงๆๆๆ ยังแถไม่เลิกเกี่ยวกับ สร้างสนามบินฯ คนที่เขาคัดค้านไม่ได้ดูเลยว่า เขานั้นคัดค้านเรื่องใดกันแน่ คัดค้านเรื่อง
การก่อสร้าง หรือคัดค้าน เพราะที่ตรงนั้นเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร หลีกเลี่ยงได้หรือ
=========================================================
ทะแนะ แนะไปแนะนำ ได้แค่นี้มั้ง สงสัยคงคิดว่า คนส่วนหนึ่งเขาคงลืมความฉลาดมั้ง
ลิ่วล้อทักษิณเดือดท้าปชป. ชูเลิกกู้2ล้านล.แข่งเลือกตั้ง
"ทะแนะ" โต้ "อภิสิทธิ์" แทนเจ้านาย ยก "ทักษิณ" ถนัดใช้หนี้มากกว่าก่อหนี้ ซัดอย่ากล่าวหาหวังผลการเมือง ท้าหาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านไม่ดี ประกาศเป็นนโยบายหาเสียงให้ประชาชนเลือก "มาร์ค" อัดซ้ำ "แม้ว" ห่วงกู้ออกนอกหน้า สภาพัฒน์ยอมรับโครงการรถไฟความเร็วสูงสร้างรายได้ค่าโดยสารแค่ 30-40% "เอดีบี" เตือนลงทุนขนาดใหญ่เสี่ยงกระทบ ศก.หากล่าช้า แนะขยายฐานเก็บภาษี-คุมเข้มทุจริต
เมื่อวันอังคาร นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวตอบโต้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณชอบกู้และตั้งหน้าตั้งตาจะกู้ ทั้งๆ ที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไม่มีความพร้อมว่า นายอภิสิทธิ์น่าจะจำได้ว่านายกฯ คนที่ใช้หนี้ IMF ครบก่อนกำหนดคือ พ.ต.ท.ทักษิณถนัดใช้หนี้มากกว่าก่อหนี้ แม้นายอภิสิทธิ์ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แต่เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีก็ไม่ควรกล่าวหาคนเพื่อหวังผลทางการเมือง
นายนพดลกล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องประโยชน์ของการปฏิรูประบบโลจิสติกส์โดยใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ท่านย้ำว่าไม่ได้ทำลายวินัยทางการเงินการคลัง และการกู้หนี้มาลงทุนนั้น ก็จะทำให้ทรัพย์สินของประเทศและรายได้ของประเทศสูงขึ้นไปด้วย แม้หนี้เพิ่มแต่ GDP ก็เพิ่มเป็นเงาตามตัว ซึ่งคนทั่วไปฟังแล้วเข้าใจ เรากู้มาเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ไม่ได้กู้มาทำโครงการหัวแหลกหัวแตก เช่น การแจกเช็คประชาชนคนละ 2,000 บาท โครงการชุมชนพอเพียง ที่มีการทุจริตอย่างแพร่หลาย จนต้องมีการปลดรัฐมนตรีในอดีตมาแล้ว
“คนไทยจำได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนผลักดันจนสนามบินสุวรรณภูมิสำเร็จในวันนี้ คิดว่ารัฐบาลคงฉลาดพอที่จะดูความพร้อมของโครงการก่อนจะไปกู้ คงไม่ไปกู้สุ่มสี่สุ่มห้า ถ้านายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า พ.ร.บกู้เงิน 2 ล้านล้านไม่ดี ก็ขอให้ประกาศจุดยืนไปเลยว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะประกาศยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ และประกาศยกเลิกโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลนี้เสนอที่จะสร้างจากการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อให้ประชาชนไทยได้ตัดสินในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แล้วดูว่าประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร” ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ออกมาย้ำอีกครั้งถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณระบุการออกกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะไม่ทำให้ประเทศใช้หนี้นานถึง 50 ปี ว่าตัวเลขหนี้ 50 ปี ออกมาจากรัฐบาลเอง ไม่มีคนอื่นออกมาพูด เพราะฉะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณอย่าพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งรู้สึกว่าคงเป็นห่วงจะไม่ได้กู้ จึงแสดงความเห็นในเรื่องนี้ถี่ขึ้น ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจะต้องตั้งหน้าตั้งตากู้ ทั้งที่โครงการยังไม่พร้อม หน่วยงานก็ยอมรับว่าไม่พร้อมจะต้องมีการทบทวนส่งกลับให้สภาพัฒน์
"มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณที่ยืนยันจะต้องกู้ให้ได้ อาจเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณชอบกู้ จึงพยายามจะกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทให้ได้ และอาจจะมีเรื่องอื่น ซึ่งผมต้องติดตามตรวจสอบโครงการอีกครั้ง หากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ส่งให้สภาพัฒน์ศึกษาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงใหม่ทั้ง 4 เส้นทาง รวมเงินที่ใช้ใน 4 โครงการนี้กว่า 7 แสนล้านบาท ก็เป็นการยืนยันให้เห็นว่าไม่มีความพร้อม และขาดยุทธศาสตร์ในภาพรวม" นายอภิสิทธิ์กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หากมีการทบทวนโครงการเหล่านี้แล้วเห็นว่าไม่มีความพร้อม ตนก็มองไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งในขั้นตอนนี้รัฐบาลสามารถถอนกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทออกไปได้ เพราะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงินนี้มาตั้งแต่ต้น หากถอนออกไปก็จะขอบคุณ
วันเดียวกัน คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ.... ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เป็นประธาน
นายอนุชา บูรพชัยศรี กรรมาธิการ กล่าวว่า ตามแผนใช้เงินกู้ประมาณ 40% ของวงเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 8 แสนล้านบาท ใช้สร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเห็นว่าหากลงทุนพัฒนารถไฟทางคู่ทั่วประเทศ เช่น รถไฟสายเหนือสร้างทางคู่ถึงเชียงใหม่ จากเดิมถึงแค่คณะกรรมาธิการฯ ตั้งคำถามโครงการรถไฟความเร็วสูงไม่คุ้มค่าลงทุนเด่นชัย จะทำให้การเดินทางด้วยระบบรางใช้เงินลงทุนไม่มาก
นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ กรรมาธิการ กล่าวว่า กังวลว่าการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงจะไม่คุ้มค่า สร้างไปแล้วไม่มีคนใช้ ขณะที่รัฐบาลจะต้องใช้เงินอุดหนุนเนื่องจากโครงการขาดทุนอีกประมาณปีละ 2 หมื่นล้านบาท สังเกตจากผลศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่พบว่าผลตอบแทนทางการเงินอยู่ที่ -0.71%
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สศช. ชี้แจงว่า การวางแผนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะเน้นเส้นทางสายหลัก เป้าหมายเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ 2% โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงจะช่วยประหยัดพลังงานและสร้างโอกาสการเติบโตของเมือง ส่วนค่าโดยสารที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงและลดความเหลื่อมล้ำได้นั้น จากผลศึกษารายได้จากค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 30-40% ที่เหลือเป็นรายได้ที่ไม่ใช่ค่าโดยสาร ดังนั้นค่าโดยสารจะไม่ได้เก็บเพื่อให้คุ้มการลงทุน แต่จะมีรายได้ส่วนอื่นมาเสริม
ขณะที่นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส สำนักงานผู้แทนประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ 4.9% และ 5% ในปี 2557 ลดลงจากปี 2555 ที่ขยายตัว 6.4% ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนภาครัฐที่จะขยายตัว 12.5% ซึ่งมาจากการที่รัฐบาลจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ที่จะมีการก่อสร้างถนน ระบบราง ท่าเรือ และท่าอากาศยานในอีก 7 ปีข้างหน้า โดยการลงทุนจะเริ่มในปี 2557 และการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำที่จะเริ่มลงทุนได้ภายในกลางปีนี้
"หากรวมการขาดดุลทั้งในและนอกงบประมาณแล้วในปีนี้ คาดว่ารัฐบาลจะขาดดุลทางการคลัง 4.8% ของจีดีพี โดยเชื่อว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าเศรษฐกิจในช่วง 1-2 ปีนี้จะเติบโตได้อย่างมีประ
สิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง หากการลงทุนขนาดใหญ่เหล่านี้เกิดความล่าช้า ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการลงทุนในภาพรวมของประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องดูแลการเพิ่มรายได้ของรัฐบาลให้เพียงพอต่อการใช้จ่าย ด้วยการขยายฐานภาษีให้มากขึ้นและควบคุมเรื่องความโปร่งใสในการก่อสร้างแต่ละโครงการด้วย" นางลัษมณกล่าว.
credit: http://www.thaipost.net/news/100413/72072
======================================================
สำคัญ:
โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวนะขอรับ เช่นกรณี
เอดีบี นั้นไม่ได้มีการขัดขวาง แต่เป็นการตั้งข้อสังเกต หรือ
XX บอกว่า ใช้หนี้ก่อนกำหนด แต่ไม่บอกว่า หนี้ที่นำไปใช้นั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร นอกจากนั้น XX บอกเองว่า
อย่านำไปหวังผลทางการเมือง ผมอ่าน แล้วก็ไม่น่าใช่ เพราะว่า มาร์คก็ไม่ได้บอกว่าห้ามการพัฒนาแต่อย่างใด
หลายหน่วยงานทั้งสภาพัฒน์ เป็นต้น ออกมาประเมินต่อโครงการนั้น เป็นสิ่งที่ควรฟังไว้บ้าง
XX บอกว่า ทักษิณถนัดใช้หนี้ แต่ก็ไม่ยอมบอกว่า คนที่ทำให้ต้องสร้างหนี้ มันคือใคร 5555
นอกจากนั้นยังอ้างเรื่องเช็ค 2,000 บาท แต่ไม่ได้บอกว่า บริบทในช่วงนั้น ระบบศก.เป็นเช่นไร แล้วเป็นการกระตุ้นแบบ จ่ายมาก็คืนไป
หรือไม่ ชั่วได้ใจเจงๆๆๆ ยังแถไม่เลิกเกี่ยวกับ สร้างสนามบินฯ คนที่เขาคัดค้านไม่ได้ดูเลยว่า เขานั้นคัดค้านเรื่องใดกันแน่ คัดค้านเรื่อง
การก่อสร้าง หรือคัดค้าน เพราะที่ตรงนั้นเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร หลีกเลี่ยงได้หรือ
=========================================================