ต้องขอขอบคุณทางกสิกรได้ติดต่อเข้ามา ชี้แจง และใส่ใจให้ความช่วยเหลือเคสเล็กๆนี้ เป็นอย่างดี
ขอบคุณ คุณK8888 จากใจที่ได้มีการติดต่อประสานงานให้ครับ 
___________________________________________________________________________________________________
เหตุการณ์เริ่มจาก เดือนที่แล้วแฟนผมได้รูดค่าประกันรถยนต์ให้บุคคลนึง 1 ครั้ง คิดว่าจบไปด้วยดี
เพราะไม่ได้เซ็นเอกสารยินยอมการตัดบัตร และสลิปที่เซ็นก็ไม่ใช่การผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
แล้วสองวันก่อน แฟนผมได้ sms แจ้งว่าอนุมัติการตัดบัตรจำนวน 6,7xx จาก ASN Broker
แฟนผมเลยโทรไปหากสิกรทันที เพื่อแจ้งทักท้วงรายการ
CC กสิกร คนที่1 ตอบกลับมาว่า ทางกสิกรไม่ทราบได้ว่าเจ้าของบัตรไปใช้อะไรบ้าง และเมื่อมียอดเข้ามาธนาคารก็ต้องตัดตามหน้าที่ ถ้าทางเจ้าของบัตรยืนยันว่าไม่ได้ใช้ ต้องไปให้ทางร้านค้ายกเลิกให้เอง
ผมมึนงงกับคำตอบมากครับ นี่ถ้าผมโดนขโมยข้อมูลไปใช้ ต้องไปตามจับคนร้ายเอง และให้คนร้ายยกเลิกรายการเองด้วยหรือเปล่า
*************
29/03/2556 10:30(โดยประมาณ)
ทางกสิกรได้ติดต่อเข้ามาเพื่อชี้แจงแล้วครับ มีความเข้าใจผิดจากการสื่อสารดังนี้
เนื่องจากในการโทรหา CC ครั้งแรก แฟนผมแจ้งพนักงานว่าขอยกเลิกรายการ ที่มีการตัดเงินเข้ามา โดยที่ตนเองไม่ได้อนุญาติ
จากบริษัท Broker ที่เคยนำบัตรไปรูด 1 ครั้ง
แต่ไม่ได้แจ้งว่ารายการที่รูดก็ไม่ใช่การผ่อนชำระผ่านบัตร และชื่อเจ้าของรถก็ไม่ใช่ชื่อของตน
ในจุดนี้จึงอาจมีการเข้าใจว่า เจ้าของบัตรยินยอมซื้อสินค้าเอง ทางพนักงานจึงให้คำตอบแบบข้างต้น เพื่อให้ติดต่อกับทางร้านค้าก่อน
และอธิบายว่าในกรณีถูกโจรกรรมข้อมูลนั้นมีวิธีจัดการเพื่อความปลอดภัยต่างกันออกไปจากกรณีนี้ครับ
*************
เมื่อคำตอบจากกสิกรไม่ช่วยอะไร ก็เลยโทรหาเจ้าของรถที่แฟนผมรูดค่าประกันให้เขา ให้เขาคุยกับเซลล์ประกันว่าเกิดอะไรขึ้น
ได้ความว่า ประกันโทรหาเจ้าของรถ เพราะต้องชำระค่าประกันแล้วแต่ไม่รับสาย ระบบจึงตัดบัตรเครดิตที่เคยชำระโดยอัตโนมัติ แม้ว่าเจ้าของบัตรและเจ้าของรถจะไม่ใช่คนเดียวกัน
เมื่อทักท้วงไปว่าเจ้าของบัตรไม่ยินยอม และไม่พอใจมาก ทางเซลล์จึงขอโทษ และบอกว่าจะยกเลิกรายการให้
แฟนผมจึงโทรไปหากสิกรอีกครั้ง เพื่อเชคว่ารายการถูกยกเลิกไปจริงหรือเปล่า และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
CC กสิกรคนที่2 แจ้งว่า มียอดการใช้บัตรเข้ามาจริง และมีรายการยกเลิกเข้ามาแล้ว
และบอกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เจ้าของบัตรสามารถทักท้วงรายการ รายการก็จะถูกอายัติไว้เพื่อตรวจสอบ
แล้วให้ตัวอย่างมาว่า มีลูกค้าหลายคนมักจะโดนประกันโทรมาขาย และตัดบัตรแบบนี้เสมอ เพียงแค่พูดทำนองว่าตกลงก็ตัดบัตรได้แล้ว
ผมมึนงงกับคำตอบอีกครั้ง นี่แฟนผมโทรหาธนาคารเดียวกันหรือเปล่า??
หลังจากนั้นแฟนผมโทรหา CC ASN Broker เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าตรงกันไหม
CC ASN แจ้งกลับมาว่า ทางบริษัทสามารถตัดบัตรได้ แม้ว่าเจ้าของรถจะไม่ใช่เจ้าของบัตร แต่ถ้าเจ้าของรถอนุญาติให้ตัดบัตรก็สามารถทำได้
เหตุการณ์นี้สรุปได้ว่า
สำหรับแฟนผม > ต้องรออย่างน้อย 14 วันเพื่อให้ยอดเข้ามา ถ้ายอดหลายๆหมื่น และต้องการใช้บัตร นั่นแปลว่าเราจะเสียโอกาสนั้นไปฟรีๆ
สำหรับกสิกร > แฟนผมเป็นลูกค้าโดยตรง ซึ่งควรจะช่วยเหลือลูกค้าเมื่อมีปัญหา กลับให้ลูกค้าไปแก้ปัญหาเองซะอย่างนั้น แม้ว่าคำตอบCCคนที่2 จะมีประโยชน์มาก แต่บริษัทเดียวกัน ปัญหาเดียวกันควรจะตอบเหมือนกันหรือเปล่า
สำหรับ ASN Broker > ถ้าเขามีข้อมูลบัตรของคุณแล้ว แม้จะไม่ได้รับอนุญาติ เขาก็สามารถตัดบัตรคุณได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่
ถึงแม้ว่าทางบริษัทจะช่วยเหลือเป็นอย่างดีในการยกเลิก แต่จริงๆแล้วไม่มีสิทธิ์เอาข้อมูลไปใช้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ
ผมคิดว่าจะพาแฟนไปแจ้งความไว้ก่อนจะได้มีหลักฐาน เผื่อรอบบิลหน้ามาตัดบัตรอีกคงไม่ยอมแล้วครับ
มีใครเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ไหมครับ แล้วแก้ปัญหากันยังไง
ป.ล. ขออนุญาติ Tag ห้องบลูนะครับ เพราะคนห้องบลูเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย อยากรู้กรณีตัวอย่างอื่นๆจริงๆครับ
อุทาหรณ์ที่ได้จากจาก ASN Broker กับ บัตรเครดิตกสิกร
ต้องขอขอบคุณทางกสิกรได้ติดต่อเข้ามา ชี้แจง และใส่ใจให้ความช่วยเหลือเคสเล็กๆนี้ เป็นอย่างดี
ขอบคุณ คุณK8888 จากใจที่ได้มีการติดต่อประสานงานให้ครับ
___________________________________________________________________________________________________
เหตุการณ์เริ่มจาก เดือนที่แล้วแฟนผมได้รูดค่าประกันรถยนต์ให้บุคคลนึง 1 ครั้ง คิดว่าจบไปด้วยดี
เพราะไม่ได้เซ็นเอกสารยินยอมการตัดบัตร และสลิปที่เซ็นก็ไม่ใช่การผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
แล้วสองวันก่อน แฟนผมได้ sms แจ้งว่าอนุมัติการตัดบัตรจำนวน 6,7xx จาก ASN Broker
แฟนผมเลยโทรไปหากสิกรทันที เพื่อแจ้งทักท้วงรายการ
CC กสิกร คนที่1 ตอบกลับมาว่า ทางกสิกรไม่ทราบได้ว่าเจ้าของบัตรไปใช้อะไรบ้าง และเมื่อมียอดเข้ามาธนาคารก็ต้องตัดตามหน้าที่ ถ้าทางเจ้าของบัตรยืนยันว่าไม่ได้ใช้ ต้องไปให้ทางร้านค้ายกเลิกให้เอง
ผมมึนงงกับคำตอบมากครับ นี่ถ้าผมโดนขโมยข้อมูลไปใช้ ต้องไปตามจับคนร้ายเอง และให้คนร้ายยกเลิกรายการเองด้วยหรือเปล่า
*************
29/03/2556 10:30(โดยประมาณ)
ทางกสิกรได้ติดต่อเข้ามาเพื่อชี้แจงแล้วครับ มีความเข้าใจผิดจากการสื่อสารดังนี้
เนื่องจากในการโทรหา CC ครั้งแรก แฟนผมแจ้งพนักงานว่าขอยกเลิกรายการ ที่มีการตัดเงินเข้ามา โดยที่ตนเองไม่ได้อนุญาติ
จากบริษัท Broker ที่เคยนำบัตรไปรูด 1 ครั้ง
แต่ไม่ได้แจ้งว่ารายการที่รูดก็ไม่ใช่การผ่อนชำระผ่านบัตร และชื่อเจ้าของรถก็ไม่ใช่ชื่อของตน
ในจุดนี้จึงอาจมีการเข้าใจว่า เจ้าของบัตรยินยอมซื้อสินค้าเอง ทางพนักงานจึงให้คำตอบแบบข้างต้น เพื่อให้ติดต่อกับทางร้านค้าก่อน
และอธิบายว่าในกรณีถูกโจรกรรมข้อมูลนั้นมีวิธีจัดการเพื่อความปลอดภัยต่างกันออกไปจากกรณีนี้ครับ
*************
เมื่อคำตอบจากกสิกรไม่ช่วยอะไร ก็เลยโทรหาเจ้าของรถที่แฟนผมรูดค่าประกันให้เขา ให้เขาคุยกับเซลล์ประกันว่าเกิดอะไรขึ้น
ได้ความว่า ประกันโทรหาเจ้าของรถ เพราะต้องชำระค่าประกันแล้วแต่ไม่รับสาย ระบบจึงตัดบัตรเครดิตที่เคยชำระโดยอัตโนมัติ แม้ว่าเจ้าของบัตรและเจ้าของรถจะไม่ใช่คนเดียวกัน
เมื่อทักท้วงไปว่าเจ้าของบัตรไม่ยินยอม และไม่พอใจมาก ทางเซลล์จึงขอโทษ และบอกว่าจะยกเลิกรายการให้
แฟนผมจึงโทรไปหากสิกรอีกครั้ง เพื่อเชคว่ารายการถูกยกเลิกไปจริงหรือเปล่า และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
CC กสิกรคนที่2 แจ้งว่า มียอดการใช้บัตรเข้ามาจริง และมีรายการยกเลิกเข้ามาแล้ว
และบอกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เจ้าของบัตรสามารถทักท้วงรายการ รายการก็จะถูกอายัติไว้เพื่อตรวจสอบ
แล้วให้ตัวอย่างมาว่า มีลูกค้าหลายคนมักจะโดนประกันโทรมาขาย และตัดบัตรแบบนี้เสมอ เพียงแค่พูดทำนองว่าตกลงก็ตัดบัตรได้แล้ว
ผมมึนงงกับคำตอบอีกครั้ง นี่แฟนผมโทรหาธนาคารเดียวกันหรือเปล่า??
หลังจากนั้นแฟนผมโทรหา CC ASN Broker เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าตรงกันไหม
CC ASN แจ้งกลับมาว่า ทางบริษัทสามารถตัดบัตรได้ แม้ว่าเจ้าของรถจะไม่ใช่เจ้าของบัตร แต่ถ้าเจ้าของรถอนุญาติให้ตัดบัตรก็สามารถทำได้
เหตุการณ์นี้สรุปได้ว่า
สำหรับแฟนผม > ต้องรออย่างน้อย 14 วันเพื่อให้ยอดเข้ามา ถ้ายอดหลายๆหมื่น และต้องการใช้บัตร นั่นแปลว่าเราจะเสียโอกาสนั้นไปฟรีๆ
สำหรับกสิกร > แฟนผมเป็นลูกค้าโดยตรง ซึ่งควรจะช่วยเหลือลูกค้าเมื่อมีปัญหา กลับให้ลูกค้าไปแก้ปัญหาเองซะอย่างนั้น แม้ว่าคำตอบCCคนที่2 จะมีประโยชน์มาก แต่บริษัทเดียวกัน ปัญหาเดียวกันควรจะตอบเหมือนกันหรือเปล่า
สำหรับ ASN Broker > ถ้าเขามีข้อมูลบัตรของคุณแล้ว แม้จะไม่ได้รับอนุญาติ เขาก็สามารถตัดบัตรคุณได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่
ถึงแม้ว่าทางบริษัทจะช่วยเหลือเป็นอย่างดีในการยกเลิก แต่จริงๆแล้วไม่มีสิทธิ์เอาข้อมูลไปใช้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ
ผมคิดว่าจะพาแฟนไปแจ้งความไว้ก่อนจะได้มีหลักฐาน เผื่อรอบบิลหน้ามาตัดบัตรอีกคงไม่ยอมแล้วครับ
มีใครเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ไหมครับ แล้วแก้ปัญหากันยังไง
ป.ล. ขออนุญาติ Tag ห้องบลูนะครับ เพราะคนห้องบลูเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย อยากรู้กรณีตัวอย่างอื่นๆจริงๆครับ