จุดสำคัญที่สุดที่เราจะต้องศึกษาให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้องก็คือเรื่องที่ว่า “แท้จริงมันไม่ได้มีตัวเราอยู่จริง” เพราะนี่คือหัวใจปัญญาที่จะนำมาใช้ประกอบกับศีลและสมาธิเพื่อกำจัดความทุกข์ของจิตใจ ซึ่งเรื่องนี้เราจะต้องมาศึกษาถึงอำนาจของ “สิ่งสูงสุด” ที่ครอบงำทุกสิ่งทุกอย่างในโลกและในเอกภพนี้อยู่ เมื่อเราเข้าใจถึงอำนาจของสิ่งสูงสุดนี้แล้ว เราก็จะเข้าใจได้เองว่ามันไม่ได้มีตัวตนที่เป็นเราหรือตัวตนของใครๆอยู่จริงเลย มีแต่ตัวเราหรือตัวตนที่เป็นมายาเท่านั้น
สิ่งสูงสุด ก็หมายถึง สิ่งที่มีอำนาจสูงสุดในเอกภพ ที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ คือควบคุมทั้งเรื่องการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายหายไป (สิ่งสูงสุดนี้บางศาสนาก็เรียกเปรียบเทียบให้เป็น “บุคคล” เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายว่า “พระเจ้า” หรือ “เทพเจ้า”) โดยสิ่งสูงสุดที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้นี้พระพุทธเจ้าบอกว่าแท้จริงมันก็คือ กฎของธรรมชาติ ที่เรียกว่า กฎอิทัปปัจจยตา ที่แปลว่า การอาศัยกันแล้วเกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งกฎนี้มีใจความโดยสรุปว่า
“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น จะต้องมีเหตุหลายๆเหตุมาร่วมกันปรุงแต่งให้เกิดขึ้น”
กฎสูงสุดของธรรมชาติ
สิ่งสูงสุด ก็หมายถึง สิ่งที่มีอำนาจสูงสุดในเอกภพ ที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ คือควบคุมทั้งเรื่องการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายหายไป (สิ่งสูงสุดนี้บางศาสนาก็เรียกเปรียบเทียบให้เป็น “บุคคล” เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายว่า “พระเจ้า” หรือ “เทพเจ้า”) โดยสิ่งสูงสุดที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้นี้พระพุทธเจ้าบอกว่าแท้จริงมันก็คือ กฎของธรรมชาติ ที่เรียกว่า กฎอิทัปปัจจยตา ที่แปลว่า การอาศัยกันแล้วเกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งกฎนี้มีใจความโดยสรุปว่า
“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น จะต้องมีเหตุหลายๆเหตุมาร่วมกันปรุงแต่งให้เกิดขึ้น”