ผมอ่าน  กระทู้ ที่ จขกท เขียนไว้ข้างบน   ยัง สับ สน อยู่พอสมควร

                       แต่ถ้าเป็นเรื่องการให้บริการ    ที่ไม่ใช่การซื้อขายสินค้า  

                       ขั้นแรก   จขกท   ควรจะทำใบแจ้งหนี้  ขึ้นมาก่อน นะครับ   ในใบแจ้งหนี้  1 ชุดนี้  ควรจะมีเอกสารหลายใบ   ใบแรก เป็นใบต้นฉบับ    ใบที่สองเป็นสำเนา  ใบที่สาม สำหรับวางบิล เรียกเก็บเงิน  ใบที่สี่  สำหรับ แผนกบัญชี   ใบที่ห้า  สำหรับแผนก ช่าง

                       เมื่อให้บริการ แก่ลูกค้า เสร็จแล้ว    เราก็ออกใบแจ้งหนี้   ไปให้ลูกค้า เซ็นรับ เอกสาร  พร้อมส่งงานให้ลูกค้า   โดยมอบใบต้นฉบับ กับสำเนาให้ลูกค้าไป  ส่วนใบที่เหลือ  ก็นำกลับมา บริษัท

                       พอถึงเวลา  วางบิล เก็บเงิน   เรา ก็ เอาใบแจ้งหนี้  ใบที่สาม  สำหรับ วางบิล ไปวาง บิล ที่บริษัทลูกค้า  ตาม วันและเวลาที่ลูกค้าจะกำหนด

                      พอถึงวันกำหนด รับเงิน   ทาง เรา  ก็ต้องออกใบเสร็จ รับเงิน  ขึ้นมา  1 ชุด  อย่างน้อยต้องมี    มีใบต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน   ใบสำเนาใบเสร็จรับเงินไปมอบให้กับลูกค้า  พร้อม เซ็นชื่อในเอกสาร แสดงการรับเงิน    แล้ว เราก็ มอบใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ ให้ลูกค้าไป  1 ใบ  พร้อมกับรับเงินสดหรือ เช็ค    นำกลับมาบริษัท พร้อมกับ สำเนาใบเสร็จรับเงิน อีก  1 ใบ ครับ   นอกจากนั้น ทางลูกค้า ก็จะต้องมอบใบต้นฉบับ การหักภาษี ณ ที่จ่าย  มาให้เรา  1  ใบด้วย     จำนวนเงินหรือ จำนวนเงินในเช็ค ที่ได้รับ   เราจะได้รับ จำนวนเงินที่น้อยกว่า ยอดเงินที่ได้ ระบุในใบแจ้งหนี้ นะครับ  เพราะจะถูกหัก เป็นค่า ภาษี หัก ณ ที่จ่าย ไว้


                       ทั้งหมด นี้ เป็นการขั้นตอน การทำเอกสาร ทั้งหมด นะครับ   บางขั้นตอน เราอาจจะตัดตอนเพื่อความเหมาะสม  ก็ได้ครับ  แล้วแต่ กิจกรรมของบริษัทของเราครับ  

                       ทบทวน อีกครั้งนะครับ     ถ้าเป็นใบแจ้งหนี้    ลูกค้า ต้องเป็นคนเซ็นรับ    ส่วน  ใบเสร็จรับเงิน   เรา  ต้องเป็นคนเซ็นรับเงินจากลูกค้า    ไม่ใช่ให้ลูกค้า เซ็น ร้บ นะครับ  เพราะลูกค้าไม่ได้รับเงินจากเรา ครับ    อย่าสับสนนะครับ    

                      ขอให้โชคดีครับ