+++++++ ทำ เ ห มื อ น กั บ ว่ า ป ร ะ เ ท ศ เ ร า เ ป็ น...........+++++++

กระทู้สนทนา
"โอเปค" ครับ...ผมหมายถึงโอเปค

เห็นบ่นกันไปบ่นกันมา
ว่าจะทวงคืน ปตท. (ทวงจากใครล่ะ ??)

แถมยังด่ากันเลอะเทอะ
ว่า ปตท.สูบเลือดสูบเนื้อคนไทย
ด้วยการขายน้ำมันแพง หากินกับคนไทยด้วยกัน

นี่คงคิดกันจริงว่าเราเป็น "โอเปค" แน่ๆเลย
ทั้งๆที่เราเป็นประเทศเกษตรกรรม ปลูกผัก ปลูกหญ้า
ไม่ใช่ประเทศที่มีบ่อน้ำมันดิบ และ ส่งออกน้ำมันไปขาย

หากเอาตัวเลขกลมๆแล้ว
ไทยเราซื้อน้ำมันดิบจากต่างชาติอยู่ 80%
ส่วนแหล่งพลังงงานที่เรามีของเราเองมีอยู่แค่ 20% เท่านั้น

หลักๆก็อยู่ที่ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร โน่นเลยครับ

น้ำมันดิบที่ซื้อจาก ตปท.
มันไม่ได้มีขาเดินมาเองนะครับ
ซื้อเขาแล้ว มันก็ต้องมีการขนส่งมาทางทะเล มาที่โรงกลั่นของไทยเรา

เพื่อที่จะเอากมากลั่นให้น้ำมันดิบ มันกลายเป็นน้ำมันที่กลั่นแล้ว และพร้อมที่จะใช้งาน

พอกลั่นออกมาแล้ว
มันก็จะได้พวกเบนซิน, ดีเซล, แก๊สหุงต้ม,
น้ำมันก๊าด , น้ำมันเตา, ยางมะตอย ฯลฯ จากนั้นถึงได้เอาไปใช้งานกัน

โดยที่สัดส่วนการใช้งานของไทยเรา
ตัวเลขโดยประมาณก็คือ ดีเซล 75% และ เบนซิน 25%
เพราะภาคขนส่งของเราใช้ดีเซลเยอะมากครับ....

เจ๊เกียวเนี่ย...ตัวดีเลยน้ำมันขึ้นก็ขึ้นค่ารถ น้ำมันลงเจ๊มันไม่เคยลดราคาลง....โคตรเอาเปรียบเลย

แต่มันไม่ได้ง่ายแบบนั้นครับ
เพราะราคาที่เขาขายให้เรานั้น
เขาต้องบวก "ค่าการตลาด" ที่เป็นส่วนต่างของราคาต้นทุนจากโรงกลั่น กับ ราคาขายปลีก

เขาต้องบวก "เงินกองทุนน้ำมัน" ที่ต้องถูกหักบางส่วนเข้าไปไว้ในกองทุน
เขาต้องบวกค่า "ภาษี" ไม่ว่าจะเป็นภาษีสรรพสามิต ไปจนถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม

ดังนั้นราคาน้ำมันที่เราไปเติมกันตามปั๊ม
มันคือราคาที่คนเติมทุกคนต้องจ่ายค่าการตลาด, ค่าภาษี และ ค่ากองทุนน้ำมัน

ก็จ่ายกันขนาดนี้ จะให้มันถูกเหมือนประเทศ "โอเปค" ได้ไงละ...พ่อคู๊ณณณณ

ทุกอย่างมันมีกลไกควบคุมครับ
หากปล่อยให้อิสระเสรี คนที่จะตายก็คือประชาชนนี่แหละ

แม้กระทั่งการอ้างอิง "ราคาน้ำมันที่สิงคโปร์" ก็เป็นหนึ่งในกลไกเช่นกัน

ที่เราต้องไปอ้างราคาจากเกาะเล็กๆแห่งนั้น
ก็เพราะว่าสิงคโปร์เขาเป็น "ฮับ" ของการซื้อขายน้ำมันย่านนี้ครับ
ประเทศเขาทำธุรกิจแบบซื้อมา ขายไป มายาวนาน และได้รับความเชื่อถือจากบริษัทใหญ่ๆ

ราคาของสิงคโปร์
เป็นราคาที่ได้รับการ "ยอมรับ" ว่าเป็น "ราคากลาง" ที่ใช้ๆกัน
และมันไม่ใช่ราคาที่รัฐบาลสิงคโปร์เป็นคนประกาศนะครับ .......ไม่เกี่ยวเลย

ไอ้กระผมเห็นด่าๆกันใน fb ว่าไทยไปให้สิงคโปร์ "จูงจมูก"
ไม่เกี่ยวครับ....รัฐบาลเมืองลอดช่องเขาไม่ได้มาเกี่ยวอะไรกับการประกาศราคาน้ำมันเลย

แต่บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ (ในย่านนี้) ต่างหาก  ที่ให้ความเชื่อถือเขาในการเป็นราคากลาง

อีกทั้งสิงคโปร์เขาอยู่ใกล้เรามากที่สุด
ซึ่งทำให้มีต้นทุน "ค่าขนส่ง" ต่ำสุดสำหรับเราครับ

แต่ไอ้ที่ด่าๆกัน
แชร์ๆกัน กดไล้ค์กัน สนุกมือ
ในประเด็นที่ว่า "ปตท.ขายชาติ คนไทยเราใช้น้ำมันแพงกว่าราคาส่งออก" เนี่ย

มันเป็นเพราะว่าน้ำมันที่เรา "ส่งออก" นั้น
เราอ้างอิงราคาของน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ครับ
ราคาที่เราใช้อ้างอิงนั้น มัน "ไม่มีค่าการตลาด , ค่าภาษี , เงินกองทุน"  อย่างที่ผมบอกไว้ในตอนต้น

เพราะไอ้ "ค่าการตลาด , ค่าภาษี , เงินกองทุน"  มันจัดเก็บเฉพาะน้ำมันในไทยเท่านั้นครับ

ก็เลยกลายเป็นวาทกรรม "ขายชาติ" , "ทวงคืน", "คนไทยใช้น้ำมันแพง" ...อะไรไปโน่นเลย....

ทุกอย่างมันมีกลไกอย่างที่บอกนั่นแหละครับ

หากปล่อยให้กำหนดราคากันเอง
ผมว่าจะยิ่งยุ่ง วุ่นวาย จนถึงขั้นเละเทะเลยก็ได้

เพราะถ้าโรงกลั่นตั้งราคาแพงเว่อร์กว่าตลาดโลกในแบบตามใจฉัน
พ่อค้าน้ำมันเขาก็ไม่ซื้อ แต่เขาจะไปนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศแทน

ไอ้ครั้นจะให้เขาทะลึ่งขายถูกกว่าตลาดโลก
มันก็ต้องมองตามหลักความเป็นจริงว่าเขาไม่ใช่ "มูลนิธิ" ครับ
แต่เขาคือองค์กรธุรกิจ ที่มันต้องคำนึงถึงผลกำไรขององค์กร...ไม่งั้นผู้ถือหุ้นเขาสวดชยันโตแน่ๆ

เราไม่ใช่ประเทศใน "กลุ่มโอเปค"
ที่จะมีน้ำมันราคาถูกมาให้ใช้กันนะครับ
เราเป็นประเทศที่ที่ผสมผสานระหว่างเกษตรกรรม กับ อุตสาหกรรม

แทนที่จะไปด่าเขาแบบมั่วๆ
แทนที่จะมานั่งคิด "ทวงคืน" (ใครมันยึดไปวะ !!!?????)
เหล่านักกดแชร์ กดไล้ค์ ทั้งหลายหันมารณรงค์ให้รัฐออก "นโยบายพลังงานทางเลือก" ดีกว่า


....เข้าท่ากว่าเยอะครับ......
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่