จะว่าไปแล้ว ไม่มีใครคาดหวังว่าจะมีใบเหลืองใบแดงเกิดขึ้นกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ผู้ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งยังมีปัญหากกต. ขอสอบสวนข้อกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีก่อน
เชื่อกันว่า เมื่อมีการร้องเรียนมากและมีน้ำหนัก ก็คงต้องสอบสวน
ก่อนจะจบลงแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น!?
เพราะดูเหมือนผู้คนทั้งสังคมไทยยังเชื่อว่า บางพรรคไม่มีวันโดนจับผิดภายใต้
กระบวนการสอบสวนเช่นนี้ได้
ยังเชื่อกันด้วยซ้ำว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นอีกพรรค คงม้วนเสื่อกลับบ้านล่วงหน้าได้เลย
นั่นเป็นความเชื่อของผู้คนในสังคมไทย ที่ต้องรอดูความจริงกันต่อไป
แต่ถ้ามองอีกด้าน เมื่อเกิดการสอบสวนว่าวิธีปราศรัยหาเสียง เข้าข่ายใส่ร้ายป้ายสี
หรือไม่ โดยเฉพาะวาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง
ควรมองในด้านดีว่า เป็นจังหวะที่สังคมไทยจะได้ค้นหาความจริงของเหตุการณ์
เผาบ้านเผาเมืองให้ถ่องแท้
เพราะถ้ามองว่าลงเอยประชาธิปัตย์ก็คงรอดเรื่องนี้อีก และคงป่าวตะโกนเผาบ้าน
เผาเมืองต่อไปอีก
เราอาจจะไม่ต้องไปคาดหวังกับการสอบสวนใดๆ แต่คาดหวังให้ผู้คนทั้งสังคมหู
ตาสว่าง มีภูมิคุ้มกันเมื่อต้องเผชิญกับสารพัดวาทกรรมของบางพรรคการเมือง
น่าจะดีกว่า
ดังนั้น ต้องช่วยกันทำให้สังคมได้รับรู้คำพิพากษาของศาลแพ่ง ซึ่งตัดสินแล้วว่า
เหตุการณ์เผาห้าง 3 แห่ง ในบ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 นั้น
ชี้ว่าไม่ใช่การก่อการร้าย!
ไม่ได้เชื่อมโยงกับคำป่าวประกาศของแกนนำม็อบ และไม่เชื่อมโยงกับผู้ชุมนุม
เพราะการเผาเกิดขึ้นหลังจากม็อบสลายหมดแล้ว
ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ ของฝ่ายเสื้อแดงหลงเหลืออยู่อีกแล้ว ในขณะที่มีการ
เผาห้างดังกล่าว
การเผาจึงเป็นเรื่องของคนอีกกลุ่มหนึ่ง
ผลการเผาไม่ได้ทำให้ข้อเรียกร้องของเสื้อแดงในการยุบสภาเกิดประโยชน์อะไร
ไม่ได้กดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องลาออกไป
เสื้อแดงไม่ได้อะไรเลยจากการเผาห้าง
ฝ่ายศอฉ.นั่นเอง ได้ประโยชน์เต็มๆ ทำให้ข้อหาความผิดต่อแกนนำเสื้อแดง
ครบองค์ประกอบ
รวมทั้งทำให้เกิดวาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง กลบเกลื่อนความตาย 99 ศพ
อาศัยจังหวะนี้ทำความจริงให้สังคมรู้เท่าทันกลเกมการเมือง น่าจะดีที่สุด!
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qa3lPREF3TkE9PQ==§ionid=
3 ปมป้ายสี - "ชายหมู" ร่วงหรือรอด? .....ข่าวสดออนไลน์
รายงานพิเศษ
3 ประเด็นที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นร้องให้กกต.ตรวจสอบ ด้วยเห็นว่าน่า
จะผิดตาม มาตรา 57 (5) พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหาร
ท้องถิ่น พ.ศ.2545
เพราะน่าจะเข้าข่ายการจูงใจให้ลงคะแนนหรืองดเว้นการลงคะแนน ด้วยการหลอกลวง
บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิด
คำร้องประกอบด้วย 1.กรณี นายศิริโชค โสภา โพสต์ภาพและข้อความผ่าน
เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเผาบ้านเผาเมือง
2. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปราศรัยว่า "อภิสิทธิ์เบอร์อะไร... (16)
ประชาธิปัตย์เบอร์อะไร... (16)"
3. นายเสรี วงศ์มณฑา โพสต์ในเฟซบุ๊ก "ใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้เพื่อไทย
ยึดครองกรุงเทพ ปราการด่านสุดท้ายที่เหลืออยู่ เราต้องถามตัวเองว่าจะลง
คะแนนให้ใครที่จะทำให้พงศพัศไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ คำตอบก็คือคุณชายสุขุมพันธุ์
หมายเลข 16"
สดศรี สัตยธรรม
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
...................................................................
สุขุม นวลสกุล
นักวิชาการทางรัฐศาสตร์
มีตัวอย่างที่เคย ทำในลักษณะเดียวกันมาแล้วแต่ก็ไม่เข้าข่ายมีความผิด เช่น
กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โจมตีเรื่องสั่งฆ่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ยื่นร้องกกต.
แต่ที่สุดกกต.ยกคำร้อง
หรืออย่างกรณี นายเรืองไกรร้องให้สอบเรื่องการฟอร์มทีมผู้เชี่ยวชาญ 31 คนว่า
ขัดกฎหมาย ผมว่า หยุมหยิม เพราะเป็นเพียงการเปิดให้เห็นว่าทีมงาน ผู้ช่วย
ผู้สนับ สนุนการทำงาน ยังไม่มีการแต่งตั้งด้วยซ้ำ
ส่วนการนำไปเปรียบเทียบกับกรณีกกต.ให้ใบแดงนายการุณ โหสกุล ที่หาเสียง
ใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องไปดูรายละเอียดทางคดี
การกล่าวลอยๆ ว่าผมซื้อเสียงแต่ผมไม่ได้ซื้อ ข้อกล่าวหาก็เป็นแค่ความเห็น
แต่หากระบุว่าผมซื้อเสียงที่นั่น ที่นี่ เมื่อนั่น เมื่อนี่ แต่ไม่ได้ซื้อก็แสดงว่าข้อกล่าว
หาเป็นเท็จ เป็นการป้ายสี
ใน 3 ประเด็นที่ร้องว่าใส่ร้าย การโพสต์ภาพเผาเมือง ภาพมาจากเหตุการณ์จริง
มีการเผาจริง ไม่ได้ตัดต่อว่าถูกเผา การหาเสียงอภิสิทธิ์ เบอร์ 16 ถามว่ามีใครที่
ไปลงคะแนนโดยเข้าใจว่านายอภิสิทธิ์เบอร์ 16 บ้าง
ที่ร้องว่า อ.เสรีระบุเรื่องยึดกรุง ถ้าอย่างนั้นพวกผมที่ไปออกรายการหรือให้ความ
เห็นต่างๆ ว่าเลือกตั้งเป็นอย่างนี้แล้วอาจารย์คิดอย่างไร ผมก็คาดเดาไปตามความ
เห็น ก็ผิดด้วยกันหมด
การร้องเรียนทำได้ แต่ผมในฐานะที่ติดตามการเลือกตั้งมาตลอดพอประเมินได้ว่า
มาตรฐานอย่างไรถึงจะโดน เรื่องร้องเรียนพวกนี้จึงไม่น่าจะมีปัญหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
ไม่น่าจะโดน
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qazBNakF3TVE9PQ==§ionid=
มีคอลัมน์วิเคราะห์ มาให้ช่วยกันคิด ....
แล้วก็มี กูรู... นักวิชาการรัฐศาสตร์มาตอบ....
แล้วอย่างเราปชช. ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ....
ยืนยันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ ไม่รู้ ...ว่า ยังไงก็ผ่าน
อยาก ...หน้าแตก.... จริงๆ นะ
รู้เท่าทันเผาบ้านเผาเมือง ......วงค์ ตาวัน...ข่าวสดออนไลน์
ผู้ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งยังมีปัญหากกต. ขอสอบสวนข้อกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีก่อน
เชื่อกันว่า เมื่อมีการร้องเรียนมากและมีน้ำหนัก ก็คงต้องสอบสวน
ก่อนจะจบลงแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น!?
เพราะดูเหมือนผู้คนทั้งสังคมไทยยังเชื่อว่า บางพรรคไม่มีวันโดนจับผิดภายใต้
กระบวนการสอบสวนเช่นนี้ได้
ยังเชื่อกันด้วยซ้ำว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นอีกพรรค คงม้วนเสื่อกลับบ้านล่วงหน้าได้เลย
นั่นเป็นความเชื่อของผู้คนในสังคมไทย ที่ต้องรอดูความจริงกันต่อไป
แต่ถ้ามองอีกด้าน เมื่อเกิดการสอบสวนว่าวิธีปราศรัยหาเสียง เข้าข่ายใส่ร้ายป้ายสี
หรือไม่ โดยเฉพาะวาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง
ควรมองในด้านดีว่า เป็นจังหวะที่สังคมไทยจะได้ค้นหาความจริงของเหตุการณ์
เผาบ้านเผาเมืองให้ถ่องแท้
เพราะถ้ามองว่าลงเอยประชาธิปัตย์ก็คงรอดเรื่องนี้อีก และคงป่าวตะโกนเผาบ้าน
เผาเมืองต่อไปอีก
เราอาจจะไม่ต้องไปคาดหวังกับการสอบสวนใดๆ แต่คาดหวังให้ผู้คนทั้งสังคมหู
ตาสว่าง มีภูมิคุ้มกันเมื่อต้องเผชิญกับสารพัดวาทกรรมของบางพรรคการเมือง
น่าจะดีกว่า
ดังนั้น ต้องช่วยกันทำให้สังคมได้รับรู้คำพิพากษาของศาลแพ่ง ซึ่งตัดสินแล้วว่า
เหตุการณ์เผาห้าง 3 แห่ง ในบ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 นั้น
ชี้ว่าไม่ใช่การก่อการร้าย!
ไม่ได้เชื่อมโยงกับคำป่าวประกาศของแกนนำม็อบ และไม่เชื่อมโยงกับผู้ชุมนุม
เพราะการเผาเกิดขึ้นหลังจากม็อบสลายหมดแล้ว
ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ ของฝ่ายเสื้อแดงหลงเหลืออยู่อีกแล้ว ในขณะที่มีการ
เผาห้างดังกล่าว
การเผาจึงเป็นเรื่องของคนอีกกลุ่มหนึ่ง
ผลการเผาไม่ได้ทำให้ข้อเรียกร้องของเสื้อแดงในการยุบสภาเกิดประโยชน์อะไร
ไม่ได้กดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องลาออกไป
เสื้อแดงไม่ได้อะไรเลยจากการเผาห้าง
ฝ่ายศอฉ.นั่นเอง ได้ประโยชน์เต็มๆ ทำให้ข้อหาความผิดต่อแกนนำเสื้อแดง
ครบองค์ประกอบ
รวมทั้งทำให้เกิดวาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง กลบเกลื่อนความตาย 99 ศพ
อาศัยจังหวะนี้ทำความจริงให้สังคมรู้เท่าทันกลเกมการเมือง น่าจะดีที่สุด!
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qa3lPREF3TkE9PQ==§ionid=
3 ปมป้ายสี - "ชายหมู" ร่วงหรือรอด? .....ข่าวสดออนไลน์
รายงานพิเศษ
3 ประเด็นที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นร้องให้กกต.ตรวจสอบ ด้วยเห็นว่าน่า
จะผิดตาม มาตรา 57 (5) พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหาร
ท้องถิ่น พ.ศ.2545
เพราะน่าจะเข้าข่ายการจูงใจให้ลงคะแนนหรืองดเว้นการลงคะแนน ด้วยการหลอกลวง
บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิด
คำร้องประกอบด้วย 1.กรณี นายศิริโชค โสภา โพสต์ภาพและข้อความผ่าน
เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเผาบ้านเผาเมือง
2. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปราศรัยว่า "อภิสิทธิ์เบอร์อะไร... (16)
ประชาธิปัตย์เบอร์อะไร... (16)"
3. นายเสรี วงศ์มณฑา โพสต์ในเฟซบุ๊ก "ใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้เพื่อไทย
ยึดครองกรุงเทพ ปราการด่านสุดท้ายที่เหลืออยู่ เราต้องถามตัวเองว่าจะลง
คะแนนให้ใครที่จะทำให้พงศพัศไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ คำตอบก็คือคุณชายสุขุมพันธุ์
หมายเลข 16"
สดศรี สัตยธรรม
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
...................................................................
สุขุม นวลสกุล
นักวิชาการทางรัฐศาสตร์
มีตัวอย่างที่เคย ทำในลักษณะเดียวกันมาแล้วแต่ก็ไม่เข้าข่ายมีความผิด เช่น
กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โจมตีเรื่องสั่งฆ่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ยื่นร้องกกต.
แต่ที่สุดกกต.ยกคำร้อง
หรืออย่างกรณี นายเรืองไกรร้องให้สอบเรื่องการฟอร์มทีมผู้เชี่ยวชาญ 31 คนว่า
ขัดกฎหมาย ผมว่า หยุมหยิม เพราะเป็นเพียงการเปิดให้เห็นว่าทีมงาน ผู้ช่วย
ผู้สนับ สนุนการทำงาน ยังไม่มีการแต่งตั้งด้วยซ้ำ
ส่วนการนำไปเปรียบเทียบกับกรณีกกต.ให้ใบแดงนายการุณ โหสกุล ที่หาเสียง
ใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องไปดูรายละเอียดทางคดี
การกล่าวลอยๆ ว่าผมซื้อเสียงแต่ผมไม่ได้ซื้อ ข้อกล่าวหาก็เป็นแค่ความเห็น
แต่หากระบุว่าผมซื้อเสียงที่นั่น ที่นี่ เมื่อนั่น เมื่อนี่ แต่ไม่ได้ซื้อก็แสดงว่าข้อกล่าว
หาเป็นเท็จ เป็นการป้ายสี
ใน 3 ประเด็นที่ร้องว่าใส่ร้าย การโพสต์ภาพเผาเมือง ภาพมาจากเหตุการณ์จริง
มีการเผาจริง ไม่ได้ตัดต่อว่าถูกเผา การหาเสียงอภิสิทธิ์ เบอร์ 16 ถามว่ามีใครที่
ไปลงคะแนนโดยเข้าใจว่านายอภิสิทธิ์เบอร์ 16 บ้าง
ที่ร้องว่า อ.เสรีระบุเรื่องยึดกรุง ถ้าอย่างนั้นพวกผมที่ไปออกรายการหรือให้ความ
เห็นต่างๆ ว่าเลือกตั้งเป็นอย่างนี้แล้วอาจารย์คิดอย่างไร ผมก็คาดเดาไปตามความ
เห็น ก็ผิดด้วยกันหมด
การร้องเรียนทำได้ แต่ผมในฐานะที่ติดตามการเลือกตั้งมาตลอดพอประเมินได้ว่า
มาตรฐานอย่างไรถึงจะโดน เรื่องร้องเรียนพวกนี้จึงไม่น่าจะมีปัญหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
ไม่น่าจะโดน
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qazBNakF3TVE9PQ==§ionid=
มีคอลัมน์วิเคราะห์ มาให้ช่วยกันคิด ....
แล้วก็มี กูรู... นักวิชาการรัฐศาสตร์มาตอบ....
แล้วอย่างเราปชช. ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ....
ยืนยันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ ไม่รู้ ...ว่า ยังไงก็ผ่าน
อยาก ...หน้าแตก.... จริงๆ นะ