THE TALENT จอมคนจุติสวรรค์พันธุ์นักรบ : 1 : นักรบผู้มาจากแดนไกล

กระทู้สนทนา
THE TALENT
จอมคนจุติสวรรค์พันธุ์นักรบ

ศึกแรก ปฐมบทแห่งการพบกันของนักรบผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 1 : นักรบผู้มาจากแดนไกล

    เรือสินค้าขนาดใหญ่กำลังจะเข้าใกล้แผ่นดินที่มองเห็นจากไกลๆ ว่าเป็นเมืองที่วุ่นวายด้วยผู้คน สมกับที่เป็นเมืองท่าแห่งอาณาจักรทูรูส อาณาจักรผู้ยิ่งใหญ่ในด้านการรบ การสงคราม และกำลังขยายความยิ่งใหญ่ทางการค้ากับนานาอาณาจักร ความเร็วของเรือส่งสินค้าค่อยๆ ผ่อนลง จนสงบเงียบทั้งเรือ เมื่อเข้าใกล้สะพานเรือขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะมีคนเดินทางมากับเรือส่งสินค้าด้วยเหตุผลว่าราคาค่าเดินทางค่อนข้างถูกกว่าเรือโดยสาร และบางลำก็เดินทางเร็วกว่าเนื่องจากต้องรีบขนส่งสินค้าให้ทันเวลา เรือลำนี้ก็เช่นกัน มีผู้เดินทางมาเพื่อจุดประสงค์ที่เร่งด่วนเพื่อพบใครบางคน
    ที่ฝั่งนั้น มีหนุ่มน้อยผมสีแดงเหมือนเลือด อายุประมาณสิบเจ็ดปี แม้ว่าผมของเขาจะเป็นสีแดงแต่คิ้วและเคราที่คางของเขาเป็นสีดำสนิท ดวงตาสีดำสนิท ทรงผมยารุงรังและชี้ไปมาตัดเปิดหูทั้งสองข้างและไว้จอนยาวรับกับไรเครา หูเจาะต่างหูโลหะแหลมไว้หลายอัน สวมชุดกรรมกรท่าเรือ ที่เป็นเสื้อกางเกงตัวหลวมเย็บติดกัน ผ้าหนาพอจะทนทานงานหนัก สีน้ำเงินเข้มแต่เปรอะเปื้อนจนไม่เห็นสีแท้จริง ติดกระดุมไว้เพียงสามเม็ดล่าง ส่วนด้านบนโชว์เสื้อยืดที่เคยเป็นสีขาวตอนนี้เป็นสีออกน้ำตาลสกปรกอีกทั้งคอเสื้อยังขาด สวมรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาลทั้งเหม็นอับทั้งขาดเป็นรู บนพื้นที่เขาเหยียบนั้นเป็นสะพานเรือขนาดใหญ่ที่ยื่นลงไปในทะเล เต็มไปด้วยคนงานท่าเรือที่ทำงานอยู่แทบตลอดเวลา มีปั้นจั่นเป็นโครงเหล็กใหญ่ยักษ์ตั้งตระหง่านเหนือท่าสำหรับหยิบจับลังสินค้าขนาดใหญ่แทนกำลังคน  มีรถบรรทุกสินค้าขับเข้าออกสำหรับเคลื่อนย้ายลังสินค้า นอกจากเครื่องทุ่นแรงไม่กี่อย่าง คนงานหรือที่เรียกว่ากรรมกรท่าเรือเป็นกำลังในการขับเคลื่อนท่าเรือเมืองโดโบร่า ท่าเรือที่สำคัญที่สุดอันประดับอยู่ใต้สุดของอาณาจักรทูรูส หนุ่มผมแดงจริงๆ แล้วมีนามว่า ซาโก้ ไวทอน แต่ใครๆ ที่นี่เรียกเขาว่า โกอี้ เขาเป็นหนึ่งในกรรมกรใช้แรงงานในเมืองท่าเรือโดโบร่า เขายกลังสินค้าไม้ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่เขาดูผอมกว่ากรรมกรหลายๆ คน
    คนหนุ่มวัยรุ่นอายุเท่าเขาหลายคนจำเป็นต้องมาทำงานเป็นกรรมกร แต่ไม่น่าจะใช่หนุ่มจากตระกูลนักรบเลยสักนิด หากซาโก้ไม่ใช่นักโทษหลบหนีคดีใหญ่มา เขาคงไม่ต้องมาอดทนทำงานตากเหงื่ออยู่ในเมืองที่ห่างไกลสุดขอบอาณาจักร คดีนั้นร้ายแรงนัก คดีพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา และผู้ที่เขาเกือบจะฆ่าก็คือพ่อของเขาเอง นั่นเป็นสิ่งที่ศาลนักรบตัดสินไว้ให้ชดใช้สิ่งนี้ถึงชีวิต



….......................

    “...ขอสดุดีแด่พระเจ้าของเรานักรบแห่งมวลมนุษยชาติ ในพระนามแห่งพระองค์ เราจะแพ้ไม่ได้ แม้ร่างกายเราจะสูญสิ้นบนแผ่นดินแห่งสรรพชีวิต ก็ขอให้กองทัพของพวกเราได้รับชัยชนะ เพื่อกอบกู้อาณาจักรทั้งหลายแห่งมนุษย์กลับส่สันติสุขปราศจากอสูรร้ายอีกตลอดอนันตกาล...”


    ไม่ว่าจะใกล้หน้ามืดเต็มทีเพราะงานหนักหรืออากาศร้อนก็ตาม อยู่ดีๆ ซาโก้ก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเอ่ยถ้อยคำอันคุ้นเคย ถ้อยคำเหล่านี้คือคำสวดสรรเสริญพระเจ้าที่บันทึกไว้ในวิหารแห่งอาณาจักรอาเดเซซูทางตอนกลางของโลก อันเป็นอาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์โลก นับตั้งแต่มนุษย์สามารถต่อสู้ปลดแอกตนเองจากกองทัพอสูรอันปกครองโลกมานานเป็นร้อยปีในช่วงแรกของเผ่าพันธุ์มนุษย์

    คำสวดโบราณนี้เป็นคำสวดที่ ซาโก้ ไวทอน ท่องจำได้ขึ้นใจตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนในสถาบันอาราเมอิสต์ สถาบันนักรบที่โด่งดังที่สุดในอาณาจักรทูรูส อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ทางตอนกลางของโลก ซึ่งที่ตั้งนั้นคาบเกี่ยวกับอาณาจักรโบราณอาเดเซซูอยู่ส่วนหนึ่งในฝั่งตะวันออก หนุ่มน้อยซาโก้เกิดในตระกูลของนักรบนามว่าไวทอน มีความเชื่อว่าเป็นตระกูลที่ได้สืบสายเลือดมาจากเทพไวทอริเอล "เทพ" เป็นคำเรียกนักรบที่พระเจ้าส่งมาจากแดนสวรรค์เพื่อช่วยมนุษย์โลกต่อสู้กับอสูร ตามตำนานแล้ว เทพมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับมนุษย์ทุกประการแต่จะมีผมบนศีรษะเป็นสีแดงโลหิต ว่ากันว่าลักษณะของเทพที่สำคัญนี้ไม่สามารถสืบทอดทางพันธุกรรมได้ง่ายๆ มีเพียงพลกำลังและความสามารถในด้านการต่อสู้ที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปเท่านั้นที่ส่งต่อไปสู่ลูกหลานที่เป็นมนุษย์

    อย่างไรก็ตาม ซาโก้ เกิดมามีผมสีแดงสดราวกับทาด้วยเลือด แม้ว่าคิ้วของเขาจะเป็นสีดำเหมือนกับชาวทูรูสทั่วไป หากจะนับย้อนไปในตระกูลจนถึงท่านไวทอริเอลก็นับได้เป็นหลายร้อยปี ในตระกูลไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวที่มีผมเป็นสีนี้ ส่วนใหญ่ตระกูลไวทอนจะมีผมและดวงตาสีดำ
    ถึงเรื่องสีผมของเขาจะเป็นเรื่องแปลก แต่ก็ไม่ได้แปลกมาก เพราะแท้จริงแล้วผู้สืบเชื้อสายในตระกูลนักรบมีบางคนเหมือนกันที่ได้รับพันธุกรรมผมสีนี้มา หนึ่งในร้อยของตระกูลก็ว่าได้ แล้วเรื่องแปลกที่ว่านี้กลายเป็นเรื่องที่ดีสำหรับซาโก้ กล่าวคือมีตำนานในอาณาจักรที่กล่าวว่า หากผู้ใดเกิดมามีผมบนศีรษะเป็นสีแดงเหมือนกับศีรษะเทพ ผู้นั้นเป็นวิญญาณบริสุทธิ์แห่งเทพสักองค์จากแดนสวรรค์ ที่พระเจ้าได้ส่งมาเกิดรับร่างกายเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ในการต่อสู้กับอสูรร้าย

    อาณาจักรทูรูสเป็นอาณาจักรที่มีความเชื่อในตำนานและศาสตร์แห่งเวทมนตร์ความลี้ลับ นักรบแห่งทูรูสใช้ศาสตร์นี้ประกอบในตำราการรบมาเป็นร้อยปี มีบันทึกไว้ว่าเป็นศาสตร์ที่สืบทอดจากเทพโดยตรง เพราะฉะนั้นนอกเหนือจากเรื่องที่เกิดมามีผมสีแดงแล้วก็ยังมีเรื่องว่า ดวงชะตาการเกิดของซาโก้ก็มีความพิเศษอย่างมากมาย


    วันที่ซาโก้เกิดเป็นช่วงที่ภูเขาไฟกัลก๊อคปะทุขึ้นพอดี เป็นข่าวดังไปทั้งอาณาจักรจนต้องให้ประชาชนแถบเมืองรอบภูเขาไฟอพยพหนี ชื่อของซาโก้ในภาษาท้องถิ่นทูรูสแปลว่าลาวา ภูเขาไฟกัลก๊อคนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เดิมเป็นอาณาจักรอาเดเซซู จากการคำนวนของนักธรณีแห่งอาณาจักร กัลก๊อคไม่ใช่ภูเขาไฟที่จะปะทุในช่วงนี้เลย มีเพียงตำนานเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับยอดนักรบอมตะผู้ถูกจองจำในภูเขาไฟว่าพระเจ้าได้จองจำนักรบเทพผู้นี้ไว้หนึ่งร้อยปี เมื่อครบกำหนดร้อยปี อันตรงกับปีแห่งมนุษย์ที่ 1461

    อันที่จริงถ้าจะกล่าวถึงกำเนิดของซาโก้ ไวทอน ก็จะมีเรื่องราวพิสดารที่เขาได้ยินผู้ใหญ่เล่าให้ฟังอยู่หลายเรื่อง อันที่จริงบิดาของซาโก้นามว่า บิลโล ไวทอน เป็นลูกชายคนที่สี่ของเจ้าตระกูลคนปัจจุบันในตอนนั้น ทั้งตระกูลมีลำดับผู้สืบทอดตระกูลมากมายจนไม่เหลืออันดับให้กับซาโก้เลย แต่ดวงชะตาการเกิดนั้นกลับส่งผลให้ซาโก้มีความสำคัญขึ้นมาในอันดับต้นของตระกูลเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่อาจารย์โอลิมปัส โอลิม ศิษย์พี่ของบิลโล ที่บิลโลได้ฝากฝังซาโก้เป็นลูกศิษย์ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์มารดา

    โอลิมปัสเป็นคนแรกที่กล่าวว่าเด็กในท้องจะเกิดเป็นเด็กชาย เขากล่าวว่าในคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก มีชายผู้หนึ่งร่างกายใหญ่โต สวมชุดนักรบโบราณที่ทำด้วยหนังสัตว์และมีเกราะเหล็ก เขาเดินฝ่าฝนมาที่ประตูบ้านของโอลิมปัสบนภูเขาฟิลอค ตามปกติไม่มีใครขึ้นมาบนภูเขาฟิลอคได้โดยง่าย เพราะภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยป่าไม้ ยิ่งในยามฝนตกพื้นดินลื่น ยากที่มนุษย์ธรรมดาจะขึ้นมาได้ แม้แต่นักรบนักสู้ที่มีฝีมือยังลำบากจนว่าไม่จำเป็นจริงๆ คงไม่ขึ้นไปอย่างแน่นอน ชายคนดังกล่าวมีผมบนศีรษะเป็นสีแดง โอลิมปัสมองแล้วคิดว่าชายผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์ ชายผู้นี้เมื่อเขาเชิญเข้ามาในบ้าน ก็นั่งคุกเข่าอยู่เพียงห้องหน้าประตูบ้าน และกล่าวขอร้องให้โอลิมปัสรับเขาเป็นศิษย์

.............
(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่