คำว่า ปัญญา ในทางพุทธศาสนาจะหมายถึง ความรอบรู้ในเรื่องการกำจัดทุกข์ ซึ่งปัญญาในพุทธศาสนาจะแบ่งออกได้ ๓ ระดับ อันได้แก่
๑. ปัญญาที่เกิดมาจากการฟังหรืออ่าน
๒. ปัญญาที่เกิดมาจาการคิดพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล
๓. ปัญญาที่เกิดมาจากการปฏิบัติจนบังเกิดผลขึ้นมาจริงแล้ว
เมื่อเราอ่านหรือฟังเรื่องการกำจัดทุกข์ที่ถูกต้องมาแล้ว เราก็แค่เพียงจำได้เท่านั้น ซึ่งแทบไม่มีผลอะไรเลย แต่ถ้าเราเอาสิ่งที่จำได้นี้มาคิดพิจารณาไตร่ตรองหาเหตุหาผลของมัน ก็จะเกิดเป็นความเข้าใจขึ้นมา ซึ่งความเข้าใจนี้ก็ยังมีผลไม่มากนัก (แค่ความทุกข์ตามปกติของชีวิตลดน้อยลงบ้างเท่านั้น) แต่เมื่อเรานำเอาความเข้าใจนี้ปฏิบัติจนเกิดผลขึ้นมาจริงๆ (คือความทุกข์ได้ดับลงหรือลดลงจริงๆแม้เพียงชั่วคราว) ก็จะเกิดเป็นความเห็นแจ้งขึ้นมาทันที ซึ่งปัญญาขั้นเห็นแจ้งนี้คือปัญญาสูงสุดของพุทธศาสนา
(จาก
http://www.whatami.net/for/bud.html )
ปัญญา ๓ ระดับ
๑. ปัญญาที่เกิดมาจากการฟังหรืออ่าน
๒. ปัญญาที่เกิดมาจาการคิดพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล
๓. ปัญญาที่เกิดมาจากการปฏิบัติจนบังเกิดผลขึ้นมาจริงแล้ว
เมื่อเราอ่านหรือฟังเรื่องการกำจัดทุกข์ที่ถูกต้องมาแล้ว เราก็แค่เพียงจำได้เท่านั้น ซึ่งแทบไม่มีผลอะไรเลย แต่ถ้าเราเอาสิ่งที่จำได้นี้มาคิดพิจารณาไตร่ตรองหาเหตุหาผลของมัน ก็จะเกิดเป็นความเข้าใจขึ้นมา ซึ่งความเข้าใจนี้ก็ยังมีผลไม่มากนัก (แค่ความทุกข์ตามปกติของชีวิตลดน้อยลงบ้างเท่านั้น) แต่เมื่อเรานำเอาความเข้าใจนี้ปฏิบัติจนเกิดผลขึ้นมาจริงๆ (คือความทุกข์ได้ดับลงหรือลดลงจริงๆแม้เพียงชั่วคราว) ก็จะเกิดเป็นความเห็นแจ้งขึ้นมาทันที ซึ่งปัญญาขั้นเห็นแจ้งนี้คือปัญญาสูงสุดของพุทธศาสนา
(จาก http://www.whatami.net/for/bud.html )