คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
จดไปก็เท่านั้นอ่ะ เพราะในเชิงกฏหมายก็เอาผิดไม่ได้อยู่ดี อย่างร้านที่วัดอรุณก็ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรงแต่สามารถเอาชุดแบบนี้มาให้เช่าได้ใช่มั้ยล่ะ (แต่ผมก็ไม่รู้เรื่องกฏหมายนะ ต้องรอดูคนที่เค้าแม่นๆกฏหมายลิขสิทธิ์มาตอบ) อย่างเวลาที่ประเทศอื่นๆใส่ชุดนี้เราก็ไม่เคยไปว่าเค้าใช่มั้ยล่ะ เพราะฉนั้นเราก็คงไปห้ามโดยใช้กฎหมายไปบังคับไม่ให้เขมรใส่ชุดนี้ แล้วโปรโมตว่าเป็นชุดประจำชาติมันไม่ได้แหละมั้งผมคิดว่าอย่างนั้นนะ
แต่ประเด็นของปัญหาคือเขมรมันไม่มีปัญญาคิดเองเลยต้องก้อปเราไปทั้งดุ้น เสร็จแล้วก็มาแก้เก้อด้วยการชิงตะโกนก่อนว่าเราก้อปมัน (มันคงร้อนตัวกลัวคนมองว่าคิดเองไม่เป็นแหละ) ทีนี้เรื่องของเรื่องคือ กรณีนี้มันเป็น cultural appropriation มันไม่ได้มีกฏหมายมาเอาผิดเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่คนที่เค้ามีจิตสำนึกจะไม่ทำกัน ส่วนเราที่มาเจอเขมรมันหน้าด้านเบอร์นี้ ก็คงมีทางออกทางเดียวคือ ต้องพยายามโปรโมตให้ทั้งโลกรู้ว่าวิวัฒนาการของชุดไทยเป็นยังงัยมายังงัย คือมีหลักฐานชัดเจนว่าชุดของแต่ละยุคเป็นยังงัย ชุดของแต่ละ๓ุมิภาคเป็นยังงัยมีเอกลักษณ์แบบไหน
และต้องมีอีกสิ่งที่ควรจะต้องทำอย่างยิ่งนอกจากโปรโมตว่าชุดเรามีวิวัฒนาการเป็นยังงัยแล้ว เราต้องทำให้ทั่วโลกรู้ให้ได้ว่า จริงๆแล้วที่เขมรมันเริ่มมีชุดสไตล์คล้ายๆกับเรา เพราะว่ามันรับวัฒนธรรมในวังเราไปหนักมากๆยุคต้นรัตนโกสินทร์ เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันกลายเป็นว่า เขมรเล่นใต้ดินเพื่อให้ภาพมันเบลอ ทุกครั้งที่มันตะโกนว่าเราก้อปมัน มันจะเอาข้ออ้างเดิมมาตลอดว่าเรารับวัฒนธรรมมันไปทุกอย่างตอนยุคอังกอร์ คุณลองไปสังเกตดูได้ ไม่ใช่แค่คอมเม้นท์จากชาวบ้าน แต่เวลามันโปรโมตวัฒนธรรมอะไรก็ตาม มันจะพยายามไปเข้ามุมนั้นตลอด เขียนตลอดว่าวัฒนธรรมนั้นๆของมันมีอิทธิพลไปยังเพื่อนบ้าน ทั้ง ไทย ลาว เวียดนามใต้ คือเราอ่ะซวยตรงที่โดนฝรั่งเศสมันวางยาเอาไว้ เขียนตำราให้มันเอามาอ้างอิง เวลาที่คนชาติอื่นๆเค้าเริ่มแปลกใจ เค้าไม่ได้ลงไปศึกษาละเอียดหรอกครับ เต็มที่เค้าก็แค่ไปดูวิกีพีเดีย (ที่เขมรมันเขียนเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ให้เข้าทางมัน รวมถึงบทความเกี่ยวกับเราด้วย) หรือไม่ก็กูเกิ้ลสักนาทีสองนาที พอเค้าไปเห็นรูปแผนที่ Angkor empire อ่านสักสองสามบรรทัดเค้าก็เชื่อแล้วล่ะครับว่า เราไปก้อปชุดมาจากเขมร คือคนเค้าก็รู้นะครับว่าวิกีพีเดียใช้อ้างอิงไม่ได้ แต่เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่สาระสำคัญของคนประเทศอื่นงัย เค้าก็แค่หาข้อมูลคร่าวๆแก้สงสัยเฉยๆ
อีกประเด็นที่เราควรจะต้องเข้าใจคือ สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของวัฒนธรรมร่วมแล้ว วัฒนธรรมร่วมมันมีเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละพื้นที่ด้วยครับ เอาแค่ประเทศไทยประเทศเดียว ถ้าเป็นคนไทยก็ดูออกทันทีว่าชุดไหนคือชุดท้องถิ่นสไตล์ของภูมิภาคไหน ไม่ต้องถึงขั้นให้ผู้เชี่ยวชาญมาดู แค่ชาวบ้านก็ดูออก อย่างชุดจีน เกาหลี มันเป็นวัฒนธรรมร่วมแต่เราก็ดูออกว่า อันไหนคือของประเทศอะไร แต่ประเด็นของเขมรกับไทยคือ เขมรมาซื้อชุดไทยดื้อๆเลย ชุดที่ออกแบบเพิ่มเติมในศตวรรษที่ 20 ด้วยซ้ำ อันนี้ไม่ใช่วัฒนธรรมร่วม อันนี้มันเรื่องของ cultural appropriation และก็หนักถึงขั้น plagiarize ด้วยซ้ำถ้าเขมรบอกว่ามันออกแบบเอง (เอาจริงๆมีหนักว่านั้นอีก เล่นเอาภาพจากนิตยสารไทย ไปแปะธงเขมรแล้วเอาลงเน็ต อันนี้รุ่นปลอมหลักฐานแล้ว)
สรุปก็คงประมานนี้อ่ะครับ โปรโมตชุดของเราให้โลกรู้ว่ามันมีวัฒนาการเป็นยังงัยมายังงัย พร้อมทั้งต้องทำให้โลกไปด้วยว่า มันรับชุดไหนของเราไปยุคไหนบ้าง แล้วไอ้ชุดของมันที่ก้อปปี้ชุดพระพันปีเราอ่ะ ต้องให้ชาวโลกรู้ว่าอันนี้มันก้อปปี้ไปแบบทั้งดุ้นนะ ชุดก็เพิ่งจะมาออกแบบเพิ่มเติมไม่กี่สิบปีมานี้เอง (อันนี้ต้องทำแยกกับที่โปรโมตของเรา)
อ่อ แล้วเผื่อใครที่คิดว่า มันพูดไปไม่มีประโยชน์หรอก นี่ก็ลองดูตัวอย่างนี้เลยครับ เมื่อวานผมดูมวยไทยของ one ในยูทูป ในช่องแชทพวกเขมรมันเข้าไปสแปมเป็นภาษาอังกฤษกันเต็มเลยครับว่า มวยไทยก้อปปี้ไปจากมัน พอผมไปดูกระทู้เชียร์สดของเว็บบอรด์ตปท. มันก็มีคนสงสัยจริงด้วยๆนะครับ ว่ามวยไทยเราก้อปปี้มัน[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เห็นมั้ยล่ะว่า เอาเข้าจริงๆแล้วคนส่วนใหญ่เค้าก็ไม่ได้จะรู้หรือสนใจอะไรลึกมากหรอกครับ เขมรมันต้องการให้ภาพมันเบลออย่างนี้ ยิ่งพอเราพูดว่าวัฒนธรรมร่วมมากเท่าไหร่ สุดท้ายมันก็กลายไปเป็นว่า พอคนที่เค้าอยู่ประเทศอื่นฟังแล้ว มันเหมือนเราเป็นฝ่ายไปก้อปมันจริงๆแล้วอ้างว่าวัฒนธรรมร่วมนะครับ เพราะฝั่งนึงบอกตลอดว่าเป็นเจ้าของและถูกก้อปปี้ไป อีกฝั่งพูดว่าวัฒนธรรมร่วม ถ้าผมเป็นคนกลางผมก็รู้สึกว่ามันเหมือนฝั่งหนึ่งหวงแหนวัฒนธรรมตัวเอง อีกฝั่งอยากจะใช้คำว่าวัฒนธรรมร่วมมาชุบมือเปิป เพราะสิ่งที่เห็นมันไม่ใช่วัฒนธรรมร่วมแต่เป็นการคัดลอกกันจนเกือบจะเหมือนกัน 100% เผลอๆที่เขมรมันหนักข้อขึ้นทุกวันก็อาจจะเพราะเหตผลนี้ก็ได้
ส่วนตัวผม ผมมองว่าเราควรจะชี้แจงมากกว่านะครับว่าจุดไหนที่มันก้อปเราไป
แต่ประเด็นของปัญหาคือเขมรมันไม่มีปัญญาคิดเองเลยต้องก้อปเราไปทั้งดุ้น เสร็จแล้วก็มาแก้เก้อด้วยการชิงตะโกนก่อนว่าเราก้อปมัน (มันคงร้อนตัวกลัวคนมองว่าคิดเองไม่เป็นแหละ) ทีนี้เรื่องของเรื่องคือ กรณีนี้มันเป็น cultural appropriation มันไม่ได้มีกฏหมายมาเอาผิดเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่คนที่เค้ามีจิตสำนึกจะไม่ทำกัน ส่วนเราที่มาเจอเขมรมันหน้าด้านเบอร์นี้ ก็คงมีทางออกทางเดียวคือ ต้องพยายามโปรโมตให้ทั้งโลกรู้ว่าวิวัฒนาการของชุดไทยเป็นยังงัยมายังงัย คือมีหลักฐานชัดเจนว่าชุดของแต่ละยุคเป็นยังงัย ชุดของแต่ละ๓ุมิภาคเป็นยังงัยมีเอกลักษณ์แบบไหน
และต้องมีอีกสิ่งที่ควรจะต้องทำอย่างยิ่งนอกจากโปรโมตว่าชุดเรามีวิวัฒนาการเป็นยังงัยแล้ว เราต้องทำให้ทั่วโลกรู้ให้ได้ว่า จริงๆแล้วที่เขมรมันเริ่มมีชุดสไตล์คล้ายๆกับเรา เพราะว่ามันรับวัฒนธรรมในวังเราไปหนักมากๆยุคต้นรัตนโกสินทร์ เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันกลายเป็นว่า เขมรเล่นใต้ดินเพื่อให้ภาพมันเบลอ ทุกครั้งที่มันตะโกนว่าเราก้อปมัน มันจะเอาข้ออ้างเดิมมาตลอดว่าเรารับวัฒนธรรมมันไปทุกอย่างตอนยุคอังกอร์ คุณลองไปสังเกตดูได้ ไม่ใช่แค่คอมเม้นท์จากชาวบ้าน แต่เวลามันโปรโมตวัฒนธรรมอะไรก็ตาม มันจะพยายามไปเข้ามุมนั้นตลอด เขียนตลอดว่าวัฒนธรรมนั้นๆของมันมีอิทธิพลไปยังเพื่อนบ้าน ทั้ง ไทย ลาว เวียดนามใต้ คือเราอ่ะซวยตรงที่โดนฝรั่งเศสมันวางยาเอาไว้ เขียนตำราให้มันเอามาอ้างอิง เวลาที่คนชาติอื่นๆเค้าเริ่มแปลกใจ เค้าไม่ได้ลงไปศึกษาละเอียดหรอกครับ เต็มที่เค้าก็แค่ไปดูวิกีพีเดีย (ที่เขมรมันเขียนเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ให้เข้าทางมัน รวมถึงบทความเกี่ยวกับเราด้วย) หรือไม่ก็กูเกิ้ลสักนาทีสองนาที พอเค้าไปเห็นรูปแผนที่ Angkor empire อ่านสักสองสามบรรทัดเค้าก็เชื่อแล้วล่ะครับว่า เราไปก้อปชุดมาจากเขมร คือคนเค้าก็รู้นะครับว่าวิกีพีเดียใช้อ้างอิงไม่ได้ แต่เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่สาระสำคัญของคนประเทศอื่นงัย เค้าก็แค่หาข้อมูลคร่าวๆแก้สงสัยเฉยๆ
อีกประเด็นที่เราควรจะต้องเข้าใจคือ สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของวัฒนธรรมร่วมแล้ว วัฒนธรรมร่วมมันมีเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละพื้นที่ด้วยครับ เอาแค่ประเทศไทยประเทศเดียว ถ้าเป็นคนไทยก็ดูออกทันทีว่าชุดไหนคือชุดท้องถิ่นสไตล์ของภูมิภาคไหน ไม่ต้องถึงขั้นให้ผู้เชี่ยวชาญมาดู แค่ชาวบ้านก็ดูออก อย่างชุดจีน เกาหลี มันเป็นวัฒนธรรมร่วมแต่เราก็ดูออกว่า อันไหนคือของประเทศอะไร แต่ประเด็นของเขมรกับไทยคือ เขมรมาซื้อชุดไทยดื้อๆเลย ชุดที่ออกแบบเพิ่มเติมในศตวรรษที่ 20 ด้วยซ้ำ อันนี้ไม่ใช่วัฒนธรรมร่วม อันนี้มันเรื่องของ cultural appropriation และก็หนักถึงขั้น plagiarize ด้วยซ้ำถ้าเขมรบอกว่ามันออกแบบเอง (เอาจริงๆมีหนักว่านั้นอีก เล่นเอาภาพจากนิตยสารไทย ไปแปะธงเขมรแล้วเอาลงเน็ต อันนี้รุ่นปลอมหลักฐานแล้ว)
สรุปก็คงประมานนี้อ่ะครับ โปรโมตชุดของเราให้โลกรู้ว่ามันมีวัฒนาการเป็นยังงัยมายังงัย พร้อมทั้งต้องทำให้โลกไปด้วยว่า มันรับชุดไหนของเราไปยุคไหนบ้าง แล้วไอ้ชุดของมันที่ก้อปปี้ชุดพระพันปีเราอ่ะ ต้องให้ชาวโลกรู้ว่าอันนี้มันก้อปปี้ไปแบบทั้งดุ้นนะ ชุดก็เพิ่งจะมาออกแบบเพิ่มเติมไม่กี่สิบปีมานี้เอง (อันนี้ต้องทำแยกกับที่โปรโมตของเรา)
อ่อ แล้วเผื่อใครที่คิดว่า มันพูดไปไม่มีประโยชน์หรอก นี่ก็ลองดูตัวอย่างนี้เลยครับ เมื่อวานผมดูมวยไทยของ one ในยูทูป ในช่องแชทพวกเขมรมันเข้าไปสแปมเป็นภาษาอังกฤษกันเต็มเลยครับว่า มวยไทยก้อปปี้ไปจากมัน พอผมไปดูกระทู้เชียร์สดของเว็บบอรด์ตปท. มันก็มีคนสงสัยจริงด้วยๆนะครับ ว่ามวยไทยเราก้อปปี้มัน[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เห็นมั้ยล่ะว่า เอาเข้าจริงๆแล้วคนส่วนใหญ่เค้าก็ไม่ได้จะรู้หรือสนใจอะไรลึกมากหรอกครับ เขมรมันต้องการให้ภาพมันเบลออย่างนี้ ยิ่งพอเราพูดว่าวัฒนธรรมร่วมมากเท่าไหร่ สุดท้ายมันก็กลายไปเป็นว่า พอคนที่เค้าอยู่ประเทศอื่นฟังแล้ว มันเหมือนเราเป็นฝ่ายไปก้อปมันจริงๆแล้วอ้างว่าวัฒนธรรมร่วมนะครับ เพราะฝั่งนึงบอกตลอดว่าเป็นเจ้าของและถูกก้อปปี้ไป อีกฝั่งพูดว่าวัฒนธรรมร่วม ถ้าผมเป็นคนกลางผมก็รู้สึกว่ามันเหมือนฝั่งหนึ่งหวงแหนวัฒนธรรมตัวเอง อีกฝั่งอยากจะใช้คำว่าวัฒนธรรมร่วมมาชุบมือเปิป เพราะสิ่งที่เห็นมันไม่ใช่วัฒนธรรมร่วมแต่เป็นการคัดลอกกันจนเกือบจะเหมือนกัน 100% เผลอๆที่เขมรมันหนักข้อขึ้นทุกวันก็อาจจะเพราะเหตผลนี้ก็ได้
ส่วนตัวผม ผมมองว่าเราควรจะชี้แจงมากกว่านะครับว่าจุดไหนที่มันก้อปเราไป
แสดงความคิดเห็น
ไทยสามารถขอจดสิทธิบัตร/ลิขสิทธิ์ ชุดไทยพระราชนิยมได้ไหมครับ
ปล. ไม่ได้จะจดเพื่อห้ามชาติอื่นใช้นะครับ แต่จดให้คนที่เอาไปใช้รู้ว่ามันเป็นของที่คนไทยช่วยกันรังสรรค์ขึ้น