จากมติชนออนไลน์

สำนักข่าวมีนาของทางการอียิปต์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนายเอซซาด ซาอัด ผู้ว่าราชการจังหวัดลักซอร์ ให้บริษัทต่างๆที่ดำเนินธุรกิจการบินด้วยบอลลูนทุกชนิด ยุติการให้บริการไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว และห้ามบอลลูนลมร้อนบินขึ้นจากเมืองลักซอร์โดยเด็ดขาด หลังเกิดเหตุบอลลูนตกที่ทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 19 ราย

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการระบุว่า คำสั่งห้ามนี้จะมีผลบังคับใช้ไปนานเพียงใด ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเฮชาม กันดีล ของอียิปต์ได้สั่งการให้สอบสวนเรื่องอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วย

อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวจากหลายชาติเสียชีวิต ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และฮังการี ทั้งนี้มีรายงานว่า ในช่วงเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นช่วงที่บอลลูนกำลังร่อนลงจอด เชือกที่ใช้สำหรับการลงจอดเข้าไปพันกับท่อส่งก๊าซฮีเลียม ก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ ทำให้บอลลูนพุ่งขึ้นสู่อากาศอย่างรวดเร็ว ต่อมาท่อส่งก๊าซอีเลียมเกิดระเบิด และร่วงลงในระดับความสูง 300 เมตร สู่ไร่อ้อย นอกหมู่บ้านอัล-ดาบา ทางตะวันตกของเมืองลักซอร์ แต่ผู้ควบคุมบอลลูนและนักท่องเที่ยวรายหนึ่งรอดชีวิต

การท่องเที่ยวโดยใช้บอลลูน เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในการชมพื้นที่โบราณสถานต่างๆที่เรียงรายตลอดสองฝั่งแม่น้ำไนล์ของเมืองลักซอร์ อาทิ หุบเขากษัตริย์ และวิหารลักซอร์

โดยบอลลูนที่ประสบเหตุดังกล่าว เป็น 1 ใน 9 บอลลูน ที่มีจุดปล่อยบริเวณตอนเหนือของเมืองลักซอร์ ทางชายฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ในช่วงเช้าวานนี้ (26 ก.พ.) ที่ดำเนินการโดยบริษัทสกาย ครูซ ที่ระบุว่า กระบอกสูบก๊าซเกิดระเบิดขึ้น ขณะบอลลูนลอยอยู่เหนือพื้นดินราว 300 เมตร

ก่อนหน้าในปี 2009 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 13 คน ได้รับบาดเจ็บ เมื่อบอลลูนลมร้อนลอยไปชนกับเสาโทรศัพท์ และ ตกลงกระแทกพื้นที่เมืองลักซอร์ แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนั้นบอลลูนบรรทุกผู้โดยสารมาเกินอัตรา และอุบัติเหตุบอลลูนตกในอียิปต์ ก็เกิดขึ้นในช่วงที่กำลังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในประเทศนี้ ซึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงมาแล้วหลายครั้งทั้งด้านการขนส่งและสิ่งปลูกสร้าง