เรื่องจากต่วยตูน
มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนปลายรัชกาลที่สองนั้นพระเจ้ากรุงจีนได้ส่งพัดสีต่างๆมาถวาย รัชกาลที่สองจึงทรงรับสั่งให้สมเด็จอัครมเหสีและบรรดาเจ้าจอมทั้งหลายขึ้นเฝ้าเพื่อรับแจกพัด บรรดาเจ้าจอมขึ้นไปเฝ้าอยู่เป็นเวลานานสมเด็จพระอัครมเหสีก็ยังไม่เสด็จมา รัชกาลที่สองจึงทรงเลือกพัดอันหนึ่งซึ่งทรงพอพระราชหฤทัยมากเอาไว้ นอกจากนั้นก็ทรงแจกเจ้าจอมไปหมด เมื่อสมเด็จอัครมเหสีมาเฝ้าจึงทรงตรัสว่า พวกอีเด็กๆมันคอยนานจึงแจกพัดมันไปก่อนทรงเลือกไว้อันนึงที่เห็นว่างดงามกว่าอันอื่นๆ แล้วทรงยื่นพัดพระราชทานแก่อัครมเหสี แต่พอรับเสร็จก็ทรงปาพัดนั้นออกนอกพระราชตำหนัก แล้วก็ทรงกระทืบบาทดำเนินออกจากพระราชตำหนักไป ต่อจากนั้นทั้งสองพระองค์ก็ไม่ทรงพบปะกันเลย เพราะสมเดจอัครมเหสีทรงพาพระโอรสคือสมเด็จพระจอมเกล้าและสมเด็จพระปิ่นเกล้าออกไปประทับภายนอกพระราชวังหลวง
เมื่อทรงประชวรหนัก ทรงรับสั่งให้อัครมเหสีและพระโอรสเข้าเฝ้า สมเด็จอัครมเหสีก็ไม่ทรงพาพระโอรสเข้าเฝ้าตามพระราชประสงค์ ก็คงทรงกริ้วอยู่ในพระราชหฤทัย รัชกาลที่สองจึงทรงรับสั่งว่า เมื่อสวรรคตแล้วให้บรรดาขุนนางผู้ใหญ่ปรึกษากันเองว่าจะให้ใครเสวยราชสมบัติต่อจากพระองค์ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์จึงทรงได้ขึ้นครองราชย์ต่อ
พอดีไปเจอมากจากแฟนเพจ สมาคมประวัติศาสตร์ไทย เรื่อง "พัดบรรณาการจากจีน" ในสมัยรัชกาลที่๒ อยากถามว่าจริงเท็จแค่ไ
มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนปลายรัชกาลที่สองนั้นพระเจ้ากรุงจีนได้ส่งพัดสีต่างๆมาถวาย รัชกาลที่สองจึงทรงรับสั่งให้สมเด็จอัครมเหสีและบรรดาเจ้าจอมทั้งหลายขึ้นเฝ้าเพื่อรับแจกพัด บรรดาเจ้าจอมขึ้นไปเฝ้าอยู่เป็นเวลานานสมเด็จพระอัครมเหสีก็ยังไม่เสด็จมา รัชกาลที่สองจึงทรงเลือกพัดอันหนึ่งซึ่งทรงพอพระราชหฤทัยมากเอาไว้ นอกจากนั้นก็ทรงแจกเจ้าจอมไปหมด เมื่อสมเด็จอัครมเหสีมาเฝ้าจึงทรงตรัสว่า พวกอีเด็กๆมันคอยนานจึงแจกพัดมันไปก่อนทรงเลือกไว้อันนึงที่เห็นว่างดงามกว่าอันอื่นๆ แล้วทรงยื่นพัดพระราชทานแก่อัครมเหสี แต่พอรับเสร็จก็ทรงปาพัดนั้นออกนอกพระราชตำหนัก แล้วก็ทรงกระทืบบาทดำเนินออกจากพระราชตำหนักไป ต่อจากนั้นทั้งสองพระองค์ก็ไม่ทรงพบปะกันเลย เพราะสมเดจอัครมเหสีทรงพาพระโอรสคือสมเด็จพระจอมเกล้าและสมเด็จพระปิ่นเกล้าออกไปประทับภายนอกพระราชวังหลวง
เมื่อทรงประชวรหนัก ทรงรับสั่งให้อัครมเหสีและพระโอรสเข้าเฝ้า สมเด็จอัครมเหสีก็ไม่ทรงพาพระโอรสเข้าเฝ้าตามพระราชประสงค์ ก็คงทรงกริ้วอยู่ในพระราชหฤทัย รัชกาลที่สองจึงทรงรับสั่งว่า เมื่อสวรรคตแล้วให้บรรดาขุนนางผู้ใหญ่ปรึกษากันเองว่าจะให้ใครเสวยราชสมบัติต่อจากพระองค์ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์จึงทรงได้ขึ้นครองราชย์ต่อ