คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ขึ้นอยู่กับว่าบริวารของท่านไปเกิดที่ไหนกันมากครับ...ท่านก็จะอธิฐานจิตไปจุติในชั้นนั้น
การจะไปเกิดในสวรรค์ชั้นใด...พรหมโลกชั้นใด....สำหรับผู้มีภูมิจิตภูมิธรรมสูงๆ ท่านเลือกเกิดได้ครับ....เพราะความละเอียดของจิตใจท่านสูงกว่าชั้นภูมินั้นๆ ท่านก็ไปจุติเป็นเทพในชั้นนั้นได้....คือไปเกิดในชั้นภูมิที่หยาบกว่าความละเอียดในจิตใจที่ตนครองอยู่นั่นเอง.....(ในทางตรงข้ามกัน....หากจิตใจไม่ละเอียดพอที่จะเจือสมในชั้นภูมิที่มีความละเอียดมากกว่าจิตใจของตน ก็ไม่สามารถไปจุติได้เช่นกัน)
ดังนั้น...การที่ พระโพธิสัตว์ ซึ่งมากด้วยบารมี...มีจิตใจที่ละเอียดสูง...แต่ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตบ้าง ชั้นดาวดึงบ้าง ก็เพราะลูกศิษย์บริวารของท่านไปอยู่ในชั้นนั้นกันเสียเยอะ ด้วยความเป็นห่วงศิษย์ในปกครอง ท่านจึงตามไปเกิดในชั้นภูมินั้นเพื่อเมตตาดูแลวงศ์วานของท่าน....หากจะไปเกิดในพรหมโลกชั้นสูงตามภูมิจิตของท่าน บรรดาลูกศิษย์ที่ภูมิธรรมต่ำกว่าก็ตามไปไม่ถึง....ท่านจึงต้องลงมาจุติในสวรรค์ชั้นชั้นที่ต่ำกว่าภูมิจิตของท่านแทนครับ
ความเป็นศิษย์อาจารย์นี้มันมีความผูกพันเหนียวแน่นนะครับ.....ความเป็นศิษย์ร่วมพ่อแม่ครูบาอาจารย์เดียวกัน เป็นสหายธรรมกันมา ก็มีความผูกพันที่เหนียวแน่น.....เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน.....เป็นลูกพ่อแม่เดียวกัน.....ในทางโลกเราอาจจะนับสายสกุลกันที่ชาติกำเนิดโครตเหง้าความเป้นสายเลือดครอบครัวเดียวกัน.....แต่ในทางธรรมเรานับสายสกุลกันที่ความผูกพันเป็นศิษย์ร่วมพ่อแม่ครูบาอาจารย์เดียวกันมา....เป็นวงศ์วานของท่าน อยู่ในเมตตาของท่านร่วมกันมา
เมื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ลงมาเกิด.....เหล่าลูกศิษย์ที่บารมีถึงพร้อมก็ตามกันลงมาเกิดตามวาสนาบารมีของแต่ละองค์ท่าน..... พระโพธิสัตว์ ลงมาเกิดเพื่อตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้า...ท่านบำเพ็ญบารมีมามหาศาล....อยู่ในวัฎสงสารมายาวนาน....จึงมีลูกศิษย์ในปกครองมาก เพราะมีผู้คนมาเกี่ยวข้องกับท่านมากตามระยะเวลาที่ได้บำเพ็ญบารมีมายาวนานในวัฎสงสาร.....ดังนั้น ในพุทธกาลจึงมีคนเกิดมาบรรลุธรรมตามพระพุทธเจ้าเยอะ....เพราะได้บำเพ็ญบารมีติดตามท่านมานานเช่นกัน.....พระนางพิมพา คู่วาสนาของพระองค์ท่านก็ติดตามเป็นข้าบาทบริจาริกาของท่านมายาวนานจนถึงชาติสุดท้าย.....อัครสาวก และสาวกองค์สำคัญๆ ก็ล้วนแล้วติดตามพระองค์ท่านบำเพ็ญบารมีมายาวนานเช่นกัน....เมื่อพระองค์ท่านลงมาเกิด ผู้ที่มีบารมีเต็มเปรี่ยมร่วมกับองค์ท่านก็ลงมาเกิดพร้อมกัน ร่วมสมัยเดียวกัน บรรลุหลุดพ้นตามๆ กันไปตามวาสนาบารมีที่บำเพ็ญมา
เหมือนที่หลวงปู่มั่นท่านลงมาเกิด....บรรดาลูกศิษย์ท่านก็ลงมาเกิดตามๆ กัน....ผู้ที่มีบารมีมากก็ลงมาเกิดร่วมสมัยกับท่าน บรรลุธรรมหลุดพ้นตามท่านไป เป็นเพชรน้ำหนึ่งให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชาหลายองค์.....ส่วนที่บารมีน้อยก็ลดหลั่งกันลงมา เป็นกลุ่มเป็นก้อนตามกันลงมา ตามวาสนาบารมีของแต่ละคนเป็นรายๆ ไป
ลองพิจารณาดูครับ
การจะไปเกิดในสวรรค์ชั้นใด...พรหมโลกชั้นใด....สำหรับผู้มีภูมิจิตภูมิธรรมสูงๆ ท่านเลือกเกิดได้ครับ....เพราะความละเอียดของจิตใจท่านสูงกว่าชั้นภูมินั้นๆ ท่านก็ไปจุติเป็นเทพในชั้นนั้นได้....คือไปเกิดในชั้นภูมิที่หยาบกว่าความละเอียดในจิตใจที่ตนครองอยู่นั่นเอง.....(ในทางตรงข้ามกัน....หากจิตใจไม่ละเอียดพอที่จะเจือสมในชั้นภูมิที่มีความละเอียดมากกว่าจิตใจของตน ก็ไม่สามารถไปจุติได้เช่นกัน)
ดังนั้น...การที่ พระโพธิสัตว์ ซึ่งมากด้วยบารมี...มีจิตใจที่ละเอียดสูง...แต่ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตบ้าง ชั้นดาวดึงบ้าง ก็เพราะลูกศิษย์บริวารของท่านไปอยู่ในชั้นนั้นกันเสียเยอะ ด้วยความเป็นห่วงศิษย์ในปกครอง ท่านจึงตามไปเกิดในชั้นภูมินั้นเพื่อเมตตาดูแลวงศ์วานของท่าน....หากจะไปเกิดในพรหมโลกชั้นสูงตามภูมิจิตของท่าน บรรดาลูกศิษย์ที่ภูมิธรรมต่ำกว่าก็ตามไปไม่ถึง....ท่านจึงต้องลงมาจุติในสวรรค์ชั้นชั้นที่ต่ำกว่าภูมิจิตของท่านแทนครับ
ความเป็นศิษย์อาจารย์นี้มันมีความผูกพันเหนียวแน่นนะครับ.....ความเป็นศิษย์ร่วมพ่อแม่ครูบาอาจารย์เดียวกัน เป็นสหายธรรมกันมา ก็มีความผูกพันที่เหนียวแน่น.....เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน.....เป็นลูกพ่อแม่เดียวกัน.....ในทางโลกเราอาจจะนับสายสกุลกันที่ชาติกำเนิดโครตเหง้าความเป้นสายเลือดครอบครัวเดียวกัน.....แต่ในทางธรรมเรานับสายสกุลกันที่ความผูกพันเป็นศิษย์ร่วมพ่อแม่ครูบาอาจารย์เดียวกันมา....เป็นวงศ์วานของท่าน อยู่ในเมตตาของท่านร่วมกันมา
เมื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ลงมาเกิด.....เหล่าลูกศิษย์ที่บารมีถึงพร้อมก็ตามกันลงมาเกิดตามวาสนาบารมีของแต่ละองค์ท่าน..... พระโพธิสัตว์ ลงมาเกิดเพื่อตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้า...ท่านบำเพ็ญบารมีมามหาศาล....อยู่ในวัฎสงสารมายาวนาน....จึงมีลูกศิษย์ในปกครองมาก เพราะมีผู้คนมาเกี่ยวข้องกับท่านมากตามระยะเวลาที่ได้บำเพ็ญบารมีมายาวนานในวัฎสงสาร.....ดังนั้น ในพุทธกาลจึงมีคนเกิดมาบรรลุธรรมตามพระพุทธเจ้าเยอะ....เพราะได้บำเพ็ญบารมีติดตามท่านมานานเช่นกัน.....พระนางพิมพา คู่วาสนาของพระองค์ท่านก็ติดตามเป็นข้าบาทบริจาริกาของท่านมายาวนานจนถึงชาติสุดท้าย.....อัครสาวก และสาวกองค์สำคัญๆ ก็ล้วนแล้วติดตามพระองค์ท่านบำเพ็ญบารมีมายาวนานเช่นกัน....เมื่อพระองค์ท่านลงมาเกิด ผู้ที่มีบารมีเต็มเปรี่ยมร่วมกับองค์ท่านก็ลงมาเกิดพร้อมกัน ร่วมสมัยเดียวกัน บรรลุหลุดพ้นตามๆ กันไปตามวาสนาบารมีที่บำเพ็ญมา
เหมือนที่หลวงปู่มั่นท่านลงมาเกิด....บรรดาลูกศิษย์ท่านก็ลงมาเกิดตามๆ กัน....ผู้ที่มีบารมีมากก็ลงมาเกิดร่วมสมัยกับท่าน บรรลุธรรมหลุดพ้นตามท่านไป เป็นเพชรน้ำหนึ่งให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชาหลายองค์.....ส่วนที่บารมีน้อยก็ลดหลั่งกันลงมา เป็นกลุ่มเป็นก้อนตามกันลงมา ตามวาสนาบารมีของแต่ละคนเป็นรายๆ ไป
ลองพิจารณาดูครับ
แสดงความคิดเห็น
พระโพธิสัตว์ทำไมไม่ไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ 5 กับ 6 แต่มักไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ 4 คือดุสิต
แต่มักได้ยินว่าท่านไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ 4 คือดุสิตแทน เพราะอะไร
และเทวดากับสวรรค์ชั้นที่ 5 และ 6 เป็นอย่างไร ทำไมจึงมีการกล่าวถึงสวรรค์ชั้นนี้น้อยมาก