คุณยิ่งลักษณ์ครับ ถึงเวลาที่จะต้องชนะใจพวกปัญญาชนบ้างแล้วครับ

กระทู้สนทนา
มาถึงวันนี้ แม้คุณยิ่งลักษณ์จะสามารถครองใจเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ยังมีปัญญาชนส่วนหนึ่งที่คุณยิ่งลักษณ์ยังไม่สามารถชนะใจได้ อาจเป็นเพราะเวลาการทำงานยังเป็นช่วงสั้น จนทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะหันมาเอาใจใส่กลุ่มปัญญาชนเหล่านี้ แต่ถึงวันนี้ ผมเห็นว่าควรเหมาะแก่เวลาแล้วครับ ดังนั้นผมจึงขออนุญาตเสนอแนวคิด เพื่อให้คุณยิ่งลักษณ์นำไปประกอบพิจารณา แล้วนำมาปฏิบัติจนชนะใจคนกลุ่มนี้ให้ได้นะครับ

คุณยิ่งลักษณ์ครับ ปัญญาชนกลุ่มนี้ เขาไม่สนใจหรอกครับ ถ้าคุณยิ่งลักษณ์จะพูดโกหกตลบตะแลงอย่างไรก็ได้ เขาไม่สนใจหรอกครับ ถ้าคุณยิ่งลักษณ์จะพูดอย่างทำอย่าง ขอแต่ต้องมีคำอธิบายที่มันเก๋ๆเข้าไว้ อย่าง “บริบทมันเปลี่ยนไป” ฟังดูแล้วมันเท่มากเลยนะครับ

ดังนั้นที่ผมจะแนะนำก็คือ คุณยิ่งลักษณ์ต้องยอมสละเวลาช่วงที่อยู่หน้ากระจก แล้วหัดพูดอะไรต่อมิอะไรที่ฟังดี เข้าไว้ อย่าไปใส่ใจกับข้อเท็จจริงมากนัก และต้องพยายามทำหน้าตายให้เป็นนะครับ นั่นแหละครับถึงจะถูกจริตของเหล่าปัญญาชน ดีกว่าการพูดจากใจ แต่ผิดๆถูกๆ แบบนั้นปัญญาชนเขาไม่ปลื้มนะครับขอบอก

คุณยิ่งลักษณ์ครับ การต้อนรับแขกเหรื่อด้วยรอยยิ้มไมตรีจิตอย่างเดียวคงไม่ได้นะครับ ต้องหัดต่อล้อต่อเถียงกับแขกบ้าง เพื่อแสดงถึงความเป็นชาติมหาอำนาจที่ทัดเทียมกัน แบบนั้นแหละครับปัญญาชนเขาช๊อบชอบ ผมเข้าใจครับมันอาจฝืนความรู้สึก อาจจะขัดกับการอบรมมารยาทในการต้อนรับแขกที่คุณยิ่งลักษณ์เคยเรียนรู้มา แต่เพื่อต้องการเอาชนะใจคนกลุ่มนี้ บางครั้งคุณยิ่งลักษณ์อาจจำเป็นต้องทำบ้างนะครับ

ผมรู้ดีครับ มันเป็นเรื่องยากสำหรับคุณยิ่งลักษณ์ และคงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ดังนั้นผมจึงขอแนะนำคุณยิ่งลักษณ์ต้องยอมลดตัว เชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาเป็นติวเตอร์ ซึ่งคงไม่มีใครมีประสบการณ์อย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกับคุณอภิสิทธิ์แล้วครับ ผู้ได้ฝากผลงานเมื่อครั้งเป็นเจ้าภาพประชุมอาเซี่ยน จนสร้างความภาคภูมิใจแก่ปัญญาชนเหล่านั้นมากมายจนเป็นที่กล่าวขวัญถึง เพียงแต่ช่วงนี้อยู่ในช่วงเลือกตั้ง กทม. และจากการหาเสียงได้แสดงออกแล้วว่า คุณอภิสิทธิ์มองรัฐบาลเป็นเพียงพวกศัตรู ดังนั้นการลดตัวของคุณยิ่งลักษณ์อาจไม่ประสบผล

แต่ผมก็ได้เตรียมทางออกที่สองให้แล้วครับ คนๆนี้อาจไม่ดีเท่าคนแรกในด้านประสบการณ์ทะเลาะกับแขก แต่ประสบการณ์เที่ยวทะเลาะกับมิตรประเทศนั้นเหลือเฟือเลยครับ ใช่แล้วครับ คุณกษิตคนนี้นี่เอง คนที่ฝากผลงานอันลือเลื่องด้วยการตามล่าคุณทักษิณไปทั่วโลก สร้างความรำคาญใจให้กับประเทศต่างๆที่เข้าพบ ดังนั้นคุณยิ่งลักษณ์อาจต้องอาศัยประสบการณ์ด้านนี้ของคุณกษิตมาประยุกต์ใช้กับการต่อล้อต่อเถียงกับแขกน่าจะพอได้นะครับ

ข้อสำคัญนะครับ คนๆนี้ไม่ค่อยจะสนใจเรื่องศักดิ์เรื่องศรีอะไรมากมาย และไม่ใช่คนเอาพวกเอาพ้องเสียด้วย ดูอย่างตอนเป็นพันธมิตรฯสิครับ พอได้เป็นรัฐมนตรี ก็หันหลังให้กับพันธมิตรฯโดยไม่ลังเล โดยไม่เคอะเขิน ดังนั้นถ้าคุณยิ่งลักษณ์จะเชิญมาเป็นติวเตอร์จึงดูจะง่ายกว่านะครับ โอกาสผิดหวังแทบจะเป็นศูนย์เลยครับ

คุณยิ่งลักษณ์ครับ คุณยิ่งลักษณ์พลาดไปอย่างแรงเลยนะครับที่ปล่อยให้คุณสุกำพลไปร่วมรับประทานอาหารกับคุณเตียบันที่เขาพระวิหารอย่างเปิดเผย อย่างนี้ปัญญาชนเขาไม่ปลื้มนะครับ แถมยังเป็นงานเลี้ยงแค่ข้าวเหนียวไก่ย่าง แบบนี้มันทำให้เราเสื่อมเกียรติอย่างมาก ปัญญาชนเขารับไม่ได้นะครับ

ความจริงเรื่องแบบนี้ ผมไม่จำเป็นต้องแนะนำด้วยซ้ำไป ตัวอย่างก็มีให้เห็นๆ ต้องแบบนี้ครับคุณยิ่งลักษณ์ ต้องให้คุณสุกำพลไปรับประทานแกงเลียงครับ ต้องไปอย่างลับๆ และต้องไม่ใช่เขาพระวิหาร แต่ควรเป็นฮ่องกงหรือเมืองคุนหมิง แบบนั้นสิครับ ปัญญาชนเขาปลื้มสุดๆ เข้าใจนะครับคุณยิ่งลักษณ์ คราวหลังเอาใหม่นะครับ ผมขอเอาใจช่วยครับ

คุณยิ่งลักษณ์ครับ ผมไม่แน่ใจการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งนี้ที่ชูนโยบายไร้รอยต่อจะถูกใจหรือเปล่านะครับ ผมหวั่นใจอย่างไรชอบกล เพราะการไร้รอยต่อนั้น จะทำให้ไม่มีเรื่องดราม่าเลยนะครับ ปัญญาชนส่วนใหญ่มีหน้าทีการงานที่ดี ฐานะส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างมั่นคง ดังนั้นคนกลุ่มนี้เขาไม่สนใจหรอกครับเรื่องนโยบาย ไม่สนใจหรอกครับเรื่องความเจริญ เขาไม่สนใจหรอกครับใครพูดอะไรแล้วทำหรือไม่ทำ แม้แต่กล้องดัมมี่ อุโมงค์ยักษ์อะไรเทือกนั้นก็ไม่สนใจ ที่เขาสนใจนั่นคือ ความเป็นดราม่าต่างหากครับ เรื่องนี้คนอีกฟากเขาเข้าถึงมากกว่าคุณยิ่งลักษณ์อย่างเห็นได้ชัด

คุณยิ่งลักษณ์คงจะเห็นด้วยตาตัวเอง ทั้งๆที่การเลือกตั้งที่ผ่านมา จากการสำรวจโพลต่างๆ ล้วนแต่ให้พรรคของคุณยิ่งลักษณ์นำมาเป็นระยะ แม้ต่างจังหวัดจะเป็นไปตามโพล แต่สำหรับกรุงเทพ เมืองแห่งปัญญาชน ผลกลับกลายเป็นตรงข้าม นั้นเป็นเพราะช่วงสุดท้าย ดราม่ากันสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นหลั่งน้ำตาที่ราชประสงค์ หรือนอนร้องไห้ให้เมียปลอบ แม้จะเป็นการร้องหลังจากเกิดเหตุผ่านไปเป็นปี แม้จะเป็นการร้องไห้ตอนหาเสียง แต่ปัญญาชนก็ไม่นำพา

ครั้งนี้ก็เช่นกัน คุณยิ่งลักษณ์คงได้เห็นการหลั่งน้ำตาเป็นระยะ ยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายยิ่งหลั่งน้ำตาเป็นว่าเล่น ดังนั้นเพื่อชนะใจปัญญาชน ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ ผมอยากให้คุณพงศพัศร้องไห้เป็นการส่งท้ายครับ ยิ่งร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่ายิ่งดีครับ ลองเอาน้ำตาเข้ามาสู้ในวันสุดท้าย เพื่อเรียกร้องคะแนนจากเหล่าปัญญาชนอีกทางหนึ่ง ดีไหมครับ

สุดท้ายสำหรับเรื่องถ่ายรูปกัมนัมสไตล์ โทรศัพท์กลางพระราชพิธี ยืนบนฐานพระเจดีย์หรือใส่บูทราคาแพงตอนช่วยน้ำท่วม คุณยิ่งลักษณ์ก็ทำตามแบบเดิม คงไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อเอาใจใครหรอกครับ เพราะพวกนั้นมันแค่ พวก “ปัญญาชนปัญญาอ่อน”เท่านั้นเอง ปล่อยให้เขาไปเลือกพรรคปัญญาอ่อนได้ตามใจชอบเถิดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่