ดูนิสัยคนไทยด้วยนะครับ ....  


ถูกหวย  2000  กินเหล้าเลี้ยงเพื่อนซ่ะ 1500  ......  ค่าแรง 200  ค่าเหล้า 150  .... ขายผลผลิตได้ที ถอยรถใหม่ ซื้อทองใส่  บลาๆ  พอผลผลิตตกต่ำ บอกจน ลำบาก  ประท้วง .... เงินเก็บไม่ดี เล่นแชร์ดีกว่า ..... เล่นหวย 20 งวด ถูกกินซ่ะ 19 งวด  .... มีที่มีทางขายให้หมดแล้วไปเช่าเขาเอาอีกที   อีกมากมายบลาๆ     ไม่พอใจประท้วงเอา  ซื้อเสียงหัวละ 400  แค่กากบาท โครตคุ้มกำไรเห็นๆ     บางครอบครัวค่าเหล้าค่าหวยแทบจะชนรายได้ทั้งเดือน  ถ้ารวยก็แปลกแล้วครับ

ต้องดูก่อนว่าที่ว่าครองตลาดยุโรป 30% ถ้าอิสราเอลทำได้จริง เป็นเพราะอะไร
อิสราเอลแม้จะไม่ได้ชุ่มชื้นเหมือนเขตร้อนแต่ก็ไม่ได้แห้งแล้งมากมายอย่างที่คิดนะ   
ไม่งั้นคงไม่เป็นดินแดนที่คนแถวนั้นแย่งกันมานานนับพันปี

จริงๆแล้วไทยก็ส่งสินค้าเกษตรไปยุโรปเหมือนกันนะ พวกอาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง
มันสำปะหลังก็เคยได้ยินว่าส่งไปขายยุโรป
อุปสรรคใหญ่ๆน่าจะเป็นระยะทาง ต้นทุนการขนส่งพวกนั้นมากกว่า

ปัญหาของเราไม่น่าจะเป็นเรื่องกำลังการผลิต แต่เป็นเรื่องผลิตแล้วจะขายให้ใคร
ถ้าขายให้คนรวยก็เป็นไปได้ว่าจะได้ราคาดี แต่ถ้าขายให้คนที่อยู่ไกลๆก็จะมีเรื่องค่าขนส่งตามมา
ผมเห็นคนเอาสินค้าเกษตรมาประท้วงเรื่องราคาตกต่ำก็บ่อย
ขนาดไม่ได้มีชลประทานจนผลิตได้ทั้งปียังมีล้นเหลือจนราคาตกได้

ดังนั้นแนวคิดผมก็คือว่า ถ้าประเทศแถวบ้านเรารวยมีรายได้ดี เราขายสินค้าให้เขาก็จะได้ราคาดี
ค่าขนส่งจะไม่ใช่ปัญหาอีกเพราะอยู่ใกล้กัน

ทำไมยุโรปจึงรวย ผมว่าเป็นเพราะเขาทำอุตสาหกรรม
และขายสินค้าอุตสาหกรรมให้เราและประเทศทั่วโลก สินค้าพวกนี้ราคาสูงเมื่อเทียบกับน้ำหนัก
เขาจึง รวย เมื่อประชาชนเขารวย เกษตกรเขาก็รวยด้วยเพราะประชาชนมีเงินมาซื้อสินค้าเกษตร

ดังนั้นแนวคิดอีกทีก็ว่าถ้าอยากรวยเราต้องทำอุตสาหกรรม
หรือประเทศแถวนี้ต้องเป็นประเทศอุตสาหกรรมร่ำรวยแล้วเราขายสินค้าเกษตรให้เขาเราก็จะรวยไปด้วย
ถ้าจะให้ดีเราน่าจะทำอุตสาหกรรม ดีกว่ารอพึ่งให้ประเทศอื่นกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรม

รุ่นครูผม นานมาแล้ว .... ประเทศอิสราเอลยังมาดูงานที่ไทยเราเรื่องระบบชลประทานการเกษตร และระบบน้ำหยดอยู่เลยครับ

เดี๋ยวนี้ เราต้องไปดูงานบ้านเค้าแทน

เรื่องอิสราเอลผมมีข้อมูลในมือเยอะครับ รุ่นพ่อผมเคยหุ้นกับคนเอสราเอล ทำบริษัทโครงการชลประทานน้ำหยด ครับ แต่เจ้งไปแล้ว

อิสราเอลที่เค้าสามารถพัฒนาระบบชลประทาน  เกิดจากความกดดัน และข้อจำกัดครับ ลองสังเกตตัวเราเองก็ได้
ถ้าอะไรที่มีเยอะๆเหลือเฟือ เรามักจะไม่ค่อยสนใจและให้ความสำคัญเท่าไร แต่อะไรที่มีจำกัดเนี่ย เราจะค่อนข้างโฟกัส และให้ความสำคัญมาก
เหมือนกับสิงคโปร์แหล่ะครับ สิงคโปร์เกิดข้อจำกัดที่ว่าไม่มีน้ำจืด ต้องนำเข้าจากมาเลย์ เกิดความกดดัน จนต้องพัฒนาเทคโนโลยี
พยายามทุกวิถีทาง ทำยังไงก็ได้ให้ทำน้ำจืดเองให้ได้ เพราะเป็นความมั่นคงของประเทศ จนตอนนี้สิงคโปร์สามารถลดการนำเข้าน้ำจืด
จากมาเลย์ได้แล้ว ถามว่าถ้าสิงคโปร์มีน้ำจืดเหลือเฟือ เค้าจะมาสนใจพัฒนาหรือไม่ เช่นเดียวกันกับอิสราเอล ประเทศที่เต็มไปด้วยทะเลทราย
และดินของอิสราเอลไม่มีแร่ธาติที่ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ แต่ประเทศเค้าตระหนักถึงความสำคัญของภาคการเกษตร
จึงพยายามหาวถีทาง ทำยังไงก็ได้ให้ปลูกพืชได้ จึงทุ่มเวลาและเิงินทุนในการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี จนสำเร็จครับ
อีกอย่างที่สำคัญคือ ที่อิสราเอลโรคและแมลงมีน้อยกว่าบ้านเราครับ

ประเทศอิสราเอลเด่นที่สุดในเรื่องชลประทาน เรื่องระบบน้ำหยด อิสราเอลเป็นต้นตำหรับ คนไทยก็มีส่วนในการพัฒนาครับ
และองค์ความรู้ด้านการเกษตร รุ่นแรกๆ มาจากคนไทยส่วนหนึ่งครับ อิสราเอลไม่มี เพิ่งจะมาพัฒนาในรุ่นหลังๆ แต่สิ่งที่อิสราเอลมี
และเหนือกว่าไทยคือองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ครับ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เค้าพัฒนาได้ตลอด เช่นเดียวกันกับไต้หวัน
การเกษตรเค้าทำเป็นธุรกิจ ไม่ใช่ทำแบบตาสีตาสา ของไทยก็มีเยอะครับ ที่ทำเกษตรแบบจริงๆจังๆ นำเทคโนโลนี-วิทยาศาสตร์ มาพัฒนา

ตอนนี้มีคนไทยที่อยู่ในภาคการเกษตรของอิสราเอลประมาณ 4-5 หมื่นคน และไม่ต้องห่วงครับ ความคิดเห็นบนๆ
รัฐบาลอิสราเอลรู้ดีถึงความเสี่ยง และความไม่มั่นคงของแรงงานครับ เค้าจึงทุ่มเทพัฒนาเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานคนไทยเรียบร้อยแล้วครับ
อิสราเอลจะเน้นเครื่องจักรเป็นหลัก ตอนนี้ฟาร์ม 1 ฟาร์ม ใช้แรงงานคนแค่สองสามคนครับ

ปีที่แล้วผมพาลูกน้องไปดูงานเครื่องจักรการเกษตร ลูกน้องถามผมว่าทำไมบ้านเราไม่เอาเครื่องจักรเท่ๆ ใหญ่ๆ ดีๆ แบบนี้ มาใช้บ้าง
คำตอบง่ายมาก คือ ถ้าแรงงานบ้านเค้าราคาถูก เค้าจะพัฒนาเครื่องจักรมาใช้มั้ย ระบบเครื่องจักรแพงๆ บ้านเค้าเทียบกับแรงงาน
ใช้เครื่องจักรดีกว่า แต่บ้านเรา เทียบต้นทุนแล้ว จะไปใช้เครื่องจักรทำไม ทำไปก็เจ้ง ได้หน้าอย่างเดียว

แต่ตอนนี้ เค้าก็เริ่มตระหนักแล้วเหมือนกัน ว่าเค้าใช้เม็ดเงินทุ่มกับการเกษตรขนาดนี้ มันคุ้มมั้ยกับเม็ดเิงินที่ตอบกลับมา
ตอนนี้เค้าอาจจะได้คำตอบแล้ว ........ จึงลดความสำคัญกับภาคเกษตรลงมา

ไว้มีโอกาสจะขออนุญาติตั้งกระทู้เล่าให้ฟัง และนำเสนอข้อมูลที่ผมมีครับ
คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์บ้าง แต่บอกไว้ก่อนคือ ข้อมูลที่ผมมีคนที่อยู่ในวงการเค้ารู้กันหมดแล้ว แต่คนวงนอกมักไม่ค่อยรู้เท่าไร