วันนี้เราจะมาไขปริศนาของคำว่า "สวรรค์ชั้นเจ็ด" กัน หลายคนมักได้ยินคำว่า "สุขยิ่งกว่าสวรรค์ชั้นเจ็ด" แล้วสวรรค์ชั้นเจ็ด มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎกมั้ย? แล้วชั้นที่เจ็ดนั้น สูงสุดจริงมั้ย? โลเคชั่นเป็นยังไง? และมีชื่อว่าอะไร? เทวดานางฟ้าหล่อสวยมั้ย? เรามาหาคำตอบด้วยกันนะครับ...
สวรรค์
สวรรค์ เป็นภพภูมิในคติของศาสนาต่างๆ ที่เหล่าสามัญชนอย่างพวกเราต่างหมายปอง เพราะเป็นภพที่สุขสบาย กลายเป็นเทวดา รอบกายมีแสงออร่าสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา เหมาะสำหรับคนปารถนาอยากหล่อแบบเอ็ดเวิร์ด คัลเลน มีนางฟ้าสวยๆมากมาย ส่วนผู้หญิงก็อยากเป็นนางฟ้าสวยหยาดมาดิน มีเทวดาหล่อๆมากมาย แต่ละวันที่อยู่บนสวรรค์ก็จะมีการเข้าร่วมสังสรรค์ปาร์ตี้เหล่าชาวสวรรค์ ร้องรำทำเพลงกันสนุกไปเลย มีวิมานสวยหรูกว่าพารากอน อยู่เป็นสุขไปตลอดอายุขัย...
แต่ถ้าเราขึ้นสวรรค์กันได้ง่ายๆ อยุธยาคงสิ้นคนดี เราต้องสั่งสมบุญกุศลให้เยอะๆ มากๆ เข้าไว้ แล้วฟ้ามีตาจะเห็นเราเอง อย่าทำชั่วเพราะคิดว่าบาปน้อย อย่าทำบุญเพราะคิดว่าได้บุญน้อยนะจ๊ะ (เปาบุ้นจิ้น ฝากมา...)
ตำนานสวรรค์ทุกชั้น ได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 37 เรื่อง ทานสูตร สรุปย่อได้ดังนี้...
- จาตุมหาราชิกา คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ทำบุญไม่ค่อยเป็น ไม่รู้หลักการทำบุญ และไม่ค่อยได้สั่งสม บุญ นานๆ ทำครั้งหนึ่ง เมื่อทำก็ทำน้อย หรือ ทำบุญเอาคุณ บุญที่ได้ก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่สมบูรณ์ บาปในตัวก็มีอยู่ แต่ว่าบุญมากกว่า เมื่อละโลกใจนึกถึงบุญก่อนก็ไปสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เชิงเขาสิเนรุ สวรรค์ชั้นนี้จะมีความหลากหลายมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้ชิดกับพื้นมนุษย์มากกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ และมีบางส่วนที่มีที่อยู่ซ้อนกับภูมิมนุษย์ ที่ได้ชื่อสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา เพราะมีเทพผู้เป็นใหญ่ครองสวรรค์ชั้นนี้อยู่ 4 ท่าน คือ ท้าวธตรฐ ปกครองเทวดา 3 พวก ได้แก่ คนธรรพ์ วิทยาธร(พิทยาธร) กุมภัณฑ์ ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกครุฑ ท้าววิรูปักษ์ ปกครองพวกนาค ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองพวกยักษ์...
- ดาวดึงส์ คือเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งดีงาม เป็นสิ่งที่ควรทำ กระทำแล้วก็สั่งสมบุญ สั่งสมเทวธรรม มีหิริ โอตตัปปะด้วย เมื่อละโลกก็จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าตัดของเขาพระสิเนรุ ที่ชื่อว่า ดาวดึงส์ เพราะเป็นที่อยู่ของเทพผู้ปกครองภพถึง 33 องค์ โดยมี สมเด็จอมรินทราธิราช หรือพระอินทร์ เป็นประธาน และที่สำคัญมีพระธาตุจุฬามณี ซึ่งทุกวันพระเทวดาจะมาประชุมกันที่สุธรรมาเทวสภา เพื่อรับฟังโอวาทจากท้าวสักกะ...
- ยามา เกิดบนสวรรค์ชั้นยามา คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะอยากจะสืบทอดและรักษาประเพณีแห่งความดีงามนั้นไว้ ทำนองว่าวงศ์ตระกูลสร้างสมความดีมาอย่างไร ก็อยากจะรักษาประเพณีไว้ หรือผู้หลักผู้ใหญ่สอนอย่างไร บรรพบุรุษทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ทำกันไปตามธรรมเนียม เช่น เห็น ปู่ย่าสร้างโบสถ์ บำรุงวัด สร้างพระประธาน ก็ทำตามนั้นด้วย หรือพระภิกษุที่รักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ที่พระต้องมีหน้าที่รักษาพระพุทธศาสนา เมื่อละโลกแล้ว ส่วนใหญ่จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขึ้นไป...
-ดุสิต คือ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ทำบุญเพื่อปรารถนาสงเคราะห์โลก ปรารถนาให้ชาวโลกมีความสุข มีความคิดที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อตนเองอย่างเดียว แต่เพื่อสงเคราะห์โลก เพื่อนมนุษย์ และสรรพ-สัตว์ทั้งหลายด้วย เมื่อละโลกแล้วก็จะไปสวรรค์ ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงถัดจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป...
- นิมมานรดี คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ให้ทานโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่มีจิตใจผูกพันในผลแห่งทานแล้วให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ให้ทานเพราะมีความสุขในการให้ ให้ทานด้วยคิดว่า "เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เช่นเดียวกับท่านฤาษี ทั้งหลายคือ ท่านอัฏฐกฤาษี ท่าวามกฤาษี ท่านวาม เทวฤาษี ท่านเวสสามิตรฤาษี ท่านยมทัคคฤาษี ท่านอังคีรสฤาษี ท่านภารทวาชฤาษี ท่านวาเสฏฐฤาษี ท่านกัสสปฤาษี ท่านภคุฤาษี" เขาผู้นั้น ให้ทานด้วยอาการอย่างนี้แล้ว เมื่อทำ กาลกิริยาตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาทั้งหลาย ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี...
- ปรนิมมิตวสวัตดี คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญด้วยความเลื่อมใส เคารพในทาน ทำแล้วมีความรู้สึกปลื้มใจ ในบุญที่ทำนั้น เมื่อละโลกแล้วจะบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นนิมมานรดีขึ้นไป...
ซึ่งสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น จะสามารถทำเป็นแผนภาพได้ดังนี้...
แล้วชั้นที่เจ็ดคืออะไร...
จริงๆแล้วชั้นที่เจ็ด ไม่มีจริง!!
สวรรค์ชั้นเจ็ด เป็นสวรรค์ที่ไม่มีในบันทึกฉบับไหนๆ เป็นชั้นที่คนเราตั้งมันขึ้นมาเอง แปลว่า สุขมาก โคตรสุข มีความสุขสุดๆ โคตรฟิน หรืออะไรทำนองนี้ ซึ่งเพราะมีเหตุการณ์ต่างๆมาทำให้เราสุข เช่น ได้แฟนสวย ได้รถใหม่ บ้านหลังสวย ทำนองนี้...Sweet Jesus...อาห์...
สุดท้ายที่จะฝากนิดหน่อยคือ
อย่าลืมว่าชีวิตเรามีสุข ก็ย่อมมีทุกข์ด้วย เป็นธรรมดาของชีวิต อย่าไปถือสาอะไร
เรื่องน่ารู้ (ที่ควรรู้ไว้ก็ดี) ตอน สวรรค์ชั้นเจ็ดที่แท้จริง
วันนี้เราจะมาไขปริศนาของคำว่า "สวรรค์ชั้นเจ็ด" กัน หลายคนมักได้ยินคำว่า "สุขยิ่งกว่าสวรรค์ชั้นเจ็ด" แล้วสวรรค์ชั้นเจ็ด มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎกมั้ย? แล้วชั้นที่เจ็ดนั้น สูงสุดจริงมั้ย? โลเคชั่นเป็นยังไง? และมีชื่อว่าอะไร? เทวดานางฟ้าหล่อสวยมั้ย? เรามาหาคำตอบด้วยกันนะครับ...
สวรรค์
สวรรค์ เป็นภพภูมิในคติของศาสนาต่างๆ ที่เหล่าสามัญชนอย่างพวกเราต่างหมายปอง เพราะเป็นภพที่สุขสบาย กลายเป็นเทวดา รอบกายมีแสงออร่าสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา เหมาะสำหรับคนปารถนาอยากหล่อแบบเอ็ดเวิร์ด คัลเลน มีนางฟ้าสวยๆมากมาย ส่วนผู้หญิงก็อยากเป็นนางฟ้าสวยหยาดมาดิน มีเทวดาหล่อๆมากมาย แต่ละวันที่อยู่บนสวรรค์ก็จะมีการเข้าร่วมสังสรรค์ปาร์ตี้เหล่าชาวสวรรค์ ร้องรำทำเพลงกันสนุกไปเลย มีวิมานสวยหรูกว่าพารากอน อยู่เป็นสุขไปตลอดอายุขัย...
แต่ถ้าเราขึ้นสวรรค์กันได้ง่ายๆ อยุธยาคงสิ้นคนดี เราต้องสั่งสมบุญกุศลให้เยอะๆ มากๆ เข้าไว้ แล้วฟ้ามีตาจะเห็นเราเอง อย่าทำชั่วเพราะคิดว่าบาปน้อย อย่าทำบุญเพราะคิดว่าได้บุญน้อยนะจ๊ะ (เปาบุ้นจิ้น ฝากมา...)
ตำนานสวรรค์ทุกชั้น ได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 37 เรื่อง ทานสูตร สรุปย่อได้ดังนี้...
- จาตุมหาราชิกา คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ทำบุญไม่ค่อยเป็น ไม่รู้หลักการทำบุญ และไม่ค่อยได้สั่งสม บุญ นานๆ ทำครั้งหนึ่ง เมื่อทำก็ทำน้อย หรือ ทำบุญเอาคุณ บุญที่ได้ก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่สมบูรณ์ บาปในตัวก็มีอยู่ แต่ว่าบุญมากกว่า เมื่อละโลกใจนึกถึงบุญก่อนก็ไปสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เชิงเขาสิเนรุ สวรรค์ชั้นนี้จะมีความหลากหลายมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้ชิดกับพื้นมนุษย์มากกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ และมีบางส่วนที่มีที่อยู่ซ้อนกับภูมิมนุษย์ ที่ได้ชื่อสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา เพราะมีเทพผู้เป็นใหญ่ครองสวรรค์ชั้นนี้อยู่ 4 ท่าน คือ ท้าวธตรฐ ปกครองเทวดา 3 พวก ได้แก่ คนธรรพ์ วิทยาธร(พิทยาธร) กุมภัณฑ์ ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกครุฑ ท้าววิรูปักษ์ ปกครองพวกนาค ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองพวกยักษ์...
- ดาวดึงส์ คือเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งดีงาม เป็นสิ่งที่ควรทำ กระทำแล้วก็สั่งสมบุญ สั่งสมเทวธรรม มีหิริ โอตตัปปะด้วย เมื่อละโลกก็จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าตัดของเขาพระสิเนรุ ที่ชื่อว่า ดาวดึงส์ เพราะเป็นที่อยู่ของเทพผู้ปกครองภพถึง 33 องค์ โดยมี สมเด็จอมรินทราธิราช หรือพระอินทร์ เป็นประธาน และที่สำคัญมีพระธาตุจุฬามณี ซึ่งทุกวันพระเทวดาจะมาประชุมกันที่สุธรรมาเทวสภา เพื่อรับฟังโอวาทจากท้าวสักกะ...
- ยามา เกิดบนสวรรค์ชั้นยามา คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะอยากจะสืบทอดและรักษาประเพณีแห่งความดีงามนั้นไว้ ทำนองว่าวงศ์ตระกูลสร้างสมความดีมาอย่างไร ก็อยากจะรักษาประเพณีไว้ หรือผู้หลักผู้ใหญ่สอนอย่างไร บรรพบุรุษทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ทำกันไปตามธรรมเนียม เช่น เห็น ปู่ย่าสร้างโบสถ์ บำรุงวัด สร้างพระประธาน ก็ทำตามนั้นด้วย หรือพระภิกษุที่รักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ที่พระต้องมีหน้าที่รักษาพระพุทธศาสนา เมื่อละโลกแล้ว ส่วนใหญ่จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขึ้นไป...
-ดุสิต คือ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ทำบุญเพื่อปรารถนาสงเคราะห์โลก ปรารถนาให้ชาวโลกมีความสุข มีความคิดที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อตนเองอย่างเดียว แต่เพื่อสงเคราะห์โลก เพื่อนมนุษย์ และสรรพ-สัตว์ทั้งหลายด้วย เมื่อละโลกแล้วก็จะไปสวรรค์ ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงถัดจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป...
- นิมมานรดี คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ให้ทานโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่มีจิตใจผูกพันในผลแห่งทานแล้วให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ให้ทานเพราะมีความสุขในการให้ ให้ทานด้วยคิดว่า "เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เช่นเดียวกับท่านฤาษี ทั้งหลายคือ ท่านอัฏฐกฤาษี ท่าวามกฤาษี ท่านวาม เทวฤาษี ท่านเวสสามิตรฤาษี ท่านยมทัคคฤาษี ท่านอังคีรสฤาษี ท่านภารทวาชฤาษี ท่านวาเสฏฐฤาษี ท่านกัสสปฤาษี ท่านภคุฤาษี" เขาผู้นั้น ให้ทานด้วยอาการอย่างนี้แล้ว เมื่อทำ กาลกิริยาตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาทั้งหลาย ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี...
- ปรนิมมิตวสวัตดี คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญด้วยความเลื่อมใส เคารพในทาน ทำแล้วมีความรู้สึกปลื้มใจ ในบุญที่ทำนั้น เมื่อละโลกแล้วจะบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นนิมมานรดีขึ้นไป...
ซึ่งสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น จะสามารถทำเป็นแผนภาพได้ดังนี้...
แล้วชั้นที่เจ็ดคืออะไร...
จริงๆแล้วชั้นที่เจ็ด ไม่มีจริง!!
สวรรค์ชั้นเจ็ด เป็นสวรรค์ที่ไม่มีในบันทึกฉบับไหนๆ เป็นชั้นที่คนเราตั้งมันขึ้นมาเอง แปลว่า สุขมาก โคตรสุข มีความสุขสุดๆ โคตรฟิน หรืออะไรทำนองนี้ ซึ่งเพราะมีเหตุการณ์ต่างๆมาทำให้เราสุข เช่น ได้แฟนสวย ได้รถใหม่ บ้านหลังสวย ทำนองนี้...Sweet Jesus...อาห์...
สุดท้ายที่จะฝากนิดหน่อยคือ อย่าลืมว่าชีวิตเรามีสุข ก็ย่อมมีทุกข์ด้วย เป็นธรรมดาของชีวิต อย่าไปถือสาอะไร