เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี และอดีตกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา ที่รายงานไว้ในสกู๊ปข่าว "นพ.บรรจบ ฉะรบ.เลือดเย็นฆ่าคนไทย 'จำนำ' ทำข้าวค้างสต๊อกนาน ราขึ้น ก่อมะเร็งตับ" ว่า นโยบายจำนำข้าวกำลังทำให้สารก่อมะเร็งระบาดหนัก เพราะข้าวเปลือกที่เก็บไว้ในโกดัง นาน ๆ เข้า จะมีเชื้อราขึ้น
บางครั้งเพียงแค่เดือนเดียวก็ขึ้นราแล้ว หากกระบวนการเก็บสต๊อกข้าวไม่ดี จึงไม่ต้องไปพูดถึงโครงการรับจำนำข้าวที่เก็บข้าวค้างสต๊อกเป็นปี ๆ และเรื่องนี้ก็เป็นคอมมอนเซ้นส์ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าหากเก็บข้าวไว้นาน ๆ จะทำให้คุณภาพข้าวเสื่อม
................................................
นพ.บรรจบ ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมีผลงานวิชาการมากมายอาทิเช่น การบรรยายเรื่อง การดื่มน้ำปัสสาวะบำบัดโรค ว่า การดื่มน้ำปัสสาวะบำบัดโรคมีตั้งแต่สมัยพุทธกาลโดยพระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ในนิสสัย 4 คือ ปูติมุตตเภสัช -ยาจากน้ำมูตรเน่าหรือน้ำปัสสาวะเป็นสิ่งที่สงฆ์พึงกระทำ การดื่มน้ำปัสสาวะบำบัดโรคให้ดื่มน้ำปัสสาวะของตนเอง
โดยดื่มก่อนนอนและดื่มตอนเช้าครั้งละ 100 ซี.ซี. ถือเป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะเลือกใช้การบำบัดโรคแบบนี้โดยดื่มน้ำปัสสาวะบำบัดอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดไมเกรน ปวดเมื่อยไม่มีสาเหตุ รักษาโรคภูมิแพ้ ผื่นคัน สะเก็ดเงิน มะเร็ง ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ใช้ผ้าชุบน้ำปัสสาวะปิดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ส่วนประกอบของปัสสาวะเป็นน้ำร้อยละ 95 ยูเรียร้อยละ 2.5 และสารอื่น ๆ อีกร้อยละ 2.5 การใช้น้ำปัสสาวะบำบัดโรคอธิบายได้ด้วยหลักฮีโมโอพาธี หรือ หลักพิษต้านพิษ เช่น ฉีดพิษงูทีละน้อย ๆ เข้ากระแสเลือดม้าจนได้ซีรั่มหรือน้ำเหลืองม้า กลายเป็นเซรุ่มฉีดแก้พิษงู นำพิษของต้นควินินที่ทำให้หนาวสั่น มาเป็นยารักษาไข้มาลาเรียหรือไข้จับสั่น
นพ.บรรจบ กล่าว
จัดหนัก! นพ.บรรจบ ห่วง สต๊อกข้าวรัฐบาลเน่า กินแล้วเป็นมะเร็ง
บางครั้งเพียงแค่เดือนเดียวก็ขึ้นราแล้ว หากกระบวนการเก็บสต๊อกข้าวไม่ดี จึงไม่ต้องไปพูดถึงโครงการรับจำนำข้าวที่เก็บข้าวค้างสต๊อกเป็นปี ๆ และเรื่องนี้ก็เป็นคอมมอนเซ้นส์ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าหากเก็บข้าวไว้นาน ๆ จะทำให้คุณภาพข้าวเสื่อม
................................................
นพ.บรรจบ ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมีผลงานวิชาการมากมายอาทิเช่น การบรรยายเรื่อง การดื่มน้ำปัสสาวะบำบัดโรค ว่า การดื่มน้ำปัสสาวะบำบัดโรคมีตั้งแต่สมัยพุทธกาลโดยพระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ในนิสสัย 4 คือ ปูติมุตตเภสัช -ยาจากน้ำมูตรเน่าหรือน้ำปัสสาวะเป็นสิ่งที่สงฆ์พึงกระทำ การดื่มน้ำปัสสาวะบำบัดโรคให้ดื่มน้ำปัสสาวะของตนเอง
โดยดื่มก่อนนอนและดื่มตอนเช้าครั้งละ 100 ซี.ซี. ถือเป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะเลือกใช้การบำบัดโรคแบบนี้โดยดื่มน้ำปัสสาวะบำบัดอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดไมเกรน ปวดเมื่อยไม่มีสาเหตุ รักษาโรคภูมิแพ้ ผื่นคัน สะเก็ดเงิน มะเร็ง ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ใช้ผ้าชุบน้ำปัสสาวะปิดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ส่วนประกอบของปัสสาวะเป็นน้ำร้อยละ 95 ยูเรียร้อยละ 2.5 และสารอื่น ๆ อีกร้อยละ 2.5 การใช้น้ำปัสสาวะบำบัดโรคอธิบายได้ด้วยหลักฮีโมโอพาธี หรือ หลักพิษต้านพิษ เช่น ฉีดพิษงูทีละน้อย ๆ เข้ากระแสเลือดม้าจนได้ซีรั่มหรือน้ำเหลืองม้า กลายเป็นเซรุ่มฉีดแก้พิษงู นำพิษของต้นควินินที่ทำให้หนาวสั่น มาเป็นยารักษาไข้มาลาเรียหรือไข้จับสั่น
นพ.บรรจบ กล่าว