น.ส.พิกุล ทักษิณวราจาร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงแผนการดูแลการซื้อขายสินค้าบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตว่ากรมฯ ขอแจ้งเตือนผู้ประกอบการที่เป็นทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ที่ไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ให้เร่งรีบจดทะเบียนกับกรมฯ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ เพราะไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 ซึ่งมีโทษปรับเป็นรายวันจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังต้องการเตือนบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ห้ามนำเครื่องหมายดีบีดี รีจิสเตอร์ หรือดีบีดี เวอริฟายด์ ที่กรมฯออกให้เพื่อรับรองความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมฯ ซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ซึ่งมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับด้วย สาเหตุที่กรมฯต้องดูแลการทำธุรกิจซื้อขายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด เพราะที่ผ่านมา เริ่มเกิดปัญหาการซื้อขายเพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการซื้อสินค้า เพราะข้อมูลสินค้าไม่ชัดเจน มีการถูกฉ้อโกง สินค้าที่ได้รับไม่ถูกต้องตามที่สั่งซื้อ และรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อต้องชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
“บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่กรมฯภายใน 30 วัน นับจากวันที่ดำเนินธุรกิจ ซึ่งกรมฯจะออกเครื่องหมายดีบีดี รีจิสเตอร์ เพื่อรับรองการจดทะเบียนและให้ผู้ประกอบการนำไปแสดงบนหน้าเว็บไซต์ ให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของผู้ขายผ่านเครื่องหมายดังกล่าว ได้นอกจากนี้ ยังออกเครื่องหมายดีบีดี เวอริฟายด์ เพื่อรับรองความน่าเชื่อถือให้ผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย ที่ทำธุรกิจได้ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ เว็ปไซต์ trustmarkthai” น.ส.พิกุลกล่าว.
http://www.thairath.co.th/content/eco/330522
พาณิชย์เตือนขายของผ่านเน็ตจดทะเบียนภายใน 30 วัน
นอกจากนี้ ยังต้องการเตือนบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ห้ามนำเครื่องหมายดีบีดี รีจิสเตอร์ หรือดีบีดี เวอริฟายด์ ที่กรมฯออกให้เพื่อรับรองความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมฯ ซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ซึ่งมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับด้วย สาเหตุที่กรมฯต้องดูแลการทำธุรกิจซื้อขายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด เพราะที่ผ่านมา เริ่มเกิดปัญหาการซื้อขายเพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการซื้อสินค้า เพราะข้อมูลสินค้าไม่ชัดเจน มีการถูกฉ้อโกง สินค้าที่ได้รับไม่ถูกต้องตามที่สั่งซื้อ และรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อต้องชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
“บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่กรมฯภายใน 30 วัน นับจากวันที่ดำเนินธุรกิจ ซึ่งกรมฯจะออกเครื่องหมายดีบีดี รีจิสเตอร์ เพื่อรับรองการจดทะเบียนและให้ผู้ประกอบการนำไปแสดงบนหน้าเว็บไซต์ ให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของผู้ขายผ่านเครื่องหมายดังกล่าว ได้นอกจากนี้ ยังออกเครื่องหมายดีบีดี เวอริฟายด์ เพื่อรับรองความน่าเชื่อถือให้ผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย ที่ทำธุรกิจได้ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ เว็ปไซต์ trustmarkthai” น.ส.พิกุลกล่าว.
http://www.thairath.co.th/content/eco/330522