เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ข้อมูลล่าสุดที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (27) โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ระบุว่า พบผู้ป่วยเป็นกามโรค หรือ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รายใหม่ในสหรัฐฯ มากกว่า 19.7 ล้านคน ส่งผลให้ยอดรวมชาวอเมริกันที่ตกเป็นเหยื่อกามโรคทั่วประเทศ มีทั้งสิ้นเกือบ 110.2 ล้านคนแล้ว จากประชากร 315.6 ล้านคน หรือ คิดเป็นจำนวนเกือบ 1 ใน 3 ของประเทศ
รายงานที่มีการเก็บข้อมูลในปี 2008 ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ หรือ “ซีดีซี” ซึ่งมีฐานอยู่ในมลรัฐจอร์เจีย ระบุว่า มีผู้ป่วยกามโรครายใหม่ในเมืองลุงแซมกว่า 19.7 ล้านคน ขณะที่เมื่อรวมผู้ที่ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (ไม่นับรวมโรคเอดส์) ทั้งรายเก่าและรายใหม่เข้าด้วยกัน จะส่งผลให้สหรัฐฯมีผู้ป่วยกามโรคในประเทศทั้งสิ้นกว่า 110,197,000 ราย ซึ่งหมายความกว่า ในจำนวนชาวอเมริกันทุก 3 คนนั้น จะมีค่าเฉลี่ยเกือบ 1 คนที่เป็นกามโรค
ข้อมูลของซีดีซีระบุราว 50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งหนึ่งของผู้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์รายใหม่ในสหรัฐฯ 19.7 ล้านคน ในช่วงที่มีการเก็บข้อมูล จะมีอายุระหว่าง 15-24 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในสหรัฐฯมีพฤติกรรมทางเพศที่สุ่มเสี่ยงมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากศูนย์สถิติทางการศึกษาแห่งชาติ (เอ็นซีอีเอส) ระบุว่า ในช่วงปีการศึกษา 2007-2008 นั้น มีบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาใหม่ในระดับปริญญาตรีในสหรัฐฯทั้งสิ้น 1,524,092 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อกามโรครายใหม่ในช่วงเดียวกันตามข้อมูลของซีดีซีกลับมีถึง 19.7 ล้านคน ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อกามโรครายใหม่ต่อจำนวนบัณฑิตจบใหม่ในสหรัฐฯ มีสัดส่วนต่างกันถึงเกือบ 13 เท่า นอกจากนั้น จำนวนผู้ป่วยกามโรครายใหม่เฉพาะกลุ่มที่มีอายุ15-24 ปี ก็ยังมีสัดส่วนสูงกว่าบัณฑิตจบใหม่มากกว่า 6 เท่าตัว
ซีดีซีคาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯต้องสูญงบประมาณไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 468,280ล้านบาท) ในการเยียวยาผู้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์รายใหม่ในแต่ละปีขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อกามโรคหน้าใหม่ในสหรัฐฯอาจมีจำนวนประมาณ 20 ล้านคนต่อปี
ทั้งนี้ ข้อมูลของซีดีซีระบุว่า ชนิดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่มีชาวอเมริกันติดเชื้อใหม่มากที่สุดถึงกว่า 14.1 ล้านคน คือ หูดหงอนไก่ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูลเอชพีวี รองลงมา คือ โรคหนองในเทียม ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯราว 2.86 ล้านคน, โรคพยาธิในช่องคลอด 1.09 ล้านคน และโรคหนองในแท้ 820,000 คน
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037747
ช๊อก !! ข้อมูลระบุ คนอเมริกัน เกือบ 1 ใน 3 เป็น “กามโรค” ชี้ผู้ป่วยด้วยโรคทางเพศสัมพันธ์มีมากกว่า “บัณฑิตจบใหม่” 13 เท่า
รายงานที่มีการเก็บข้อมูลในปี 2008 ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ หรือ “ซีดีซี” ซึ่งมีฐานอยู่ในมลรัฐจอร์เจีย ระบุว่า มีผู้ป่วยกามโรครายใหม่ในเมืองลุงแซมกว่า 19.7 ล้านคน ขณะที่เมื่อรวมผู้ที่ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (ไม่นับรวมโรคเอดส์) ทั้งรายเก่าและรายใหม่เข้าด้วยกัน จะส่งผลให้สหรัฐฯมีผู้ป่วยกามโรคในประเทศทั้งสิ้นกว่า 110,197,000 ราย ซึ่งหมายความกว่า ในจำนวนชาวอเมริกันทุก 3 คนนั้น จะมีค่าเฉลี่ยเกือบ 1 คนที่เป็นกามโรค
ข้อมูลของซีดีซีระบุราว 50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งหนึ่งของผู้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์รายใหม่ในสหรัฐฯ 19.7 ล้านคน ในช่วงที่มีการเก็บข้อมูล จะมีอายุระหว่าง 15-24 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในสหรัฐฯมีพฤติกรรมทางเพศที่สุ่มเสี่ยงมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากศูนย์สถิติทางการศึกษาแห่งชาติ (เอ็นซีอีเอส) ระบุว่า ในช่วงปีการศึกษา 2007-2008 นั้น มีบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาใหม่ในระดับปริญญาตรีในสหรัฐฯทั้งสิ้น 1,524,092 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อกามโรครายใหม่ในช่วงเดียวกันตามข้อมูลของซีดีซีกลับมีถึง 19.7 ล้านคน ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อกามโรครายใหม่ต่อจำนวนบัณฑิตจบใหม่ในสหรัฐฯ มีสัดส่วนต่างกันถึงเกือบ 13 เท่า นอกจากนั้น จำนวนผู้ป่วยกามโรครายใหม่เฉพาะกลุ่มที่มีอายุ15-24 ปี ก็ยังมีสัดส่วนสูงกว่าบัณฑิตจบใหม่มากกว่า 6 เท่าตัว
ซีดีซีคาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯต้องสูญงบประมาณไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 468,280ล้านบาท) ในการเยียวยาผู้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์รายใหม่ในแต่ละปีขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อกามโรคหน้าใหม่ในสหรัฐฯอาจมีจำนวนประมาณ 20 ล้านคนต่อปี
ทั้งนี้ ข้อมูลของซีดีซีระบุว่า ชนิดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่มีชาวอเมริกันติดเชื้อใหม่มากที่สุดถึงกว่า 14.1 ล้านคน คือ หูดหงอนไก่ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูลเอชพีวี รองลงมา คือ โรคหนองในเทียม ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯราว 2.86 ล้านคน, โรคพยาธิในช่องคลอด 1.09 ล้านคน และโรคหนองในแท้ 820,000 คน
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037747