ตั๋วหนังเมืองไทย "แพง" ติดอันดับโลก
คำถามในประเด็นที่ว่าตั๋วหนังในเมืองไทยถูกหรือแพงนั้น มีคำตอบที่ชัดเจนจาก ScreenDigest ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับราคาตั๋วหนังทั่วโลก ด้วยการคำนวนราคาตั๋วกับค่าครองชีพของแต่ละประเทศ และเพื่อหาคำตอบที่ว่า สำหรับประชาชนทั่ว ๆ ไปที่มีรายได้เฉลี่ยปานกลางในแต่ละประเทศ ต้องใช้เวลาทำงานกี่นาทีกันแน่ถึงจะได้ตั๋วหนังมา 1 ใบ
ซึ่งผลที่ออกมาก็ชี้ชัดว่า ตั๋วหนังในเมืองไทยไม่ใช่แค่แพง แต่แพงมาก!! ถือว่าแพงติดอันดับต้น ๆ ของโลกกันเลยทีเดียว
โดยประเทศที่เรียกว่าตั๋วหนังถูกที่สุด ก็คือ อินเดีย ที่ใช้เวลาทำงานแค่ 16.1 นาที ก็ได้ดูหนัง 1 รอบแล้ว ซึ่งแม้อินเดียจะมีรายได้เฉลี่ยที่ต่ำมาก (ประมาณ 0.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อชั่วโมง) แต่ตั๋วหนังในประเทศก็ถูกมาก ๆ เช่นเดียวกัน (ประมาณ 0.19 เหรียญฯ) เพราะนี่คือความบันเทิงสำหรับประชาชนคนเดินดินในอินเดีย ที่ยังมีคนยากจนอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดมีคำพูดที่ว่าจะกินโค้กในอินเดียยังจะแพงกว่าดูหนังเสียอีก เช่นเดียวกับในเมืองจีนที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีรายได้น้อย จนทำให้ราคาตั๋วหนังถูกตามไปด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อกันว่าด้วยโรงประเภท "มัลติเพล็กซ์" ที่กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในเมืองจีน ราคาตั๋วที่จีนก็น่าจะแพงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
ส่วนในสหรัฐฯ แม้ตั๋วหนังจะมีราคาค่อนข้างแพง แต่รายได้เฉลี่ยในประเทศก็ถือว่าสูงมาก ชาวมะกันแค่ออกแรงทำงาน 23.9 นาทีก็จะได้ดูหนังกันทันที เป็นกรณีคล้าย ๆ กับใน สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ, เดนมาร์ก, นอร์เวย์ ที่แม้ค่าตั๋วหนังในประเทศเหล่านี้จะสูงอยู่พอสมควร แต่รายได้เฉลี่ยของประชากรในประเทศก็ค่อนข้างสูงตามไปด้วย ตั๋วหนังในประเทศเหล่านี้จึงมีราคาที่ประชาชาสามารถซื้อกันได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก
แล้วสำหรับเมืองไทยล่ะ? จากข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าคนไทยต้องใช้เวลาทำงานถึง 108.7 นาที เพื่อให้ได้ตั๋วหนังมา 1 ใบ ถือว่าสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียงแค่ เอสโตเนีย และบัลเกเรีย ประเทศอดีตคอมมิวนิสต์เท่านั้น
เรียกว่าแพงกว่าเกือบทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นเหล่าประเทศพัฒนาแล้ว อย่าง เกาหลีใต้, เยอรมัน แม้แต่ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ชื่อว่าค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกก็ยังถือว่ามีราคาค่าตั๋วหนังที่ถูกกว่าเมืองไทย หรือประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา และมีค่าครองชีพค่อนข้างต่ำ คนไทยล้วนต้องใช้เวลาทำงานมากกว่าใคร จึงจะได้ดูหนังกันในโรง
หรือจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะ สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย ที่เจ้าของโรงอ้างว่าตั๋วหนังยังคงแพงกว่าเมืองไทย หากดูจากข้อมูลก็บ่งชี้ได้ว่าประชาชนในประเทศเหล่านี้ จ่ายตั๋วหนังในราคาที่ถูกกว่าเมืองไทยทั้งหมด
เมื่อคิดรวมกันในทุกประเทศ เฉลี่ยแล้วคนในโลกต้องใช้เวลาทำงานน้อยกว่า 1 ชั่วโมง หรือ 56.6 นาที ซึ่งหมายความว่าตั๋วหนังในเมืองไทยนั้นแพงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ถึงเกือบ 1 เท่านั้น และซึ่งหากจะลองคำนวนราคาตั๋วหนังที่ "เหมาะสม" ด้วยค่าเฉลี่ยดังกล่าวสำหรับเมืองไทยก็ควรจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ "40 บาท" เท่านั้น
ข่าวจาก
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000042750
ไทยครองสถิติอันดับ 3 ของประเทศที่มีราคาตั๋วหนังแพงที่สุดในโลก!!!
คำถามในประเด็นที่ว่าตั๋วหนังในเมืองไทยถูกหรือแพงนั้น มีคำตอบที่ชัดเจนจาก ScreenDigest ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับราคาตั๋วหนังทั่วโลก ด้วยการคำนวนราคาตั๋วกับค่าครองชีพของแต่ละประเทศ และเพื่อหาคำตอบที่ว่า สำหรับประชาชนทั่ว ๆ ไปที่มีรายได้เฉลี่ยปานกลางในแต่ละประเทศ ต้องใช้เวลาทำงานกี่นาทีกันแน่ถึงจะได้ตั๋วหนังมา 1 ใบ
ซึ่งผลที่ออกมาก็ชี้ชัดว่า ตั๋วหนังในเมืองไทยไม่ใช่แค่แพง แต่แพงมาก!! ถือว่าแพงติดอันดับต้น ๆ ของโลกกันเลยทีเดียว
โดยประเทศที่เรียกว่าตั๋วหนังถูกที่สุด ก็คือ อินเดีย ที่ใช้เวลาทำงานแค่ 16.1 นาที ก็ได้ดูหนัง 1 รอบแล้ว ซึ่งแม้อินเดียจะมีรายได้เฉลี่ยที่ต่ำมาก (ประมาณ 0.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อชั่วโมง) แต่ตั๋วหนังในประเทศก็ถูกมาก ๆ เช่นเดียวกัน (ประมาณ 0.19 เหรียญฯ) เพราะนี่คือความบันเทิงสำหรับประชาชนคนเดินดินในอินเดีย ที่ยังมีคนยากจนอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดมีคำพูดที่ว่าจะกินโค้กในอินเดียยังจะแพงกว่าดูหนังเสียอีก เช่นเดียวกับในเมืองจีนที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีรายได้น้อย จนทำให้ราคาตั๋วหนังถูกตามไปด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อกันว่าด้วยโรงประเภท "มัลติเพล็กซ์" ที่กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในเมืองจีน ราคาตั๋วที่จีนก็น่าจะแพงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
ส่วนในสหรัฐฯ แม้ตั๋วหนังจะมีราคาค่อนข้างแพง แต่รายได้เฉลี่ยในประเทศก็ถือว่าสูงมาก ชาวมะกันแค่ออกแรงทำงาน 23.9 นาทีก็จะได้ดูหนังกันทันที เป็นกรณีคล้าย ๆ กับใน สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ, เดนมาร์ก, นอร์เวย์ ที่แม้ค่าตั๋วหนังในประเทศเหล่านี้จะสูงอยู่พอสมควร แต่รายได้เฉลี่ยของประชากรในประเทศก็ค่อนข้างสูงตามไปด้วย ตั๋วหนังในประเทศเหล่านี้จึงมีราคาที่ประชาชาสามารถซื้อกันได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก
แล้วสำหรับเมืองไทยล่ะ? จากข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าคนไทยต้องใช้เวลาทำงานถึง 108.7 นาที เพื่อให้ได้ตั๋วหนังมา 1 ใบ ถือว่าสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียงแค่ เอสโตเนีย และบัลเกเรีย ประเทศอดีตคอมมิวนิสต์เท่านั้น
เรียกว่าแพงกว่าเกือบทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นเหล่าประเทศพัฒนาแล้ว อย่าง เกาหลีใต้, เยอรมัน แม้แต่ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ชื่อว่าค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกก็ยังถือว่ามีราคาค่าตั๋วหนังที่ถูกกว่าเมืองไทย หรือประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา และมีค่าครองชีพค่อนข้างต่ำ คนไทยล้วนต้องใช้เวลาทำงานมากกว่าใคร จึงจะได้ดูหนังกันในโรง
หรือจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะ สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย ที่เจ้าของโรงอ้างว่าตั๋วหนังยังคงแพงกว่าเมืองไทย หากดูจากข้อมูลก็บ่งชี้ได้ว่าประชาชนในประเทศเหล่านี้ จ่ายตั๋วหนังในราคาที่ถูกกว่าเมืองไทยทั้งหมด
เมื่อคิดรวมกันในทุกประเทศ เฉลี่ยแล้วคนในโลกต้องใช้เวลาทำงานน้อยกว่า 1 ชั่วโมง หรือ 56.6 นาที ซึ่งหมายความว่าตั๋วหนังในเมืองไทยนั้นแพงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ถึงเกือบ 1 เท่านั้น และซึ่งหากจะลองคำนวนราคาตั๋วหนังที่ "เหมาะสม" ด้วยค่าเฉลี่ยดังกล่าวสำหรับเมืองไทยก็ควรจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ "40 บาท" เท่านั้น
ข่าวจาก
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000042750