THE TALENT
จอมคนจุติสวรรค์พันธุ์นักรบ
ศึกแรก ปฐมบทแห่งการพบกันของนักรบผู้ยิ่งใหญ่
บทที่ 7 : บนกำแพงเมืองอคาเดีย
สงครามหรือการรบคือความรุนแรงและความตาย ไม่ว่า พระเจ้า เทพ อสูร หรือมนุษย์ย่อมรู้ดี แต่ก็ยังมีสงครามเกิดขึ้นทุกที่บนโลก ไม่ว่าผู้ก่อสงครามจะเป็นเทพ อสูร หรือมนุษย์ สงครามก็เป็นผู้ทำลายอันยิ่งใหญ่ มีอำนาจมหาศาลในการทำให้ทุกสิ่งสลายกลายเป็นฝุ่นธุลี
ชายหนุ่มผมแดงทั้งห้าคนล้วนมาจากอาณาจักรผู้ก่อสงครามนับไม่ถ้วน อาณาจักรทูรูสเป็นมหาอำนาจทางการรบและมีปริมาณนักรบชั้นสูงจำนวนมาก พวกเขาทั้งห้าคนผ่านการอบรมมาจากสถาบันการรบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอาณาจักร ผ่านการสั่งสอนจากอาจารย์ด้านการต่อสู้ผู้เก่งกาจ ผ่านการเหยียบย่างเข้าสมรภูมิรบแท้จริงมาแล้ว พวกเขาเป็นหนุ่มวัยรุ่นอายุสิบเจ็ด สิบแปด กันเท่านั้น แต่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์นั้นผ่านความเป็นความตาย และใช้ชีวิตอยู่กับความรุนแรงอย่างเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิต
เหตุผลหลายๆ อย่างที่สหายจากทูรูสของซาโก้ ไม่ยอมทำพิธีแสดงความจงรักภักดีต่อองค์ราชินีทีอาร่า แห่งอคาเดีย หนึ่งในเหตุผลนั้นคือพวกเขายังเป็นนักรบจากอาณาจักรทูรูส พวกเขาจึงอยู่ในระดับเดียวกับนักรบรับจ้าง ทั้งหมดอาศัยอยู่ในเขตของนักรบรับจ้าง นอนในเต้นท์ และฝึกฝนทุกวันพร้อมกับนักรบรับจ้าง
ซาโก้เพิ่งได้ถอดเฝือกที่รักษาแขนของเขาออก ร่างกายฟื้นคืนกลับมาเต็มร้อยเพียงเวลาสัปดาห์เดียว ตามความสามารถของร่างกายนักรบ เช่นเดียวกับคาดัส กิเอมุน ที่สภาพร่างกายบาดเจ็บมากที่สุด แต่ก็ฟื้นคืนมาเต็มที่ในเวลาเท่าๆ กัน มีเพียงแผลเป็นบนหน้าผากเหนือคิ้ว ที่โดนคมดาบของอสูร เหมือนจะไม่ลึกแต่กลายเป็นแผลที่อยู่ทนบนร่างกายของคาดัสมากที่สุดเพียงรอยเดียว
“อย่างน้อยสัญลักษณ์นี้ก็จะติดตัวเพื่อเตือนข้า ไม่ให้พลาดพลั้งต่ออสูรอีก" คาดัสกล่าว
“ท่านนี่ก็ฟื้นตัวได้เร็วพอกันเลยนะ น่าแปลกจริงๆ นะ ที่นักรบอย่างพวกเราร่างกายฟื้นเร็วขนาดนี้ ข้าตอนแรกข้าอยู่ที่บอกซ์โดว์ก็ไม่เคยรู้ถึงความแตกต่างนี้ พวกเราทุกคนก็ฟื้นตัวประมาณนี้ แต่พออยู่กับเพื่อนๆ ที่โดโบร่า กระดูกแตกแบบนี้ซักสามถึงสี่สัปดาห์ถึงถอดเฝือกได้ ไอ้สายเลือดนักรบที่ว่านี้ก็พอๆ กับอสูรเลยนะ" ซาโก้มองแขนที่ขาวซีดไปเพราะอยู่ในเฝือกมานาน
“พวกนักรบแท้ๆ สืบเชื้อสายมาจากเทพ ถึงได้พลังมหาศาลแบบนี้มา" อารอน หมอชรากล่าวขึ้น
“จริงเหรอ... ข้านึกว่ามีแต่พวกข้าที่เป็นตระกูลชื่อเทพเท่านั้นเสียอีก เออ จริงๆ เชื้อสายนักรบคือมาจากเทพเท่านั้นเหรอเนี่ย" ซาโก้เกาหัว
“มันมีหลายๆ อย่าง ถ้าต้องอธิบายเรื่องเชื้อชาติที่ข้าได้ศึกษามา ก็คงต้องเล่ากันยาวอยู่" อารอนเก็บอุปกรณ์แพทย์
“ท่านหมอทำการวิจัยหลายๆ อย่าง ถ้าเจ้าอยากได้ความรู้ก็มาคุยกับท่านหมอก็ได้นะ" เจนนิเฟอร์พูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ ข้าเป็นพวกโง่เรื่องทฤษฎีน่ะครับ หัวทึบอย่างนี้ ท่านหมอรำคาญแย่เลย" ซาโก้ยิ้มแห้งๆ
“เจ้านี่นะหัวทึบ จริงๆ ก็ฉลาดอย่างกับกรด แต่ทำตัวทื่อมากกว่า" นาโอซิสที่มานั่งให้เจนนิเฟอร์ทำแผลให้เพราะมีแผลจากการฝึกซ้อมพูดขึ้น
“พูดน้อยๆ หน่อย นาโอซิส แล้วนี่แกล้งสำออยมาให้พี่เจนนี่ทำแผลให้ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะเว้ย" ซาโก้แซว
“พูดเบาๆ กันหน่อยพวกเจ้านี่.... เอ้า...เจนนิเฟอร์ เจ้าบอกว่าจะให้ข้าปรุงยาบำรุงที่เจ้ากินตอนท้องเจ้าเฟรโด้ นี่ปรุงเสร็จแล้ว" หมออารอนส่งขวดโหลขวดหนึ่งทำท่ายื่นให้หญิงสาว
“คาดัส ข้าฝากเจ้าเอาไป.... หน่อยสิ" เจนนิเฟอร์หันมาทางคาดัสที่กำลังสวมเสื้อผ้าหลังจากถอดเฝือกออกจากร่างทั้งหมด
“เอ่อ...ครับ ท่านพี่" คาดัสเดินไปรับขวดโหลจากแพทย์สูงอายุ เขาโค้งขอบคุณครั้งหนึ่ง
“ฮึ... มาทำลับลมคมในอะไร ข้ารู้นะคาดัส ไปๆ รีบๆ ไป ช่วงนี้เมียเจ้าเริ่มแพ้ท้องหนักแล้ว ยาพวกนี้ช่วยได้ดีนัก" อารอนขยับแว่นเล็กๆ บนใบหน้า จ้องชายหนุ่มอย่างรู้ทัน
ซาโก้หัวเราะขณะที่คาดัสท่าทางรีบร้อนออกไปจากบ้านพักของท่านหมออารอน นาโอซิสทำหน้างงๆ อยู่คนเดียว ซาโก้ขอออกไปอาละวาดฝึกให้สมกับที่ได้ถอดเฝือกอันน่ารำคาญออกเสียที และพลองประจำตัวของเขาก็กำลังรอให้นายเก่านำไปใช้เสียที เมื่อแขนซ้ายข้างถนัดใช้การไม่ได้ ซาโก้ก็ไม่สามารถใช้พลองได้อย่างเต็มที่
…...............
…........
THE TALENT บทที่ 7 : บนกำแพงเมืองอคาเดีย
จอมคนจุติสวรรค์พันธุ์นักรบ
ศึกแรก ปฐมบทแห่งการพบกันของนักรบผู้ยิ่งใหญ่
บทที่ 7 : บนกำแพงเมืองอคาเดีย
สงครามหรือการรบคือความรุนแรงและความตาย ไม่ว่า พระเจ้า เทพ อสูร หรือมนุษย์ย่อมรู้ดี แต่ก็ยังมีสงครามเกิดขึ้นทุกที่บนโลก ไม่ว่าผู้ก่อสงครามจะเป็นเทพ อสูร หรือมนุษย์ สงครามก็เป็นผู้ทำลายอันยิ่งใหญ่ มีอำนาจมหาศาลในการทำให้ทุกสิ่งสลายกลายเป็นฝุ่นธุลี
ชายหนุ่มผมแดงทั้งห้าคนล้วนมาจากอาณาจักรผู้ก่อสงครามนับไม่ถ้วน อาณาจักรทูรูสเป็นมหาอำนาจทางการรบและมีปริมาณนักรบชั้นสูงจำนวนมาก พวกเขาทั้งห้าคนผ่านการอบรมมาจากสถาบันการรบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอาณาจักร ผ่านการสั่งสอนจากอาจารย์ด้านการต่อสู้ผู้เก่งกาจ ผ่านการเหยียบย่างเข้าสมรภูมิรบแท้จริงมาแล้ว พวกเขาเป็นหนุ่มวัยรุ่นอายุสิบเจ็ด สิบแปด กันเท่านั้น แต่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์นั้นผ่านความเป็นความตาย และใช้ชีวิตอยู่กับความรุนแรงอย่างเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิต
เหตุผลหลายๆ อย่างที่สหายจากทูรูสของซาโก้ ไม่ยอมทำพิธีแสดงความจงรักภักดีต่อองค์ราชินีทีอาร่า แห่งอคาเดีย หนึ่งในเหตุผลนั้นคือพวกเขายังเป็นนักรบจากอาณาจักรทูรูส พวกเขาจึงอยู่ในระดับเดียวกับนักรบรับจ้าง ทั้งหมดอาศัยอยู่ในเขตของนักรบรับจ้าง นอนในเต้นท์ และฝึกฝนทุกวันพร้อมกับนักรบรับจ้าง
ซาโก้เพิ่งได้ถอดเฝือกที่รักษาแขนของเขาออก ร่างกายฟื้นคืนกลับมาเต็มร้อยเพียงเวลาสัปดาห์เดียว ตามความสามารถของร่างกายนักรบ เช่นเดียวกับคาดัส กิเอมุน ที่สภาพร่างกายบาดเจ็บมากที่สุด แต่ก็ฟื้นคืนมาเต็มที่ในเวลาเท่าๆ กัน มีเพียงแผลเป็นบนหน้าผากเหนือคิ้ว ที่โดนคมดาบของอสูร เหมือนจะไม่ลึกแต่กลายเป็นแผลที่อยู่ทนบนร่างกายของคาดัสมากที่สุดเพียงรอยเดียว
“อย่างน้อยสัญลักษณ์นี้ก็จะติดตัวเพื่อเตือนข้า ไม่ให้พลาดพลั้งต่ออสูรอีก" คาดัสกล่าว
“ท่านนี่ก็ฟื้นตัวได้เร็วพอกันเลยนะ น่าแปลกจริงๆ นะ ที่นักรบอย่างพวกเราร่างกายฟื้นเร็วขนาดนี้ ข้าตอนแรกข้าอยู่ที่บอกซ์โดว์ก็ไม่เคยรู้ถึงความแตกต่างนี้ พวกเราทุกคนก็ฟื้นตัวประมาณนี้ แต่พออยู่กับเพื่อนๆ ที่โดโบร่า กระดูกแตกแบบนี้ซักสามถึงสี่สัปดาห์ถึงถอดเฝือกได้ ไอ้สายเลือดนักรบที่ว่านี้ก็พอๆ กับอสูรเลยนะ" ซาโก้มองแขนที่ขาวซีดไปเพราะอยู่ในเฝือกมานาน
“พวกนักรบแท้ๆ สืบเชื้อสายมาจากเทพ ถึงได้พลังมหาศาลแบบนี้มา" อารอน หมอชรากล่าวขึ้น
“จริงเหรอ... ข้านึกว่ามีแต่พวกข้าที่เป็นตระกูลชื่อเทพเท่านั้นเสียอีก เออ จริงๆ เชื้อสายนักรบคือมาจากเทพเท่านั้นเหรอเนี่ย" ซาโก้เกาหัว
“มันมีหลายๆ อย่าง ถ้าต้องอธิบายเรื่องเชื้อชาติที่ข้าได้ศึกษามา ก็คงต้องเล่ากันยาวอยู่" อารอนเก็บอุปกรณ์แพทย์
“ท่านหมอทำการวิจัยหลายๆ อย่าง ถ้าเจ้าอยากได้ความรู้ก็มาคุยกับท่านหมอก็ได้นะ" เจนนิเฟอร์พูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ ข้าเป็นพวกโง่เรื่องทฤษฎีน่ะครับ หัวทึบอย่างนี้ ท่านหมอรำคาญแย่เลย" ซาโก้ยิ้มแห้งๆ
“เจ้านี่นะหัวทึบ จริงๆ ก็ฉลาดอย่างกับกรด แต่ทำตัวทื่อมากกว่า" นาโอซิสที่มานั่งให้เจนนิเฟอร์ทำแผลให้เพราะมีแผลจากการฝึกซ้อมพูดขึ้น
“พูดน้อยๆ หน่อย นาโอซิส แล้วนี่แกล้งสำออยมาให้พี่เจนนี่ทำแผลให้ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะเว้ย" ซาโก้แซว
“พูดเบาๆ กันหน่อยพวกเจ้านี่.... เอ้า...เจนนิเฟอร์ เจ้าบอกว่าจะให้ข้าปรุงยาบำรุงที่เจ้ากินตอนท้องเจ้าเฟรโด้ นี่ปรุงเสร็จแล้ว" หมออารอนส่งขวดโหลขวดหนึ่งทำท่ายื่นให้หญิงสาว
“คาดัส ข้าฝากเจ้าเอาไป.... หน่อยสิ" เจนนิเฟอร์หันมาทางคาดัสที่กำลังสวมเสื้อผ้าหลังจากถอดเฝือกออกจากร่างทั้งหมด
“เอ่อ...ครับ ท่านพี่" คาดัสเดินไปรับขวดโหลจากแพทย์สูงอายุ เขาโค้งขอบคุณครั้งหนึ่ง
“ฮึ... มาทำลับลมคมในอะไร ข้ารู้นะคาดัส ไปๆ รีบๆ ไป ช่วงนี้เมียเจ้าเริ่มแพ้ท้องหนักแล้ว ยาพวกนี้ช่วยได้ดีนัก" อารอนขยับแว่นเล็กๆ บนใบหน้า จ้องชายหนุ่มอย่างรู้ทัน
ซาโก้หัวเราะขณะที่คาดัสท่าทางรีบร้อนออกไปจากบ้านพักของท่านหมออารอน นาโอซิสทำหน้างงๆ อยู่คนเดียว ซาโก้ขอออกไปอาละวาดฝึกให้สมกับที่ได้ถอดเฝือกอันน่ารำคาญออกเสียที และพลองประจำตัวของเขาก็กำลังรอให้นายเก่านำไปใช้เสียที เมื่อแขนซ้ายข้างถนัดใช้การไม่ได้ ซาโก้ก็ไม่สามารถใช้พลองได้อย่างเต็มที่
…...............
…........