เปลี่ยนอารมณ์บูดให้เป็นอารมณ์ดี ภายใน5 นาที

กระทู้ข่าว
5 นาทีเปลี่ยนอารมณ์บูดให้เป็นอารมณ์ดี/ดร.แพง ชินพงศ์                                                                                                                                               
เป็นธรรมดาสำหรับเราทุกคนที่ต้องมีทั้งเวลาที่รู้สึกอารมณ์ดีและเวลาที่อารมณ์เสียตามแต่ว่าในช่วงนั้นๆ เราต้องประสบพบเจออะไรมาบ้าง แล้วอารมณ์ของเรานี่แหละที่อาจจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเราได้เลยทีเดียว ถ้าเราอารมณ์ดี เราก็มีความสุข มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แต่เวลาที่เรารู้สึกไม่ดี อย่างเช่น โกรธ ไม่พอใจ หงุดหงิด กังวลใจ ไม่สบายใจ อาจทำให้วันๆ นั้นของเราดูมืดมน หมดสนุกไปเลยก็ได้ เราลองมาดูวิธีการที่จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์บูดให้เป็นอารมณ์ที่แจ่มใสได้ภายใน 5 นาที กันดีกว่า


       

     1.เดินออกจากเหตุการณ์
     
       บางครั้งเราอาจถูกคนในครอบครัว เพื่อน คนในที่ทำงาน หรือ คนบนท้องถนน ทำอะไรให้เรารู้สึกไม่พอใจหรือโกรธ และเราอาจจะรู้สึกอยากตอบโต้กลับไปให้สะใจ แต่ให้คิดเสียว่าการทำเช่นนั้นอาจยิ่งทำให้เรื่องมันหนักหนาเข้าไปอีก ดังนั้น แทนที่จะทำให้วันที่ดีๆ หมดไป ให้ใช้วิธีเดินหนีไปจะดีกว่า เพราะบางครั้งการเดินออกจากปัญหามาก่อนก็ดีกว่าการที่จะมานั่งโต้เถียงกันแบบไม่รู้จักจบ เพราะขณะที่อารมณ์ยังไม่ปกตินั้น คนเรามักขาดสติและการคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ถูกต้อง การย้ายตัวของเราออกจากปัญหาบางทีช่วยให้ความรู้สึกที่ไม่ดีหายไปได้ ทั้งยังช่วยลดความเครียดและสามารถทำให้เรากลับมาเผชิญ และแก้ปัญหาได้อย่างฉลาดและมีสติอีกครั้ง
     
       2.เล่นกับสัตว์เลี้ยง
     
       สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์ที่ช่วยลดความเครียดและทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ เช่น นก กระรอก หนู การได้เห็นสัตว์เหล่านี้เคลื่อนไหวและการได้จับ ได้ลูบ ได้กอด หรือให้พวกมันมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จะทำให้เรามีความสุข ผ่อนคลายและอารมณ์ปลอดโปร่งมากขึ้น แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีสัตว์เลี้ยงอาจเปลี่ยนเป็นการใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่น นอนใต้ต้นไม้ ฟังเสียงใบไม้ ฟังเสียงนกร้อง เดินดูต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า หรือรดน้ำ พรวนดิน หาซื้อพันธุ์ไม้ต่างๆ มาปลูก ก็เป็นการใช้ธรรมชาติบำบัดที่ได้ผลดีอีกทางหนึ่ง
     
       3.ออกกำลังกาย
     
       การเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการได้เดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ หรือวิ่งเหยาะๆ หรือเต้น ฮูลาฮูป หรือเล่นกีฬาที่โปรดปราน จะช่วยให้ความเครียดที่ฝังอยู่จางหรือหมดลงไป เพราะคนที่เครียด กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายมักจะตึง เมื่อเราได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระจะทำให้กล้ามเนื้อนั้นคลายความตึงลง ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลายขึ้น ดังนั้น เวลาที่เราหงุดหงิด แทนที่จะจมอยู่กับอารมณ์นั้น ให้เราอาจเปลี่ยนอารมณ์บูดของเราให้กลายเป็นอารมณ์ดีด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้อารมณ์หงุดหงิดหมดไปแล้ว ยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่อีกด้วย เรียกว่า เป็นประโยชน์ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์และจิตใจควบคู่กันไปเลยทีเดียว
     
       4.กอด
     
       การได้กอดหรือได้รับการกอดจากคนที่เรารักและรักเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง เพื่อน หรือคนรัก จะช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นทันทีและช่วยลดความเครียดลงได้ในเวลาเดียวกัน เพราะการกอดสามารถถ่ายทอดความรู้สึกรัก อบอุ่นใจ ห่วงใยและเข้าใจระหว่างกันและกันได้ เมื่อเราได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ มาจะทำให้เรามั่นคงในจิตใจมากขึ้น และพร้อมที่จะก้าวข้ามปัญหาหรืออุปสรรคไปได้อย่างมีสติและใจเย็น
     
       5.พูดกับตัวเอง
     
       เวลาที่เราโกรธหรืออารมณ์เสีย เรามักอยากจะระบายสิ่งที่มันอัดอั้นออกมา เป็นคำด่าบ้าง ตะโกนเสียงดังบ้าง ระบายลงกับทรัพย์สินสิ่งของทำให้มันแตกหักเสียหายบ้าง แต่หากเราใช้วิธีพูดกับตัวเองอาจช่วยให้เราสงบลงได้มากกว่า เช่น ไม่เป็นไรน่า ช่างมันเหอะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ใจเย็นๆ คำพูดที่เป็นเชิงบวกเหล่านี้ จะทำให้เรารู้สึกสงบลงได้ภายในไม่กี่นาที เพราะคำพูดเหล่านี้เหมือนเป็นการสร้างกำลังใจ ความเชื่อมั่นและความภูมิใจให้ตัวเอง อย่าลืมว่าขณะพูดให้ผ่อนลมหายใจเบาๆ ช้าๆ จะทำให้รู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
     
       6.คิดบวก
     
       หยุดความคิดในทางลบแล้วเปลี่ยนเป็นคิดในแง่บวก คือ คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขและสบายใจ เช่น คิดถึงเรื่องการไปเที่ยวในสถานที่ที่ชอบ คิดถึงอาหารที่อร่อยๆ คิดถึงของที่อยากซื้อ การที่เรามีความคิดที่ไม่สบายใจอยู่ภายใน ทำให้เราสมองไม่แจ่มใส ไม่สามารถคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้ ดังนั้น ให้เราลองใช้วิธีเปลี่ยนความคิดดู คิดทางบวก มีความสุขสดชื่นจะทำให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นและผ่อนคลายมากขึ้น
     
       7.ดูหนังฟังเพลง
     
       เลือกดูหนังที่ไม่ทำให้เครียด เช่น หนังรักโรแมนติก หนังตลก การ์ตูน หรือเลือกฟังเพลงที่มีจังหวะสบายๆ เบาๆ นอนฟังอย่างสบายใจ หรือไม่ก็จังหวะสนุกสนานที่เต้นตามได้ นอกจากจะช่วยให้เราลืมความขุ่นข้องหมองใจไปได้ ก็ยังช่วยให้จิตใจเราเบิกบาน แจ่มใส และรู้สึกสงบลงด้วย
     
       8.นับจำนวน
     
       เวลาที่เราเริ่มรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เช่น อยู่ดีๆ ก็ถูกตำหนิหรือถูกว่ากล่าวในสิ่งที่เราไม่ได้ทำผิด หรือมีใครทำอะไรให้เราไม่พอใจแล้วเรารู้สึกโกรธเขามากจนเราอยากตะโกนออกมาดังๆ ด้วยความโมโหเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา ให้เราลองเปลี่ยนมาใช้วิธีนี้ คือ หายใจเข้าลึกๆ และนับ 1-20 อย่างช้าๆ ขณะนับจำนวนอยู่นั้นต้องทำสมองให้ว่างเปล่า ให้สมองคิดถึงแต่ตัวเลขที่เรากำลังนับอยู่โดยไม่ต้องคิดถึงเหตุการณ์ที่มากระตุ้นอารมณ์บูดของเรา แล้วเราจะแปลกใจกับผลที่ได้รับเพราะวิธีนี้ช่วยให้เรานิ่งและสงบลงได้จริงๆ
     
       9.เขียนระบาย
     
       หากเรารู้สึกอัดอั้นหรืออึดอัด ให้ใช้วิธีเขียนระบายลงในสมุดบันทึกจะทำให้รู้สึกดีขึ้น เพราะการเขียนข้อความทำให้เรามีเวลาสงบและทำให้เกิดสมาธิ อีกทั้งการเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ลงไปในสมุดเหมือนการปล่อยของเสียออกมา ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยให้เราได้ลดความเครียดลงได้
     
       ไม่ว่าเราจะมีความสุข หรือมีความทุกข์ มีเรื่องสมหวัง หรือผิดหวัง มีเรื่องทำให้อารมณ์ดีหรืออารมณ์เสีย ขอให้คิดเสียว่ามันเป็นเสี้ยวเวลาหนึ่งของชีวิตเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ การใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีคุณค่าและเกิดประโยชน์แก่ตัวเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ นั่นแหละคือชีวิตที่แท้จริงที่เราควรต้องใส่ใจ ขอให้เรานับความสุขเล็กๆ ที่เรามีตลอดทั้งปี ขอบคุณผู้ที่มีพระคุณต่อเรา คอยช่วยเหลือเรา มอบรอยยิ้มให้เรา ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ผู้เขียนขออวยพรให้ทุกครอบครัวมีความสุขตลอดทั้งปี 2556 นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tj-zone.com/forum.php?mod=viewthread&tid=2778&extra=page%3D1
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่