จขกท. ทำงานแบบเซนต์สัญญา รายปี สองฉบับ (แบ่งเป็น ทดลองงาน กับ หลังทดลองงาน) รวมกัน หนึ่งปี
ที่ทำงานเป็นหน่วยงานเอกชน สำนักงานใหญ่อยู่ตปท. มีระเบียบและคู่มือพนักงานชี้แจงชัดเจน
งานที่ทำเป็นแบบโปรเจคจึงให้เซนต์ปีต่อปี
ในสัญญาจ้าง ระบุเรื่องของตำแหน่งและหน้าที่ รวมถึงระบุพื้นที่ทำงานที่ชัดเจนตั้งแต่ตกลงในวันสัมภาษณ์ และต่อรองเรื่องเงินเดือนกัน
พอเริ่มทำจริง ได้รับมอบหมายให้ "ดูๆหน่อย" อีกพื้นที่หนึ่ง คนละจังหวัด เราเห็นว่าโปรเจคเพิ่งเริ่ม จึงช่วยดูให้เพราะยังขาดกำลังคน
ต่อๆมา ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เกิดขึ้น ให้เรารับหน้าที่ในพท.เราตามปรกติ พท.ที่เราช่วยดูให้ ผลงานไม่ค่อยมี
กลับโดนตำหนิและให้ทำแผนงานรองรับการเพิ่มผลงาน ทั้งที่ก่อนหน้า หัวหน้าบอกแค่ว่า แค่ติดตามผลพอ
หลังจากนั้น นายใหญ่ลงมานิเทศงานก็ผนวกว่าให้เราเพิ่มเวลาดูแลอีกพท.ให้มากขึ้นเพราะเป้าหมายยังตก
เรานี่งงเป็นไก่ตาแตก ... นี่มันอะไรกัน
ขอขยายความนิดว่าตั้งแต่รับงานมาพบว่า โครงสร้างองค์กรในระดับพท. เซทให้คน สองคนรับผิดชอบโดยให้เราเป็นหัวหน้า และลูกน้องคอยดูเรื่องบช.รับ - จ่าย ทุกอย่างต้องผ่านเราหมด ดังนั้น เมื่อต้องรับผิดชอบสองที่ ทุกอย่าง
จนจะครบปี อีกสองเดือน เกิดการปรับโครงสร้าง หัวหน้ามาแจ้งกับจขกท.ว่า จะต้องย้ายเราออกไปดูพท.อื่น (ซึ่งเสกลใหญ่กว่าเดิม) และควบอีกที่เหมือนเดิม พอเราขอยังไม่ให้คำตอบ และขอคุยกับผู้ที่ตกลงกันเรื่องเงินเดือนและสัญญา
หัวหน้าติดต่อมาจะไม่ให้เราคุยกับนาย เราปฏิเสธเพราะเราต้องการคุยเพื่อให้นายรับรู้เรื่องสัญญาจ้างกับสิ่งที่ทำ ผลคือ
หัวหน้าโกรธ ที่ทราบเพราะพอนายส่งมาอธิบายเรื่องปรับโครงสร้าง (เราอยู่คนละประเทศ) มาต่อว่า ด้วยอารมณ์ส่วนตัว สรุป พยายามมาถามว่าเราจะคุยกับนายเรื่องอะไร เงินเดือนใช่ไหม บอกเลยว่าไม่ได้ เพราะเป็นช่วงทดลองปรับ และกำหนดไม่ได้ว่าจะถึงเมื่อไร
เราเริ่มเซ็ง เราทุ่มเททำงานให้ที่นี่ คนใกล้ชิดบอกว่าทำไปเถอะๆๆๆ อย่าเปรียบเทียบ ทำอะไรได้ทำไปเถอะ แต่เงยหน้าอีกที รอบข้างเราไม่มีใครทำเลย
พอเราเริ่มออกโรงหาความเป็นธรรม คนอื่นกลับถอยห่าง ไม่สุงสิง ซึ่งแต่ก่อนใช้ให้ทำหลายสิ่งอย่างนอกจากความรับผิดชอบหลัก และรองตามที่สั่งมา ซึ่งเราก็ช่วยเต็มที่
จนรู้สึกว่า ทุกคนเห็นแก่เรื่องของตน ส่วนหัวหน้าก็ ไม่ทำตามที่รับปากสักครั้ง เลยยื่นใบลาออก ไปลาออกกับหัวหน้า เรียกคุยอีก
ทีนี้ บอกไปตรงๆว่าหมดแรงจูงใจทำงานต่อแล้ว เจอแต่แบบนี้มันยุติธรรมกันไหม หัวหน้าก็ไม่ตอบอะไร ขอให้เราอยู่จนจบสัญญาได้ไหม
อยากให้เราคิดดีๆ ออกก่อนสัญญา ไม่ดีแน่ ถ้าเมื่อก่อนอาจจะเชื่อ แต่ตอนนี้เราดูแนวว่า ที่ขอเพราะหาคนทำแทนไม่ได้ หากเราออก คนทำงานจะหายไปถึงสองพท. (ถึงตอนนี้เราก็ทำสองพท.)
คำปรึกษาจากหลายฝ่าย บอกให้อดทน เดี๋ยวโดนใส่ประวัติไม่ดี ทนๆไปก่อน อย่าไปมีเรื่องกับหัวหน้า
และจนบัดนี้ เราขอคำชี้แจงเรื่องนี้ ตามหลักเราสามารถร้องเรียนได้ และก็ไม่มีเสียงตอบรับจากสวรรค์สั่งการลงมา
เป็นท่าน จะตัดสินใจกับเหตุการณ์เช่นนี้อย่างไรคะ
สัญญาจ้างงานกับการทำงานจริงไม่สมดุลกัน เราขอคุยเพื่อชี้แจงผิดมากไหมคะ
ที่ทำงานเป็นหน่วยงานเอกชน สำนักงานใหญ่อยู่ตปท. มีระเบียบและคู่มือพนักงานชี้แจงชัดเจน
งานที่ทำเป็นแบบโปรเจคจึงให้เซนต์ปีต่อปี
ในสัญญาจ้าง ระบุเรื่องของตำแหน่งและหน้าที่ รวมถึงระบุพื้นที่ทำงานที่ชัดเจนตั้งแต่ตกลงในวันสัมภาษณ์ และต่อรองเรื่องเงินเดือนกัน
พอเริ่มทำจริง ได้รับมอบหมายให้ "ดูๆหน่อย" อีกพื้นที่หนึ่ง คนละจังหวัด เราเห็นว่าโปรเจคเพิ่งเริ่ม จึงช่วยดูให้เพราะยังขาดกำลังคน
ต่อๆมา ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เกิดขึ้น ให้เรารับหน้าที่ในพท.เราตามปรกติ พท.ที่เราช่วยดูให้ ผลงานไม่ค่อยมี
กลับโดนตำหนิและให้ทำแผนงานรองรับการเพิ่มผลงาน ทั้งที่ก่อนหน้า หัวหน้าบอกแค่ว่า แค่ติดตามผลพอ
หลังจากนั้น นายใหญ่ลงมานิเทศงานก็ผนวกว่าให้เราเพิ่มเวลาดูแลอีกพท.ให้มากขึ้นเพราะเป้าหมายยังตก
เรานี่งงเป็นไก่ตาแตก ... นี่มันอะไรกัน
ขอขยายความนิดว่าตั้งแต่รับงานมาพบว่า โครงสร้างองค์กรในระดับพท. เซทให้คน สองคนรับผิดชอบโดยให้เราเป็นหัวหน้า และลูกน้องคอยดูเรื่องบช.รับ - จ่าย ทุกอย่างต้องผ่านเราหมด ดังนั้น เมื่อต้องรับผิดชอบสองที่ ทุกอย่าง
จนจะครบปี อีกสองเดือน เกิดการปรับโครงสร้าง หัวหน้ามาแจ้งกับจขกท.ว่า จะต้องย้ายเราออกไปดูพท.อื่น (ซึ่งเสกลใหญ่กว่าเดิม) และควบอีกที่เหมือนเดิม พอเราขอยังไม่ให้คำตอบ และขอคุยกับผู้ที่ตกลงกันเรื่องเงินเดือนและสัญญา
หัวหน้าติดต่อมาจะไม่ให้เราคุยกับนาย เราปฏิเสธเพราะเราต้องการคุยเพื่อให้นายรับรู้เรื่องสัญญาจ้างกับสิ่งที่ทำ ผลคือ
หัวหน้าโกรธ ที่ทราบเพราะพอนายส่งมาอธิบายเรื่องปรับโครงสร้าง (เราอยู่คนละประเทศ) มาต่อว่า ด้วยอารมณ์ส่วนตัว สรุป พยายามมาถามว่าเราจะคุยกับนายเรื่องอะไร เงินเดือนใช่ไหม บอกเลยว่าไม่ได้ เพราะเป็นช่วงทดลองปรับ และกำหนดไม่ได้ว่าจะถึงเมื่อไร
เราเริ่มเซ็ง เราทุ่มเททำงานให้ที่นี่ คนใกล้ชิดบอกว่าทำไปเถอะๆๆๆ อย่าเปรียบเทียบ ทำอะไรได้ทำไปเถอะ แต่เงยหน้าอีกที รอบข้างเราไม่มีใครทำเลย
พอเราเริ่มออกโรงหาความเป็นธรรม คนอื่นกลับถอยห่าง ไม่สุงสิง ซึ่งแต่ก่อนใช้ให้ทำหลายสิ่งอย่างนอกจากความรับผิดชอบหลัก และรองตามที่สั่งมา ซึ่งเราก็ช่วยเต็มที่
จนรู้สึกว่า ทุกคนเห็นแก่เรื่องของตน ส่วนหัวหน้าก็ ไม่ทำตามที่รับปากสักครั้ง เลยยื่นใบลาออก ไปลาออกกับหัวหน้า เรียกคุยอีก
ทีนี้ บอกไปตรงๆว่าหมดแรงจูงใจทำงานต่อแล้ว เจอแต่แบบนี้มันยุติธรรมกันไหม หัวหน้าก็ไม่ตอบอะไร ขอให้เราอยู่จนจบสัญญาได้ไหม
อยากให้เราคิดดีๆ ออกก่อนสัญญา ไม่ดีแน่ ถ้าเมื่อก่อนอาจจะเชื่อ แต่ตอนนี้เราดูแนวว่า ที่ขอเพราะหาคนทำแทนไม่ได้ หากเราออก คนทำงานจะหายไปถึงสองพท. (ถึงตอนนี้เราก็ทำสองพท.)
คำปรึกษาจากหลายฝ่าย บอกให้อดทน เดี๋ยวโดนใส่ประวัติไม่ดี ทนๆไปก่อน อย่าไปมีเรื่องกับหัวหน้า
และจนบัดนี้ เราขอคำชี้แจงเรื่องนี้ ตามหลักเราสามารถร้องเรียนได้ และก็ไม่มีเสียงตอบรับจากสวรรค์สั่งการลงมา
เป็นท่าน จะตัดสินใจกับเหตุการณ์เช่นนี้อย่างไรคะ