ลูกกระต่ายที่บ้านป่วย มีถุงเลือดใต้คางก็เลยพาไปหาสัตว์แพทย์ใกล้บ้าน คุณหมอบอกว่าดูเหมือนเป็นฝีที่มีจุดเริ่มต้นจากถูกแมลงมีพิษกัดต่อย หมอเจาะหนองออก ให้ยามาทาน แล้วก็เขี่ยเลือดไปเพาะเชื้อ แต่แล้วคืนนั้นลูกกระต่ายก็ตาย ก็ไม่คิดอะไรมาก ต่อมาอีกเดือนไปเจอหมอ คุณหมอบอกว่าแปลกมาก เพราะกระต่ายตัวที่ตายนั้นเพาะเชื้อเจอเชื้อแอนแทรกซ์ที่มาจากวัว แล้วก็มีกระต่ายของคนอื่นมารักษาเจอตายด้วยเชื้อแอนแทรกซ์ รวมเป็นสองตัวแล้ว ไม่รู้ว่าติดมาได้อย่างไร ละแวกบ้านอยู่แถวตลิ่งขัน ซึ่งไม่มีวัวมานานหลายปีแล้ว

โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคร้ายแรงถึงตายที่สามารถติดต่อถึงคนได้ ผมรู้สึกใจหายวูบ โชคดีไม่มีใครในบ้านติดโรค แล้วก็คิดสงสัยว่าโรคแอนแทรกซ์แพร่มาติดกระต่ายกลางกรุงได้อย่างไร แต่เพราะได้ยินว่ามีกระต่ายของคนอื่นที่อยู่ละแวกบ้านตายเพราะโรคนี้ด้วย ก็เลยมีสมมติฐานว่าเชื้อโรคน่าจะมากับอาหารกระต่าย เพราะร้านขายอาหารสัตว์แถวบ้านซื้ออาหารกระต่ายมาเป็นถุงใหญ่ๆมาชั่งกิโลแบ่งขาย เนื้ออาหารมีลักษณะเป็นใบพืชอัดเป็นเม็ดและยังมองเห็นสีเขียวอยู่บ้าง ถ้าวัตถุดิบเป็นหญ้าจากแถบที่มีเชื้อโรคแอนแทรกซ์ และถ้าความร้อนในกระบวนการอัดให้เป็นเม็ดไม่ได้ทำให้เชื้อตายทั้งหมด ก็อาจติดมาถึงกระต่ายได้

ผมไม่มีอะไรยืนยันความคิด แต่ตอนนี้เปลี่ยนที่ซื้ออาหารกระต่าย อย่างไรก็ตามขอแจ้งข่าวถึงผู้ที่เลี้ยงกระต่าย ถ้ามีกระต่ายป่วยและตายใน 1-2 วัน โดยมีอาการเลือดออกข้างใน ก็ขอให้ระวังการติดเชื้อถึงคนไว้บ้าง